ชาวนาผูกคอตายศพที่8
สลด!สังเวยพิษ”จำนำข้าว”
เครียดจัดไม่มีเงิน-หนี้บาน
ม็อบชุมนุมใหญ่13กุมภาฯ
ปูแถฟ้องรบ.ก็ไม่ได้เงินเร็ว
หลังการเจรจาระหว่างตัวแทนชาวนา กับรัฐบาลล้มเหลวสิ้นเชิง เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถให้ยมีคำตอบที่ชัดเจนถึงกำหนดเวลาจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างอยู่นานกว่า 5 เดือน ทำให้ชาวนาไม่พอใจประกาศบุกคลังข้าวทั่วประเทศ พร้อมยื่นฟ้องรัฐบาลเรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและอาญา พร้อมยกระดับนัดเคลื่อนไหวใหญ่ทั่วประเทศขับไล่รัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้ชาวนาได้
ชาวนาย้ำจุดยืนตรวจคลังข้าว12กพ.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการชุมนุมของกลุ่มชาวนาภาคตะวันตก ที่หน้ากระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ซึ่งยังปักหลักต่อเนื่อง โดยนายระวี รุ่งเรือง ประธานศูนย์ข้าวชุมนุมภาคตะวันตกกล่าวว่า ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ปิดกั้นการเจรจากับรัฐบาล แต่ต้องดูประเด็น หากเป็นเรื่องการจ่ายเงินจำนำข้าว ชาวนาพร้อมเจรจา และจากการหารือกับสภาทนายความ ได้แนะนำชาวนาว่าอยากจะให้ชาวนา คำนึงถึงหลักฏหมายเกี่ยวกับการเข้าไปตรวจค้นโกดังข้าว ซึ่งตามมติของแกนนำเดิมยังต้องการเข้าไปดูโกดังข้าวในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจน หลังหารือกับแกนนำตามคำแนะนำของสภาทนายความแล้ว ยังยืนว่าการไปดูโกดังข้าว ยังเป็นจุดยืนเดิมที่ชาวนาอยากทราบว่า โกดังมีข้าวจริงหรือไม่
ส่งตัวแทนให้ข้อมูลโกงปปช.พรุ่งนี้
สำหรับการชุมนุมของชาวนาที่หน้ากระทรวงพาณิชย์นั้น นายระวีกล่าวว่าจะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ขัดขวางการทำงานของข้าราชการ สำหรับการเคลื่อนไหววันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากปักหลักชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว ยังมีชาวนาส่วนหนึ่งไปให้ข้อมูลความเดือดร้อนตามโครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่ได้เงิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งก่อนนี้ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปแล้ว
ส.ทนายความเบรคบุกคลังข้าว
ด้านนายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยภายหลังหารือกับแกนนำชาวนาที่กระทรวงพาณิชย์ว่า ต้องการมาห้ามกลุ่มชาวนาไม่ให้ไปบุกทำลายตรวจโกดังและคลังเก็บข้าวสาร แต่ให้เฝ้าสังเกตการณ์ และปิดล้อมอยู่ด้านนอกเท่านั้น เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จะเป็นการบุกรุกและอาจเข้าข่ายการทำลายทรัพย์สินได้ โดยขั้นตอนดำเนินการนั้นสภาทนายความฯจะเป็นตัวแทนฟ้องดำเนินคดี ด้วยการยื่นคำร้องขออำนาจศาลเข้าไปตรวจค้นข้าวในโกดังและคลังเก็บว่ามีอยู่จริงหรือไม่แทน
จ่อยื่นฟ้องธกส.-ฟันธงชนะแน่
นายเดชอุดมแสดงความมั่นใจว่า ชาวนาชนะคดีแน่นอน เพราะข้ออ้างของรัฐบาลที่ไม่สามารถหาเงินมาได้ฟังไม่ขึ้น จึงจะพิจารณาจากสัญญาหรือใบประทวนของชาวนาที่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินแล้วรัฐไม่จ่ายเงินให้ โดยการฟ้องร้องจะฟ้องคู่สัญญาคือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อดีตบิ๊กคลังแนะไล่เช็คสต๊อก
สอดคล้องกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ไม่เห็นประโยชน์ของการปิดโกดังข้าว เพราะรัฐจะนำมาอ้างว่าเป็นอุปสรรคทำให้การขายข้าวสะดุด ถ้าโกดังเป็นสต๊อคลมอยู่ รัฐบาลอาจอ้างข้าวหายไปเพราะการปิดโกดัง ฉะนั้น ถ้าจะทำอะไรกับโกดัง ตนแนะนำให้ชาวนาไล่ตรวจเช็คสต๊อกข้าวในโกดัง เพื่อกดดันรัฐบาลให้เร่งระบายข้าวเร็วขึ้น
“ชาวนาน่าจะล้อมพร้อมกับบังคับให้โรงสีนั้นทำการตรวจนับสต๊อกให้ชาวนาเห็นจะจะ ว่ามีข้าวเท่าใด เกรดใด ตรงกับบัญชีการ์ดคุมสต๊อก(stock card) หรือไม่ การไล่ตรวจสต๊อก จะเพิ่มแรงกดดันให้รัฐบาลเร่งขายมากกว่าการปิดโกดังเฉยๆ" นายธีระชัยระบุ
วงเสวนาชี้ถึงทางตันจำนำข้าว
วันเดียวกัน มีการเสวนาหัวข้อ "ช่วยชาวนาอย่างไร ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ รักษาวินัยการเงินการคลัง"จัดโดยคณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคาร และสถาบันการเงิน วุฒิสภา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่าโครงการรับจำนำข้าวขณะนี้ค่อนข้างถึงทางตัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถหาเงินกู้จากสถาบันการเงินใดได้ เพราะติดข้อกฎหมายระหว่างการเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน การให้โรงสีเข้ามาช่วยแบกรับภาระ โดยให้ชาวนานำใบประทวนมาขอสภาพคล่องสัดส่วน 50% และต้องชดเชยดอกเบี้ยให้แก่โรงสีในอนาคต ปัญหาดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ไม่มีกฎหมายรองรับที่จะดำเนินการได้ ขณะเดียวกันการที่จะนำสตอกข้าวไปค้ำประกันหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำเงินมาจ่ายชาวนา สภาพปัจจุบันก็ไม่มีใครทราบว่าสตอกข้าวเป็นอย่างไร ทำให้การที่จะหาเงินมาชำระหนี้ชาวนาค่อนข้างติดขัดหลายด้าน
แนะปล่อยข้าวลอตใหญ่แบบขาดทุน
นายธีระชัย กล่าวอีกว่า แนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการหาเงินมาจ่ายจำนำข้าวกว่า 1.3 แสนล้านบาทให้ชาวนาทั่วประเทศขณะนี้คือ เร่งขายข้าวให้เร็วที่สุด และต้องไม่ใช้วิธีขายแบบจีทูจีปลอม หรือขายแบบคอขวด ที่แบ่งขายข้าวทีละล็อต แต่ให้ขายล็อตใหญ่ไปเลยเฉลี่ย 2 ล้านตันต่อเดือน ซึ่งอาจทำให้ราคาข้าวที่ขายลดลง แต่เป็นการปรับลดลงในระยะสั้นเท่านั้น รัฐบาลต้องยอมขาดทุน เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้ชาวนา นอกจากนี้ อีกแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลรักษาการต้องลาออก เปิดทางให้ตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งสามารถกู้เงินได้ตามกฎหมาย
ปรับวิธีบริหารจัดการหนี้
นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้จะเป็นบทเรียนสำคัญในอนาคตที่จะดำเนินโครงการประชานิยมลักษณะดังกล่าว ควรจะมีความชัดเจนว่าโครงการที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดหนี้มากน้อยแค่ไหน รวมทั้งควรนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะดำเนินโครงการลักษณะที่ก่อหนี้จำนวนมาก เพื่อให้สภาฯ รับทราบ และควรกำหนดกรอบการสร้างหนี้ที่ชัดเจนกว่านี้
“วรงค์”ชี้ตามคาดเผาทำลายหลักฐาน
วันเดียวกัน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าวถึงปัญหาโครงการจำนำข้าวที่ไม่ชอบมาพากลว่า หลังตนแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ให้จับตาดูว่าจะมีการทำลายหลักฐานสต็อกข้าวในโกดังของรัฐบาลด้วยการเผาโกดัง ปรากฏว่าเกิดเหตุเร็วกว่าที่คาดไว้ เพียงแค่ข้ามคืน เกิดเหตุไฟไหม้โกดัง ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2555 คลังสินค้ากลาง ลำนารายณ์หลังที่ 10 อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ในเช้าวันนี้ (11 กุมภาพันธ์) โดยชาวบ้านส่งภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมาให้ตน ถือเป็นหนึ่งในวิธีการทำลายหลักฐานข้าวเสื่อมคุณภาพ จึงให้จับตาดูต่อไป เพราะขณะนี้ชาวนาประกาศจะไปตรวจสอบโกดังข้าวของรัฐบาล จึงเชื่อว่าจะเกิดเหตุไฟไหม้โกดังอีก และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกรณีข้าวหายด้วย
ปลุกชาวนาไล่รบ.อยู่นานทุบราคาข้าว
น.พ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ชาวนาโดนระเบิด 2 ลูก เพราะปัญหาที่รออยู่คือข้าวนาปรัง ที่จะเริ่มต้นวันที่ 1 มีนาคม หากยังมีรัฐบาลรักษาการก็จะมีข้อจำกัดในการออกมาตรการช่วยเหลือ ฉะนั้น ทางเดียวที่ชาวนาต้องทำคือ ไล่รัฐบาลรักษาการออกไปก่อนวันที่ 1 มีนาคม ให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยชาวนา เนื่องจากขณะนี้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำเหลือเกวียนละ 6,000 บาท แต่มีต้นทุนเกวียนละ 7,000-8,000 บาท หากปล่อยไว้จะทำให้ราคาข้าวนาปรังตกลงมาเหลือเกวียนละ 4,000-5,000 บาทก็ได้
ไฟไหม้โกดังจำนำข้าวนาปรังเสียหาย
ความคืบหน้าเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรีรับแจ้งจากเจ้าของคลังสินค้าลำนารายณ์เลขที่ 595 ม.ที่ 5 ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี โดยมี นายชัชชัย จารุวรรณ นำมาเก็บรักษาไว้และมีบริษัทอามานะซุปเปอร์รินเด้นจำกัด เป็นผู้ตรวจสอบชนิด คุณภาพ และชั่งน้ำหนักว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ข้าวในโกดังเก็บข้าวสาร กองที่ 1 ชนิด ข้าวสารปลายข้าวเอ1 เลิศ มีทั้งหมด 16,300 กระสอบ เป็นข้าวนาปรังรับจำนำไว้เมื่อปี 2555 จากการตรวจสอบพบกระสอบข้าวสารเสียหายจำนวนหนึ่ง ซึ่งโกดังดังกล่าว เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เกิดพังลงมา ทำให้ต้องขนข้าวทั้งหมดไปหาที่เก็บใหม่ แต่เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นมาก่อน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือลอบวางเพลิง แต่เบื้องต้นสันนิษฐานน่าจะมาจากอุบัติเหตุ
กำแพงเพชรผูกคอตายเซ่นจำนำอีก1
ขณะเดียวกัน เกิดเหตุสลดซึ่งเป็นผลพวงจากการจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวล่าช้า โดยร.ต.ท.สุกิจ กาวีอ้าย พนักงานสอบสวน สภ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร รับแจ้งจากนางสมจิตต์ กลิ่นซ้อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 บ้านบึงหล่ม ต.คลองน้ำไหลว่า มีคนผูกคอตาย เมื่อไปชันสูตรศพ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางบุญมา สระทองอ้วน อายุ 42 ปี ชาวนาบ้านบึงหล่ม สอบสวนนายเฉลิม สระทองอ้วน สามีผู้ตายทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนางบุญมาเครียดเรื่องเป็นหนี้เงินกองทุนหมู่บ้านกว่า 4 หมื่นบาท ที่ยืมมาลงทุนทำนาซึ่งครบกำหนดส่งคืน แต่ผู้ตายยังหาเงินได้ไม่ครบ อีกทั้งเงินจากโครงการรับจำนำข้าวกว่า 1 แสนบาท ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะได้เงิน ทำให้นางบุญมาเครียดผูกคอตาย
แฉชาวนาสังเวยจำนำแล้ว8ศพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนางบุญมา สระทองอ้วน ชาวนากำแพงเพชรที่ผูกคอตายเซ่นโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรายที่ 8 ก่อนหน้านี้มีชาวนาต้องจบชีวิต เพราะความเครียด บางรายต้องผูกคอตายไปแล้ว 7 รายคือ 1.นางบุญเหลือ ศรีมุก อายุ 48 ปี ชาวนา อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เสียชีวิตจากอาการเครียดและช็อก 2.นายเฉลิม จันทร์แดง อายุ 59 ปี ชาวนาต.ป่ามะคาบ อ.เมืองพิจิตร ผูกคอตายเมื่อวันที่ 9 มกราคม 3.นายทองมา ไกยสวน อายุ 60 ปี ชาวบ้าน หมู่ 3 บ้านโนนสั้น ต.โนนรัง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผูกคอตายเมื่อวันที่ 26 มกราคม 4.นายเมือง พันธุชาติ อายุ 46 ปี ชาวต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ผูกคอตายเมื่อวันที่ 27 มกราคม 5.นายเหลา สุวรรณทอง อายุ 43 ปี ชาวนาอ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ผูกคอคตายเมื่อวันที่ 28 มกราคม 6.นางปรางค์ ภู่นาท อายุ 81 ปี ชาวนาต.ธัมรงค์ อ.เมืองกำแพงเพชร เครียดจนช็อกหัวใจวายเฉียบพลัน และ7.นางเพ็ญศินี ทองช้อย ชาวนาต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ผูกคอตายวันที่ 10 กุมภาพันธ์
พิรุธสั่งโกดังนครฯระบายข้าวด่วน
ส่วนที่จ.นครศรีธรรมราช นางสุกฤตา สุมาลี ผู้ประสานงานองค์การคลังสินค้า (อคส.)หัวหน้าคลังสินค้านครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ และตัวแทนบริษัทเซอร์เวเยอร์ ร่วมกันเปิดโกดังเก็บข้าวสาร บริษัทเขามหาชัยพาราวู๊ด ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชให้คนงานขนข้าวสารออกจากโกดัง 5 แสนกิโลกรัมหรือประมาณ 5 พันกระสอบ(500 ตัน) ออกจากโกดังหมายเลข 1 ที่มีข้าวสารถูกเก็บไว้กว่า 6 หมื่นกระสอบ หลังได้รับคำสั่งให้ระบายข้าวด่วน สอบถาม เจ้าหน้าที่ปฎิเสธว่าไม่รู้ข้าวจำนวนนี้ส่งไปที่ใด ไม่ทราบมูลค่าการซื้อขาย เพราะถูกปิดเป็นความลับ
เครือข่ายเหนือนัดไล่รบ.13ก.พ.
มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของชาวนาทั่วประเทศ แสดงพลังกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยนายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือกล่าวว่า หลังแกนนำชาวนาเจรจากับรัฐบาล แต่ไม่ได้คำตอบ ฝ่ายรัฐบาลมัวแต่เล่านิทานเรื่องเดิมๆ หลอกชาวนา ถามอย่างตอบอีกอย่าง เป็นการดูถูกชาวนา ซึ่งพวกตนทนไม่ได้อีกต่อไป และคงไม่เสียเวลามาเจรจาอีก จากนี้ชาวนายังปักหลักชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์ต่อไป แต่ชาวนาภาคเหนือบางส่วนอาจต้องกลับบ้านก่อน เพราะทุนน้อย แต่จะกลับมาทวงเงินคืนแน่ โดยวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ชาวนาทั่วประเทศจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง โดยชาวนาจะกลับมาอีกและจะมากกว่าเดิมแน่นอน เมื่อรัฐบาลอ้างข้างๆ คูๆหาเงินมาให้ชาวนาไม่ได้ ก็ไม่รู้จะอยู่รักษาการไปทำไม
ราชบุรี4คันรถสมทบพาณิชย์
วันเดียวกันนี้ ที่ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กลุ่มเกษตรกรชาวนาจาก 16 หมู่บ้าน ในต.ทุ่งหลวง และต.หนองกระทุ่มกว่า 300 คนรวมตัว 4 คันรถบัส เดินทางเข้ากรุงเทพฯสมทบกลุ่มชาวนาที่ปักหลักหน้ากระทรวงพาณิชย์ ทวงเงินจำนำข้าว หลังเจรจากับรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์แล้วไม่มีคำตอบชัดเจนจะจ่ายเงินเมื่อใด
หยุดทำนา1ปีโอดมีแต่หนี้กับซังข้าว
นายสมศักดิ์ ตำหนิงาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอปากท่อ แกนนำชาวนากล่าวว่า ปีนี้พวกเราชาวนานัดหยุดทำนา เพราะทุนไม่มี จนถึงขณะนี้รัฐบาลก็ยังไม่จ่ายเงินแล้วจะเอาทุนที่ไหนทำนา ดังนั้น ชาวนาจึงต้องร่วมกันดิ้นรนต่อสู้ เพราะการทำนาปีมีแต่หนี้กับซังข้าว ทำนาปรังมีแต่หนี้กับใบประทวน เราจึงจะร่วมกันไปทวงสิทธิชอบธรรมของชาวนาที่จะสามารถทำได้ ถ้าเจ้าหน้าที่บล็อกถนนไม่ให้ผ่าน บล็อกตรงไหนเราก็จะปิดตรงนั้น เพราะถนนทําด้วยภาษีของประชาชน ไม่ใช่เดินทางไปไหนก็ไม่ได้
20จว.เหนือ-กลางขู่ปิดสุวรรณภูมิ
เช่นเดียวกับ ชาวนาจากภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางกว่า 20 จังหวัด ที่มีมติร่วมกันจะเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ โดยนายทรงพล พูลสวัสดิ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติจังหวัดอ่างทองเผยว่า ชาวนา 20 จังหวัดมีมติร่วมกันจะเคลื่อนไหวใหญ่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ โดยนำรถที่ใช้ในการเกษตรเคลื่อนพลจากจ.สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี เข้ากรุงเทพฯกดดันรัฐบาลให้เร่งจ่ายเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างหารือจะไปชุมนุมที่ใด แต่รถทางการเกษตรของชาวนาเป็นรถเก่า สภาพไม่ดี หากเสียตรงไหนก็คงต้องหยุดตรงนั้น หากไปเสียที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ต้องหยุดซ่อมกันสัก 4-5 วัน ก็คงไม่เป็นไร
“ชาวนาถึงทางอับจนแล้ว หากรัฐโกงเงินชาวนาก็ต้องใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง โดยจะรวมชาวนาไปซื้อของจากห้างสรรพสินค้าและไม่จ่ายเงินค่าสินค้า ถ้าตำรวจจะจับชาวนาดำเนินคดีก็ขอให้จับรัฐบาลด้วยเพราะโกงชาวนาไปเหมือนกัน” นายทรงพลกล่าว
อิสานสุดทนม็อบใหญ่บุกกรุง27-28กพ.
นายภานุพงษ์ ภัทรคนงาม นายกสมาคมชาวนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปิดเผยว่า ได้หารือกับแกนนำชาวนาในพื้นที่แล้ว เตรียมเคลื่อนไหวใหญ่ โดยจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ วันที่ 27 -28 กุมภาพันธ์ ทวงเงินจำนำข้าว ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาอิสานได้เงินจำนำข้าวเพียง 10% ของเงินทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก ยืนยันว่าการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการเมือง อยากได้เงินค่าข้าว ทั้งฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล อย่าเอาชาวนาเป็นตัวประกัน
นายกฯถกครม.แก้ปมจำนำข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมว่า เมื่อเวลา 09.20น. เดินทางถึงกองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ตามปกติ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวตะโกนถามว่า ชาวนาอยากเจอนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่ไม่ได้ตอบอะไร เมื่อถามอีกว่าวันนี้จะคุยเรื่องจำนำข้าวหรือไม่ นายกฯหันมาพยักหน้า ก่อนจะเดินเข้า บก.ทอ.ทันที
“ปู”ท่องคาถาได้เงินแน่นอน
ภายหลังการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ใบประทวนคือเงินของชาวนาที่จะได้รับจากรัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็มีหน้าที่ต้องชำระถือเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ย้ำว่ารัฐบาลนี้ห่วงใยประชาชนที่เดือดร้อน จะทำเต็มความสามารถที่จะติดตามการจ่ายเงินให้ชาวนาทุกคน ขอให้สบายใจได้
“ขอชี้แจงว่าขณะนี้มีปัญหาในขั้นตอนการปฎิบัติจริงๆ ประกอบกับความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ความกังวลหลายส่วน ทำให้การทำงานของกระทรวงที่เกี่ยวข้องล่าช้า จึงข้อร้องทุกฝ่ายให้แต่ละส่วนทำหน้าที่ของตัวเอง ยิ่งต่างคนต่างพูดผลกระทบจะตกที่ชาวนา ถ้าเราเรียกร้องห้ามธนาคารปล่อยกู้ จะถอนเงินบ้างแล้วอย่างนี้เราจะให้ธนาคารไหนกล้าที่จะปล่อยเงินกู้ให้ชาวนาทั้งที่เป็นกระบวนการขั้นตอนตามปกติ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย
ยื่นฟ้องรบ.ก็ไม่ทำให้ได้เงินเร็วขึ้น
ส่วนกรณีกลุ่ม กปปส.พยายามนำเรื่องโครงการรับจำนำข้าวมาโยงเป็นประเด็นทางการเมืองนั้น นายกฯ กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือ ซึ่งต้องเรียน กปปส.และประชาชนว่า ถึงแม้จะมีการส่งคดีฟ้องก็ไม่ได้ทำให้การจ่ายเงินเร็วขึ้น เพราะการจ่ายเงินจะเร็วขึ้นนั้นอยู่ที่กระทรวงการคลังทำงานร่วมกับธนาคาร และเป็นการปล่อยกู้ตามปกติ ถ้าไม่ให้กลไกของรัฐและธนาคารทำงานตามปกติ แล้วเมื่อไหร่จะได้เงินให้ประชาชน
ปัดถังแตกอ้างขั้นตอนกม.ใช้เวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกอย่างไรกับปัญหาโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลถูกมองว่าเป็นโจรโกงเงินชาวนา น.ส.ยิ่งลักษณ์นิ่งชั่วขณะและตาแดงๆก่อนกล่าวว่า วันนี้มีหน่วยงานองค์กรอิสระตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอยู่ ขอให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน การพูดไปจะกระทบความเชื่อมั่นประเทศ ส่วนเรื่องการกู้เงินมาจ่ายชาวนานั้น ให้รมว.คลังเป็นผู้ให้ข้อมูลจะดีกว่า แต่ตนเร่งรัดไปแล้ว ยืนยันว่า สถานะการคลังของประเทศยังดีอยู่ มีความสามารถกู้ได้ ไม่ได้ถังแตกอย่างที่เป็นข่าว แต่ขั้นตอนการกู้ต่างหากที่เป็นขั้นตอนกฎหมายที่ต้องใช้เวลา
แหลไปเรื่อยหนีหน้าชาวนา
เมื่อถามว่า มีโอกาสหรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้ชาวนาได้ฟังคำชี้แจงจากนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะนัดหมายชาวนามาฟังคำชี้แจง
ถามต่อว่า ทำไมนายกฯจึงไม่ไปพบชาวนาด้วยตนเอง นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องในรายละเอียด ให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเองจะชัดเจนกว่า แต่ตนก็ไม่ได้ปฏิเสธ ต้องอาศัยสื่อนำเจตนารมณ์ของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีทุกคนในความห่วงใยไปสู่พี่น้องประชาชน
ครม.แคะ712ล.ช่วยชาวนา
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ แถลงหลังประชุมครม.ว่า ที่ประชุมเห็นชอบงบกลาง 712 ล้านบาท สำหรับใบประทวนที่เกินจากช่วงเดือนกันยายน ที่เอกสารล่าช้า โดยจะเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายใน 1-2 วันนี้ เชื่อว่ากกต. จะอนุมัติ เนื่องจากเป็นข้าวที่ชาวนานำมาจำนำแล้วจริง และไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เนื่องจากใน 5 จังหวัดได้มีการเลือกตั้งอาทิ จังหวัดเพชรบูรณ์ อุทัยธานี อยุธยา ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวมทั้งหมด 3,900 กว่าครอบครัว ส่วนที่เหลือเป็นของฤดูกาลปี 56/57 ซึ่งมีการจ่ายไปแล้ว 6.1 หมื่นล้านบาท เหลือค้างจ่ายประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
แบะท่าพร้อมคืนข้าวให้ชาวนา
สำหรับกรณีที่ชาวนาต้องการไปตรวจคลังข้าวนั้น นายนิวัฒน์ธำรงกล่าวว่า ตนสั่งให้องค์การค้าภายในอำนวยความสะดวกให้ชาวนาเข้าไปดู ไม่มีปัญหา ส่วนที่มีข่าวว่ามีข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านนั้นเป็นเพียงคำกล่าวหา ขณะเดียวกันชาวนาที่ต้องการขอข้าวคืน รัฐบาลพร้อมที่จะให้คืนโดยไม่มีปัญหา
บีบธกส.ออกมาตรการช่วย
จากนั้น เวลา 14.30 น.ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายนิวัฒน์ธำรง นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ หารือร่วมกับนายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรแห่งชาติ ภายหลังหารือนายนิวัฒน์ธำรงแถลงว่า รัฐบาลจะบรรเทาความเดือดร้อนชาวนาที่ตกหล่นและค้างจ่ายเดือนตุลาคม โดยเร่งธกส.ไปสำรวจข้อมูล ก่อนจ่ายเงินให้ชาวนาที่กู้หนี้นอกระบอบไว้ โดยปล่อยสินเชื่อใหม่ดอกเบี้ยต่ำไปใช้หนี้นอกระบบ และให้ธกส.ยืดชำระหนี้ออกไป ส่วนข้อเสนอที่ชาวนาเสนอให้รัฐบาลใช้มาตรการนำใบประทวนไปจำนำกับธกส.โดยตรง โดยให้จ่ายเงินร้อยละ 80 ตามมูลค่าในใบประทวน พร้อมให้รัฐบาลรับผิดชอบดอกเบี้ยนั้น ข้อเสนอนี้รัฐบาลขอไปคุยกับธนาคารก่อน ซึ่งมาตรการทั้งหมดเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
พท.จัดปาหี่ดึง”เต้น-ยรรยง”เสวนา
ความเคลื่อนไหวของ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคแถลงว่า พรรคเตรียมจัดเสวนา “จำนำข้าวเพื่อชาวนาไทย” วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เวลา 13.00 น. ที่พรรค เพื่อสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในโครงการรับจำนำข้าว โดยจะเชิญ นายยรรยง พวงราช และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ร่วมเสวนา ร่วมกับเกษตรกรนักวิชาการเข้าร่วม
ปากพล่อยสุมไฟชาวนาจ้องล้มรบ.
นายอนุสรณ์ยังระบุว่า แกนนำ กปปส.กำลังทำให้ปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวเป็นปัญหาการเมือง หลายฝ่ายวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของเกษตรกรว่า คล้ายการชุมนุมม็อบชาวสวนยางพาราในภาคใต้ มุ่งสร้างสถานการณ์ตึงเครียดเพื่อโค่นล้มรัฐบาล ทั้งหมดคือคำถามที่ม็อบเกษตรกรต้องตอบ ก่อนจะไปกดดันให้นายกฯ ลาออก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี