‘กล้าธรรม’พร้อมชิงเก้าอี้รองปธ.สภา

‘ธรรมนัส’งัดข้อพท.

เดินสายเคลียร์พรรคร่วมช่วย

ชี้รบ.เสียงปริ่มน้ำแต่ยังไปได้

‘เจิมศักดิ์’ฟันธง‘อิ๊งค์’ตกเก้าอี้

ช่วยร่างใบลาออกให้ล่วงหน้า

“ธรรมนัส” เผยจัดสัมมนาพรรคกล้าธรรม โชว์ความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจ รัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ ยันพรรคกล้าธรรมมีสิทธิเสนอชื่อชิงรองปธ.สภาฯ มอบเลขาฯพรรคไปคุยพรรคร่วม แจง 3 เสียงภูมิใจไทยโหวตหนุนรัฐบาลไม่ใช่ฝีมือกล้าธรรม “อนุสรณ์” สวนกลับปม “งูเห่าค่าตัว 8 หลัก” หลัง “ภราดร”ปูดกลางสื่อ บอกเป็นเรื่องในพรรคภูมิใจไทย “ทักษิณ”เตรียมทอดผ้าป่าวัดบ้านไร่19 กรกฎาคม

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ที่โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา จังหวัดชลบุรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนาพรรคกล้าธรรม ในวันที่ 11 -13 กรกฎาคมครั้งนี้ว่า เป็นการจัดสัมมนาของพรรคกล้าธรรมครั้งแรก มี ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละภาค มาแสดงพลังว่าเราพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มความสนิทสนมของสมาชิกพรรค ซึ่งไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็พร้อม ทั้งนี้การเป็นนักการเมือง โดยเฉพาะหากเป็นสถาบันการเมืองก็ต้องมีความพร้อม นักการเมืองพร้อมเสมอ ดังนั้นการจัดเวทีสัมมนาครั้งนี้ก็เป็นการประกาศ ให้สมาชิกพรรคเรารู้ว่าเรามีความพร้อม

ชูนโยบายเพื่อคนฐานรากสู้ศึกเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า แสดงว่าพรรคประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่าอาจจะมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามกรอบเวลาอย่างไรก็ไม่เกินปี 2570 ซึ่งตอนนี้ก็เหลือเวลาแค่หนึ่งปีกว่า ซึ่งมองว่าไม่นานแป๊บเดียวเท่านั้น ดังนั้นต้องมีความพร้อมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมจะชูยุทธศาสตร์อะไรในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเราได้รับมอบหมายให้กำกับ 2 กระทรวงใหญ่ คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ ดังนั้นเราจะเน้นเรื่องของคนฐานราก โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา กับเรื่องของพี่น้องเกษตรกร รวมถึงผู้ใช้แรงงานภาคการเกษตร ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งหมดกว่า 50 ล้านคน โดยพรรคกล้าธรรมจะชูวิธีการให้คนเหล่านี้พ้นกับดักความยากจน

ปัดคุยการเมือง“ทักษิณ”ที่บ้านพิษ

ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยว่าในช่วงเช้าที่วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหามาตรการรับมือกำแพงภาษีสหรัฐอเมริกา ที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งไปในนามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่พรรคกำกับดูแล ขณะเดียวกันตนเองได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม ในฐานะเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เมื่อถามว่า นายทักษิณเป็นห่วงถูกฟ้องเรื่องการครอบงำหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ในการหารือวันนี้ไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล แต่เชิญในฐานะผู้ที่ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ไปหารือ

เมื่อถามว่า นายทักษิณให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แต่ละฝ่ายที่ร่วมประชุมให้ข้อเสนอ และที่ประชุมเห็นตรงกันว่า การดำเนินการต้องคำนึงถึงคนไทยเป็นอันดับแรก

“โดยเฉพาะภาคการเกษตร ซึ่งนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเน้นย้ำการคำนึงถึง พี่น้องเกษตรกร และไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องเกษตรกร ที่ถือว่าเป็นนัยยะเรื่องสำคัญ โดยในที่ประชุมวันนี้คุยเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง มีเพียงการพูดคุยเรื่องการยกระดับมาตรฐานภาษีของสหรัฐอเมริกา“ ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

มั่นใจรัฐบาลไปรอดแม้เสียงปริ่มน้ำ

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวถึงการเลือกผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกัน ส่วนเรื่องเสียงพรรคร่วมรัฐบาลปริ่มน้ำ ได้หยิบยกชี้ให้เห็นว่ายุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะนั้นก็เสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนเองได้คุมเสียงในสภาไม่มีปัญหาอะไรผ่านมาได้ หากพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคีและนำตัวเลขมาคุยกันเชื่อว่าองค์ประชุมจะรอดไปได้

“ถ้าคนอยู่ในแวดวงการเมืองมานาน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2541 สมัยพรรคไทยรักไทยเห็นอะไรมาเยอะ สถานการณ์การเมือง ณ เวลานี้ ผมอยู่วงในผมรู้ รู้ว่าสถานการณ์การเมืองตอนนี้เอาอยู่หรือไม่เอาอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เรากับพรรคร่วมจะต้องคุยกัน ถามว่าสถานการณ์อย่างนี้ มีเสถียรภาพหรือไม่ มันอยู่ที่พรรคร่วมรัฐบาลถ้าจับมือกันก็มีเสถียรภาพ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ยันกธ.มีสิทธิเสนอชื่อชิงรองปธ.สภา

เมื่อถามว่า ในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรค กธ.จะเสนอบุคคลดำรงตำแหน่งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรค กธ.มีสิทธิเสนอ โดยจะให้ สส.ในพรรคหารือกันเรื่องนี้ เพราะพรรคมีความเป็นประชาธิปไตย 100% ที่ต้องถามเสียงส่วนใหญ่ โดยมอบหมายเลขาธิการพรรค กธ.ไปพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนักการเมืองด้วยกันได้คุยเหมือนเดิมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็นภาพในสภาก็มีแต่พูดคุยเหมือนเดิม และไม่เคยสร้างศัตรูทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล

การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุว่า การจะดึงพรรคภูมิใจไทยกลับมา มีความเป็นได้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ทุกอย่างการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีมิตรแท้และไม่มีศัตรูที่ถาวร ด่ากันในสภาออกมาก็กอดคอกัน อย่าคิดมาก เมื่อถามว่า หากมองสถานการณ์การเมืองขณะนี้นายอนุทินมีโอกาสหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองในตำแหน่งผู้นำจะมีโอกาสหรือไม่มีโอกาสอยู่ที่เสียง สส.หรือโหวตเตอร์ เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสามารถรวบรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ก็มีโอกาสทุกคน

เมื่อถามว่า มีการรองรับกรณีอุบัติเหตุทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันที่นัดพรรคร่วมรัฐบาลหารือกัน คงต้องคุยกันในเรื่องนี้ และย้ำว่าในฐานะที่ดูแล สส.กว่า 30 คนต้องรักษาเสียงให้เต็มตลอดเวลา ในการโหวตทุกครั้ง อย่างการโหวตในวันพุธที่ผ่านมา เสียงพรรค กธ.เต็มทุกครั้ง ไม่มีขาด

ถ้าพรรคร่วมคุมเสียงได้ก็ไร้ปัญหา

เมื่อถามถึงการเมืองยังไม่ถึงทางตันใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถ้าประสบการณ์ที่ทำการเมืองมา เสียงปริ่มน้ำ เป็นเสียงที่เตือน สส.ว่าต้องพร้อมในการโหวตเรื่องทุกวาระ ไม่น่ามีปัญหาถ้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคกำชับเสียง เมื่อถามว่า มีโอกาสเปลี่ยนขั้วการเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรที่แน่นอน

เมื่อถามถึงเสียงของรัฐบาลในตอนนี้มีเท่าไหร่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 260 เสียง ส่วนที่ไม่เป็นทางการนั้น ตนไม่ทราบ เมื่อถามว่า เท่าที่พยากรณ์ เสียง สส.ฝ่ายค้านที่ออกไป มีโอกาสกลับมาหนุนรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่างที่เห็น อย่าให้ตนพูดมาก เมื่อถามย้ำว่า อาจจะมีมามากกว่า 3 คนล่าสุดที่โหวตให้รัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่แน่ การเมืองไม่แน่นอน เมื่อถามว่า เป็นในส่วนที่พรรค กธ.ดีลมาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ เที่ยวนี้จะสังเกตเห็นว่า ตนหาย ไม่ได้ซุ่มไปทำอะไร แต่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

เมื่อถามว่า วันที่ 22 ก.ค. ที่จะมีการนัดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล จะมีการหารือถึงสถานการณ์การเมืองหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดกันตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แล้ว ซึ่งตนเป็นผู้เสนอเองว่า ควรจะมีการคุยกันทุกเดือน ทั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เพื่อเตรียมพร้อมเสมอ การที่มันจะรอดหรือไม่รอดมันอยู่ที่สภา ถ้าสภาเข้มแข็งการเมืองก็รอด

“เจิมศักดิ์”เขียนใบลาออกให้“อิ๊งค์”

วันเดียวกัน รองศาสตราจารย์ ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่น ทอง ระบุว่า นายกแพทองธารชิงลาออก

ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย คงไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ เราคงได้เห็นสื่อมวลชน พาดหัวข่าวดังที่ปรากฏข้างต้น เหตุของการลาออก 1. ศาลรัฐธรรมนูญ มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะวินิจฉัยให้ นางสาวแพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และขาดไร้ซึ่งคุณธรรมจริยธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างร้ายแรงโดยเฉพาะในเรื่องความมั่นคงต่อชาติ

ซึ่งจะต้อง ขาดคุณสมบัติในการทำงานการเมืองตลอดไป จึงยากต่อการปฏิบัติงานหรือดำรงตำแหน่งที่สำคัญแม้ในหน่วยงานเอกชน

2. เพื่อประโยชน์สูงสุดของตนและครอบครัวที่ยึดมาโดยตลอด การลาออกจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากไม่มีประวัติเลวร้ายติดตัว ยังอ้างได้ว่ามี จิตสำนึกแสดงสปิริตของผู้นำ

3. การลาออกก่อนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญยุติการวินิจฉัย อ้างเหตุเมื่อนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยต่อไป

4. ทักษิณและพรรคเพื่อไทยยังมีทางที่จะยื้ออำนาจให้คงอยู่นานที่สุด โดยการเสนอคุณชัยเกษม นิติศิริ เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่หากมีความยากลำบากเนื่องจากเสียงปริ่มน้ำ ก็ทำตามแผนสองที่ นายทุนใหญ่กำลังวิ่งเต้นเกลี้ยกล่อม ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเวลานั้นพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะได้กลับมาร่วมรัฐบาลต่อไป

โปรดสังเกตการเปลี่ยนแปลงในปลายเดือนกรกฎาคมต้นเดือนสิงหาคมนี้ หาก พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ไม่ประสงค์จะกลับมา การชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยคุณชัยเกษม และคุณอนุทิน(โดยการสนับสนุนของพรรคประชาชนที่มีเงื่อนไขเป็นรัฐบาลเฉพาะการเฉพาะกิจ ) ก็อาจจะเกิดขึ้น

สรุป เราคงได้เห็นหนังสือกราบ บังคมทูลลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเร็วๆ นี้ ทั้งยังร่างหนังสือให้ นส.แพทองธาร เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ในการลาออก (อ่านรายละเอียดหน้า 2 )

“วิสุทธิ์”ชี้การโหวตถือเป็นเอกสิทธิ์

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า สส.งูเห่าเติมเสียงให้รัฐบาลจำนวน 8 หลักเพื่อแก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ ว่า ในอดีตที่เขาไปอยู่พรรคภท.เป็นงูเห่าหรือไม่ ช่วงหนึ่งที่ไปหาพรรค ภท. ในสมัยที่พรรค พท.ไหลไปพรรค ภท.เยอะแยะ เป็นงูเห่าหรืองูเขียว ตอนนี้ สส.พรรคภท.ที่มา เป็นงูเห่าหรือเป็นเอกสิทธิ์ของเขา บางคนมองว่าการใช้สิทธิ์ในการลงมติในสภาฯ เป็นเอกสิทธิ์ สส.3 คนของพรรค ภท. เขาอาจมีความคิดว่าสิ่งไหนที่เขาจะทำเราไปบังคับจิตใจเขาไม่ได้ว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ฉะนั้น เอกสิทธิ์ วันนี้ สส. 3 คนจะไปว่าเขาเป็นงูเห่าทำไม

“ตอนที่เขาไปพรรคภูมิใจไทยเรียกว่าอะไร อุดมการณ์หรืออย่างไร ตอนที่หนีไปอยู่พรรคคุณยุคหนึ่งจำได้หรือไม่ กลับไปดูหน่อยอันนั้นเป็นอุดมการณ์หรือไม่ที่ย้ายไปอยู่พรรคคุณ พอมาลงคะแนนให้รัฐบาลเป็นงูเห่าหรือ ในฐานะที่เป็นวิปรัฐบาลผมไม่ทราบด้วยซ้ำว่าชื่ออะไร แต่เชื่อว่า เขามาด้วยเอกสิทธิ์ สส. คนเป็นผู้แทนไปบังคับเขาไม่ได้หรอก เป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของผู้แทน 3 คนอาจจะคิด หรืออยากเห็นรัฐบาลไปต่อ ก็เป็นเอกสิทธิ์ของเขา อย่าไปบังคับเขา ผู้แทนไม่ใช่ทาส” นายวิสุทธิ์ กล่าว

“อนุสรณ์”สวนกลับปมงูเห่าค่าตัว8หลัก

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเผยว่า คาดไม่ถึงว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีงูเห่า แต่รู้ว่าค่าตัวอยู่ที่ระดับ 8 หลัก โดยระบุว่า เรื่องนี้ถือเป็น ปัญหาภายในของพรรคภูมิใจไทย และดูเหมือนว่าขณะนี้ยังมีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค

ก่อนหน้านี้ นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เพิ่งออกมาขอร้องว่า อย่าด่วนตัดสินว่า 3 สส.ของพรรคเป็นงูเห่า หลังโหวตสวนมติพรรคในร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่ติดตามข่าวเกิดความสับสน ไม่รู้จะฟังใครดี เพราะให้ความเห็นไปคนละทิศคนละทางกันอย่างสิ้นเชิง

นายอนุสรณ์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนเพิ่ม และพยายามทดแทนปริมาณเสียงที่น้อยลงด้วยคุณภาพที่เพิ่มขึ้น ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ว่า พรรคที่เคยดูดงูเห่ามาก่อน วันนี้กำลังเจอกับปัญหาเดิมนั้น เชื่อว่าประชาชนสามารถตัดสินใจเองได้

“ฝ่ายค้านต้องคิดให้ดีในการขอนับองค์ประชุม เพราะนอกจากสภาจะไม่ล่มแล้ว สส.รัฐบาลยังพร้อมทำงาน เข้าประชุมเต็มที่ พร้อมรับการนับองค์ประชุมทุกเมื่อ” นายอนุสรณ์กล่าว พร้อมระบุว่า ฝ่ายค้านควรหันกลับไปตรวจสอบเสียงภายในของตนเอง ว่าควบคุมได้แค่ไหน ก่อนจะออกมาโวยวายหรือโยนความผิดให้คนนอกพรรค ถ้าควบคุมเสียงภายในพรรคตัวเองไม่ได้ ก็ต้องถามตัวเองก่อนว่าเกิดจากอะไร” นายอนุสรณ์ กล่าว

“ทักษิณ”ทอดผ้าป่าวัดบ้านไร่19 ก.ค.

วันเดียวกัน ที่วัดบ้านไร่ ต.กุพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นายสนอง หวังหยิบกลาง ประธานกรรมการบริหารโครงการสร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก,ไวยาวัจกร วัดบ้านไร่ พร้อมด้วย พระราชวชิรสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาลำดับที่ 1 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการฯ และคณะกรรมการ ได้มีการประชุม ในการเตรียมความพร้อมต้อนรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก และเททองหล่อส่วนฐานรับองค์หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 นี้

นายสนอง เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2568 ทางคณะศิษย์ยานุศิษย์และผู้มีจิตศรัทธา ได้มีการร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล เพื่อสมทบทุนสร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ความกว้างหน้าตัก 16 เมตร ความสูง 24.9 เมตร กระบองความยาว 15 เมตร ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 4 วาระ จากจำนวน 12 วาระ ซึ่งในวันงานจะมีนายทักษิณ มาเป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล และเททองหล่อส่วนฐานรับองค์หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ พร้อมด้วย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการฯ , พล.อ.ปัญจะ ธรรมศรี รองประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการฯ และแขกผู้มีเกียรติ ในส่วนของ พระราชวชิรสีมาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาลำดับที่ 1 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โครงการฯ เป็นองค์ประธานรับผ้าป่าสามัคคี

กำหนดการทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 17-18-19 กรกฎาคม 2568 โดยในวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2568 จะมีกิจกรรมปฏิบัติธรรม รักษาศีล เจริญจิตตภาวนา ครั้งที่ 4 เพื่ออุทิศบุญถวายแด่ พระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ และในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 เวลา 13:00 น ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึง พร้อมเป็นประธานในการทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล และเททองหล่อส่วนฐานรับองค์หลวงพ่อคูณองค์ใหญ่

เปิดให้ร่วมสมทบทุนเป็นเจ้าภาพ

สำหรับผู้ใจบุญต้องการที่จะร่วมในการทำบุญจองเป็นเจ้าภาพ ไม่ว่าจะเป็นจองเป็นเจ้าภาพกระเบื้องมุงหลังคา ราคาตารางเมตรละ 650 บาท , เป็นเจ้าภาพเหล็กเส้น ขนาด 20 มม. ราคาเส้นละ 590 บาท ขนาด 16 มม. ราคาเส้นละ 390 บาท ขนาด 12 มม. ราคาเส้นละ 190 บาท และขนาด 9 มม. ราคาเส้นละ 110 บาท หรือสามารถจองเป็นเจ้าภาพแผ่นพื้นสำเร็จรูป ราคาแผ่นละ 550 บาท รวมไปถึงจองเป็นเจ้าภาพเหล็กตะแกรงไวร์เมช ราคาม้วนละ 3,760 บาท

ทั้งนี้ สามารถร่วมสมทบทุนจองเป็นเจ้าภาพ ธนาคารออมสิน เลขบัญชีที่ 020-304415-696 ชื่อบัญชีวัดบ้านไร่ ( เพื่อโครงการวัดบ้านไร่สร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่) สอบถามข้อมูล 065-194-4449 , 064-394-4449

‘ธรรมนัส’งัดข้อพท.