"สว.กอบ"ขู่ฟันจริยธรรม"นันทนา" หลังอภิปรายซ้ำซาก-ไม่เคารพมติ ปมชะลอโหวตองค์กรอิสระ ด้าน"วุฒิพงษ์"เตือนสติสมาชิกให้มีหิริโอตตัปปะ ปูดมีข่าวลือโหวตตก"ตุลาการศาลรธน."หนึ่งคนวันนี้

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ได้แก่ ศาสตราจารย์ร้อยตำรวจเอก สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และนายสราวุธ ทรงศิวิไล ภายหลัง พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เปิดให้สมาชิกอภิปราย

โดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.อภิปรายว่า ตนหวังว่าสิ่งที่ตนจะอภิปรายต่อไปนี้จะไม่ได้รับการขัดขวางจากเพื่อนสมาชิกคนใด เพราะตนกำลังใช้เอกสิทธิ์ในการเป็น สว.รักษาผลประโยชน์ของประชาชนที่จ่ายเงินเดือนให้กับ สว.ทุกคน ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้สรุปสำนวนผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้ว สว.จำนวน 229 ราย โดยในจำนวนนี้เป็น สว.ถึง 138 ราย เกือย 3 ใน 4 ของ สว.ทั้งหมด และจะส่งสำนวนไปที่ กกต.โดยจะมีการส่งฟ้องไปยังศาลอาญาแผนกเลือกตั้งต่อไป วันนี้พวกท่านจะลงมติเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่ง กกต.นี่ไม่ขัดกันเกินไปกับคดีที่พวกท่านถูกกล่าวหาหรือ พวกท่านไม่รู้สึกอะไรหรือ หากการพิจารณาคดีฮั้ว สว.เป็นคุณกับท่าน ประชาชนจะรู้สึกอย่างไร กระบวนการยุติธรรมในประเทศนี้ยังมีอยู่หรือ อีกทั้งพวกท่านกำลังจะลงมติเลือกผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย แต่พวกท่านก็ใช้ตำแหน่ง สว.ในการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกรัฐมนตรีมีพฤติกรรมที่ขัดกันต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ระหว่างที่ น.ส.นันทนา กำลังอภิปรายอยู่นั้น นายพละวัต ตันศิริ สว.ลุกขึ้นประท้วงว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้มีการพูดคุยกันไปแล้วเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นี่เป็นการอภิปรายซ้ำซ้อน ตนคิดว่าประธานอาจจะต้องควบคุมการประชุม ทำให้ พล.อ.เกรียงไกร ต้องกล่าวว่า "ตนกำลังจะวินิจฉัยว่าสิ่งที่ น.ส.นันทนา กำลังอภิปรายนั้นเกี่ยวข้องกับการชะลอการลงมติหรือไม่ จึงขอให้ น.ส.นันทนา อภิปรายอยู่ในขอบเขต หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการชะลอ ก็ขอให้หลีกเลี่ยง เพราะเราลงมติไปแล้ว" ก่อนจะให้ น.ส.นันทนา อภิปรายต่อ

จากนั้น น.ส.นันทนา อภิปรายว่า ขอบคุณที่ประธานวินิจฉัยเช่นนี้ ตนไม่ได้อภิปรายซ้ำซ้อน วกวน ตนไม่ได้ผิดข้อบังคับอะไร เราพูดถึงเรื่องการชะลอการลงมติ แต่เราก็ยังเดินหน้ากันต่อ ฉะนั้น ตนขอใช้เอกสิทธิ์ในการที่จะพูด ซึ่งตนยังไม่ได้พูดถึงเรื่องการชะลอการลงมติ ตนกำลังพูดถึงหลักการและเหตุผล ตนถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่ท่านจะลงมติเลือกตุลาการไปตัดสินคดีของท่านที่ท่านมีส่วนได้เสีย คู่กรณีของท่านจะคิดอย่างไร ประชาชนจะรู้สึกอย่างไร นี่เป็นการจงใจที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวหรือไม่ ระหว่างที่ยังไม่มีการตัดสินคดี เหมาะสมแล้วหรือที่ สว.จะมาลงมติเลือกองค์กรอิสระทั้งหลาย ฉะนั้น เพื่อป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์และเพื่อความสง่างามของวุฒิสภา สว.ทั้งหลายจึงควรที่จะยุติการลงมติใดๆ เกี่ยวกับการเลือกองค์กรอิสระ ขอให้หยุด ตนและ สว.รวม 62 คน ไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวยินดีสละเอกสิทธิ์

ทำให้ นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.ประท้วงว่า ผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบแล้ว จึงขอให้ประธานยุคติได้แล้วเพื่อที่เราจะได้ดำเนินการต่อไป ก่อนที่ พล.อ.เกรียงไกร จะวินิจฉัยขอให้ น.ส.นันทนา อภิปรายอยู่ในประเด็น แต่ น.ส.นันทนา ยังพยายามที่จะอภิปรายต่อ และย้ำว่าไม่ได้อภิปรายซ้ำหรือวกวน ทำให้มี สว.พยายามจะประท้วง น.ส.นันทนา และให้ พล.อ.เกรียงไกร ปิดไมค์ น.ส.นันทนา ซึ่ง พล.อ.เกรียงไกร ได้มีการปิดไมค์ น.ส.นันทนา โดย น.ส.นันทนา ก็พยายามที่จะถาม พล.อ.เกรียงไกร ว่าตนทำผิดข้อบังคับอะไร จึงต้องปิดไมค์ตน พล.อ.เกรียงไกร อธิบายว่า มีคนประท้วง จึงต้องขอให้ น.ส.นันทนา หยุดอภิปรายก่อน

ต่อมา น.ส.อมร ศรีบุญนาค สว. ประท้วงว่า วันนี้ท่านประธานแข็งน้อย ตนขอให้ประธานแข็งมาก รวมถึงขอให้ประธานใช้ข้อบังคับข้อที่ 55 ไม่ให้ผู้อภิปรายอภิปรายซ้ำซ้อน วกวน เราฟังมาทุกวันเลยจน ตนคิดว่าตนจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว และเพื่อนสมาชิกหลายคนก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ตนแนะนำให้คนที่ฟังซ้ำๆ พูดซ้ำๆ เหมือนที่ตนฟังนั้นได้ปรึกษา

ด้าน พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว.กล่าวว่า กรณีที่พาดพิงว่า สว.ในฐานะที่เป็นผู้ถูกกล่าวหาฮั้ว สว.​ไม่มีสิทธิ์เลือกองค์กรอิสระ ตนเชื่อว่า สว.จำนวน 138 คน เป็นแค่คนที่ถูกกล่าวหา ศาลยังไม่ได้สั่งให้หยุดทำหน้าที่ และไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด ดังนั้น สามารถทำหน้าที่ได้

ขณะที่ พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว.ประท้วงและอภิปรายว่า ไม่มีกระบวนการชั้นไหนที่ว่าได้กระทำผิด ซึ่งคนที่กล่าวหาว่าสว.ทำผิดเรื่องนี้ ตนถือว่าเป็นผู้ที่ทำผิดข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ สว.และกรรมาธิการ ข้อ 28 ว่าด้วยต้องเป็นแบบอยางที่ดีในการปฏิบัติและรักษาไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย รวมทั้งไม่ฝักใฝ่หรือยอมตนอยู่ใต้อาณัติของพรรคการเมือง และข้อ 29 ว่าด้วยการเคารพและปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา และมติของที่ประชุมโดยเคร่งครัด ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ประชุมวุฒิสภามีมติแล้ว แต่กลับมากล่าวหาซ้ำอีก จึงถือว่าผิดจริยธรรม โดยตนพร้อมจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ทำให้ น.ส.นันทนา ตอบโต้ว่า ที่บอกว่าตนผิดจริยธรรม ไม่แน่ใจว่าเอาตัวท่านเองเป็นเกณฑ์หรือไม่ เพราะข้อกล่าวหาดังกล่าวรุนแรงไม่เหมาะสม เป็นการกล่าวหาไร้จริยธรรม และตนจะดำเนินการเช่นเดียวกัน ซึ่งกรณีที่กล่าวหาตนต่อที่ประชุมตนไม่ยอมสยบยอมให้ใครมากล่าวหาคนที่ปกป้องผลประโยชน์ประชาชน

ทำให้ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า อภิปรายกลับมาที่เดิม ได้ลงมติ 2 ครั้งแล้ว และไม่อนุญาตให้อภิปราย เนื่องจากเป็นการอภิปรายซ้ำซาก ของกระบวนการฮั้ว สว.ไม่ชอบธรรม ซึ่งลงมติไปแล้ว อย่างไรก็ดี น.ส.นันทนา โต้แย้งการวินิจฉัย ว่า สิ่งที่ลงมติแล้วคือการชะลอ แต่เมื่อไม่ชะลอ ตนจึงมีสิทธิที่จะพูด และขออย่าปิดหูปิดตา แม้จะถูกปิดไมโครโฟน แต่ยังใช้สิทธิอภิปรายโดยตะโกนอย่างต่อเนื่อง จนพล.อ.เกรียงไกรต้องออกคำสั่งให้นั่งลงและยืนยันต่อคำวินิจฉัยว่าไม่ให้อภิปรายในประเด็นที่ซ้ำซาก ก่อนตัดบทให้เข้าสู่การอภิปรายต่อไป

ต่อจากนั้น น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว.อภิปรายว่า การเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ได้ข่าวว่ามีการบอกว่าให้เลือกคนหนึ่งและไม่เลือกอีกคน ซึ่งมันก็แปลกๆ และตนก็ไม่เชื่อ ทั้งนี้การเลือกผู้คนถือเป็นเป็นดิจิทัลซิกเนเจอร์ จะจดจำไว้ตลอดกาลนาน ทำอะไรไปวันนี้ ย่อมถูกตรวจสอบ ทั้งนี้ ตนมองว่า สว.ควรมีหิริโอตตัปปะ แต่หากใครไม่มีขอให้ไปเติม ที่ผ่านมาพระยังละเมิดศีล ปฏิบัติไม่ถูกต้อง หาก สว.พลาดไปบ้าง เป็นปกติ ขอให้พิจารณาถ่องแท้

"การลงคะแนนควรให้ 2 คน มีโอกาสเข้าไปทำงานรับใช้กระบวนการยุติธรรม และรับใช้บ้านเมือง แต่หากไม่ผมก็เสียใจด้วย ทั้งนี้การลงคะแนนใดๆ ขอให้อ่านประวัติในเชิงเปิดเผยและเชิงลึก เพราะคณะกรรมการสรรหาและกรรมาธิการตรวจสอบประวัติจตรวจสอบมาแล้ว อย่างมีเหตุมีผล" น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าว

ขณะที่ นายสิทธิกร ธงยศ สว.อภิปรายว่า ขอให้ สว.ใช้สติปัญญาอย่างรอบคอบ และพิจารณารายงานของกรรมาธิการประกอบ ก่อนการเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน เพื่อแทนตำแหน่งที่ว่าง

ทั้งนี้ หลังจากที่ สว.ได้อภิปรายแล้วเสร็จ พล.อ.เกรียงไกร กล่าวว่า ขอให้เข้าสู่การประชุมลับ เมื่อเวลา 10.30 น.

- 006