‘นันทนา’ ย้ำจุดยืน ‘สว.’ ต้องชะลอเลือก ‘องค์กรอิสระ’ ท่ามกลางครหา ‘คดี ฮั้ว’ ไม่หวั่นแม้ถูกไล่ออกจากห้องประชุม กระตุกสำนึก ‘เสียงข้างมาก’ หยุดดึงดันทำเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเอง
เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงจุดยืนต่อกรณีที่ประชุมวุฒิสภาจะมีการโหวตเลือกองค์กรอิสระในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ว่า ต้องฟ้องประชาชนว่าคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางคณะที่ 26 ที่ตั้งร่วมระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ กกต.ได้สรุปสำนวนส่งไปยัง กกต.แล้ว ซึ่งมีบุคคลที่ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 229 คน หมายความว่าข้อกล่าวหามีมูลความจริง ใกล้ถึงจุด กกต.ที่จะรับรองและส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้ง แต่เหตุใดวุฒิสภายังเดินหน้าที่จะเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอยู่ จึงขอฟ้องประชาชนว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะคดีงวดเข้ามาแล้ว และตำแหน่งที่กำลังจะลงมติในวันพรุ่งนี้คือ กกต. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ท่าน หากมีการเห็นชอบให้บุคคลเหล่านี้เข้าไปดำรงตำแหน่งจะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์อย่างชัดเจน เพราะ กกต.จะมีอำนาจในการส่งฟ้องศาลอาญา ส่วนศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการไต่สวนและวินิจฉัยในเรื่องการได้มาซึ่ง สว.ที่มิชอบ
น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน สว.เสียงข้างมากได้ทำหน้าที่ยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ในฐานะผู้ร้อง และยังเป็นผู้ถูกร้อง แต่มีอำนาจที่จะส่งคนเข้าไปในองค์กรอิสระ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำโดยจริยธรรม โดยจิตสำนึก ควรชะลอการลงมติไปก่อน ให้คดีของท่านทั้งหลายเป็นที่ยุตตว่าบริสุทธิ์จึงค่อยกลับมาลงมติก็ยังไม่สายเกินไป แต่การเร่งรีบเพื่อให้มีการบรรจุญัตติคงทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ความจริงแล้วเป็นประโยชน์แฝงเร้นให้กับตนเองและพรรคพวกของตนเอง เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาในคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลางคณะที่ 26 มี สว.ที่ถูกกล่าวหา 138 คน เท่ากับ 3 ใน 4 ของสภาฯ ท่านยังดึงดันที่จะลงมติเลือกคนที่จะไปพิจารณาและตัดสินคดี สิ่งเหล่านี้เหมาะสมหรือไม่ ประชาชนคงไม่อยากจะเห็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรมอันเกิดขึ้นมาจากการลงมติของ สว.เสียงข้างมากที่ดันทุรังจะใส่คนให้เข้าไปในองค์กรอิสระพิจารณาคดีของตนเอง เป็นความขัดกันของผลประโยชน์อย่างชัดเจน
น.ส.นันทนา กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีคนบอกว่าหากไม่ทำก็จะขัดต่อกฎหมายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น ยืนยันว่าการชะลอการลงมติไม่เข้าข่ายมาตรา 157 ทั้งนี้มีนักกฎหมายหลายท่านพูดแล้วว่าการที่ สว.จะชะลอการลงมติเห็นชอบบุคลากรในองค์กรอิสระออกไปนั้น เป็นเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย ในขณะที่ตนเองเป็นผู้ถูกกล่าวหาแล้วไปทำหน้าที่ให้คนไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระก็เหมือนกับไปเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของตนเอง ขณะที่ประชาชนรอดูอยู่ว่าผลของการตรวจสอบที่มาของ สว.จะเป็นอย่างไร แต่ขณะเดียวกัน สว.เสียงข้างมากยังลงมติเพื่อจะเลือกคนที่ตนเองคิดว่าเหมาะสมเข้าไป และเมื่อเป็นคนที่เหมาะสมของตนเองก็ส่งผลต่อคดีไปในทิศทางบวกให้กับตนเองหรือไม่ การชะลอการลงมติไม่ได้เข้าข่ายการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ เพราะเมื่อคดีของท่านสิ้นสุดแล้วพบว่า ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่านสามารถกลับมาลงมติให้บุคคลในองค์กรอิสระนั้นได้ ถ้าเขาอยู่ครบวาระแล้วไม่มีใครมาแทนหรือสรรหาใครมาเพิ่ม เขาสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะได้คนใหม่
“ท่านก็รอสิ รอให้คดีของท่านสิ้นสุดก่อนแล้วต่อไปท่านจะมาลงมติก็ไม่เป็นที่สงสัย เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชนใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นยืนยันว่าการชะลอลงมติจะทำให้ สว.สง่างาม เป็นจิตสำนึกที่ดี ท่านกำลังใช้จริยธรรมชั้นสูงในการพยุงรักษากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จึงเรียกร้องวิงวอนให้ยุติชะลอการลงมติในการเลือก กกต.และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ออกไปก่อน ถ้าท่านตัดสินใจที่จะชะลอประชาชนจะแซ่ซ้องสรรเสริญว่า ท่านทำเพื่อประเทศชาติ แต่ถ้าท่านยังดึงดันที่จะใส่คนเข้าไปในองค์กรอิสระก็แปลว่า ท่านไม่เห็นหัวประชาชน ท่านยังดึงดันที่จะทำเพื่อประโยชน์แห่งท่านและกลุ่มของท่านเท่านั้น” น.ส.นันทนา กล่าว
น.ส.นันทนา กล่าวด้วยว่า ตนเองค้านเรื่องนี้มาหลายรอบแล้ว โดยวันพรุ่งนี้(22ก.ค.) นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.จะยื่นญัตติขอให้ชะลอการลงมติต่อไป แต่เท่าที่ทราบน่าจะไม่ได้รับการบรรจุญัตติที่เป็นหนังสือ แต่ด้วยสิทธิของ สว.เราสามารถที่จะยื่นญัตติที่เป็นวาจาตามมาตรา 40 (1) ได้เพื่อคัดค้านต่อไป ตนเองทำหน้าที่คัดค้านตั้งแต่วันที่ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จนกระทั่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา มีการสรุปสำนวนก็ยังเรียกร้องต่อไป เพื่อให้ สว.หยุดการทำในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจของประชาชนทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว ตนเองก็จะคัดค้านต่อไป แม้ว่าจะถูก สว.บางท่านไล่ออกจากห้องประชุมหรือกล่าวหาว่าตนเองเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ประชาชนเป็นพยานว่าสิ่งที่ตนเองทำคือ รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ให้กระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ไม่บิดเบี้ยว เพราะฉะนั้นจะเดินหน้าต่อไม่ว่าจะได้รับผลกระทบ แรงกระแทกอย่างไร จะสู้ต่อเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมในประเทศยุติธรรมอย่างแท้จริง และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งประเทศ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี