นักวิชาการเตือน
เร่งงบ1.57แสนล.
ส่อหนุนการเมือง
เลือกตั้งสมัยหน้า
เรื่องนี้อันตรายมาก! นักวิชาการเตือน“กรมบัญชีกลาง”เปิดช่องเร่งใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าน “ล็อกสเปก-ราคา”เอื้อผูกขาดรายเดียว ไร้การตรวจสอบ หวั่นแฝงใช้เป็น“เครื่องมือการเมือง”สู้ศึกเลือกตั้งรอบหน้า “ไอติม”ลั่นลุยตรวจสอบแน่นอนหลังกรมบัญชีกลางให้หน่วยงานเร่งเขียนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดักคอเปิดข้อมูลโปร่งใส ไม่ใช่แค่กระดาษแปะแผ่นเดียวจะชี้วัดประสิทธิภาพ-การกระจายงบได้ หลังถูกครหาสะสมกระสุนรับเลือกตั้งครั้งหน้า
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวถึงกรณีหนังสือจากกรมบัญชีกลางที่อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดซื้อจัดจ้างในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 157,000 ล้านบาท แม้มีผู้ยื่นประมูลเพียงรายเดียว โดยไม่ต้องยกเลิกหรือประกาศใหม่ว่า น่ากังวล เรื่องนี้อันตรายมาก เพราะการเปิดให้ประมูลรายเดียวก็ได้งาน เท่ากับลดทอนกลไกการแข่งขัน เสี่ยงต่อการล็อกสเปก ล็อกราคา และเปิดช่องให้เอกชนบางรายได้เปรียบ โดยไร้การตรวจสอบ
รศ.ดร.โอฬาร กล่าวต่อว่า โครงการทั้งหมดถูกเร่งรัดให้ลงนามสัญญาให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 ก.ย.2568 ซึ่งเหลือเวลาเพียงไม่ถึง 70 วัน สะท้อนความพยายามเร่งเบิกงบอย่างเร่งด่วนจนขาดความรอบคอบ
“สิ่งที่น่าห่วงไม่ใช่แค่เรื่องความหละหลวม แต่คือข้อสงสัยว่า งบก้อนใหญ่นี้ อาจถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เป็นการตุนกระสุน สู้ศึกเลือกตั้งในอนาคตหรือไม่” รศ.ดร.โอฬาร กล่าว
รศ.ดร.โอฬาร กล่าวด้วยว่า หากการใช้จ่ายงบประมาณไม่มีความโปร่งใส และเกิดขึ้นพร้อมกับกิจกรรมทางการเมืองหรือโครงการประชานิยมในบางพื้นที่ ก็อาจถูกมองได้ว่าเป็น การหาเสียงแฝงด้วยงบประมาณแผ่นดิน
“นี่คือความเสี่ยงต่อธรรมาภิบาลและความยุติธรรม ในการใช้งบประมาณ หากไม่มีการตรวจสอบถ่วงดุลอย่างจริงจัง อาจกลายเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ของงบกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง”รศ.ดร.โอฬาร กล่าว
ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กรมบัญชีกลาง ทำหนังสือถึงปลัด อธิบดี ผู้ว่าฯ ผู้บริหารท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงาน จัดซื้อจัดจ้างงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท สามารถยื่นประมูลรายเดียว รับงานได้เลยนั้น ว่า งบดังกล่าวเป็นงบของปี2568 ด้วยความรวดเร็วที่รัฐบาลวางไว้ในการใช้งบก้อนนี้ ทางฝ่ายค้านเองก็ต้องทำงานอย่างรวดเร็วเช่นกันในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินการ รวมถึงเรื่องของความกระจายตัวของงบในพื้นที่เพราะมีข้อครหาจากหลายกลุ่มว่ามีการกระจุกงบในบางพื้นที่เราอยากให้คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ทัดเทียมกัน ซึ่งเราจะทำงานคู่ขนานกับการตรวจสอบงบปี2569 ส่วนรูปแบบในการทำงานคือใช้กรรมาธิการสามัญเพื่อติดตามงบประมาณ แต่หากมีความจำเป็นสามารถตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเป็นการเฉพาะ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส
“การเปิดเผยข้อมูลไม่ใช่แค่ประเภทของข้อมูล แต่รูปแบบของการเปิดคือทำอย่างไรให้ข้อมูลที่เปิดเผยมาไม่ใช่เป็นแค่การถ่ายภาพแปะ ที่ทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ยาก แต่เป็นข้อมูลตารางที่สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อได้ ระหว่างที่โครงการดำเนินอยู่เราต้องตรวจสอบ แต่เมื่อดำเนินไปแล้วเราต้องมีการตรวจสอบย้อนหลังเช่นกัน ส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลว่าเราตรวจสอบเรื่องนี้แน่นอน” นายพริษฐ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกระเบียบมาอย่างเร่งรีบจะเป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริตหรือฮั้วประมูลหรือไม่นั้น นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถ้ามองอย่างเป็นธรรมก็เข้าใจเจตนาของงบประมาณก้อนนี้คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงทำให้ความคาดหวังของรัฐบาลคือดำเนินการให้เร็ว ในมุมของเราต้องป้องกันความเสี่ยงคือการตรวจสอบอย่างรวดเร็วเช่นกัน ต้องดูรายละเอียดของแต่ละโครงการ
เมื่อถามว่าการเขียนโครงการเข้ามาจะตรงกับวัตถุประสงค์กับการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ เพราะเคยมีการเขียนขอตู้น้ำดื่มมา นายพริษฐ์กล่าวว่า ต้องพิจารณาเป็นรายโครงการทั้งประเภทและการกระจายตัว แต่ละพื้นที่อาจจะประสบปัญหาไม่เหมือนกันไม่ได้หมายความว่างบแต่ละประเภทจะต้องได้เท่ากันต้องให้น้ำหนักความเดือดร้อนของประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองได้หรือไม่ที่มีการเร่งโครงการเช่นนี้ถือเป็นการเตรียมกระสุนไว้เลือกตั้งหน้า นายพริษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้วัดกันได้จากประสิทธิภาพและการกระจายตัว เมื่อมีการใช้จ่ายไปแล้วมีการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ ถ้าเรามองว่างบฯนี้จะถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองจะเห็นการกระจายตัวแต่ละพื้นที่ในลักษณะแบบหนึ่ง แต่หากงบถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนจริงการกระจายตัวก็จะเป็นไปอีกแบบ ข้อมูลคือทรัพย์สำคัญในการตรวจสอบ อยากให้รัฐบาลตรวจสอบอย่างเต็มที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี