ปชน.เย้ย‘แม้ว’
ดินเนอร์พรรคร่วมรบ.
ใช้บารมีดิ้นเฮือกสุดท้าย
“อิ๊งค์”ร่วมประชุมครม.ยิ้ม ไม่ตอบสื่อลงพื้นที่ช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ “เพื่อไทย”เจ้าภาพเลี้ยงดินเนอร์ พรรคร่วมรัฐบาล แกนนำเพื่อไทย“ประเสริฐ-สรวงศ์”ยัน“ทักษิณ”ร่วมดินเนอร์ ไม่ครอบงำ “สรวงศ์”เชิญ“ทักษิณ”มาบรรยายในฐานะเคยก่อตั้งรบ. อาจจะมีข้อแนะนำ ‘มนพร’ลั่นเก้าอี้รองปธ.สภาฯคนที่2 เป็นโควต้า‘เพื่อไทย’ ยืนยัน‘ทักษิณ’ไปแน่ช่วยหาเสียงศรีสะเกษ ยังไม่เคาะวัน ด้าน’โรม’เหน็บเจ็บดินเนอร์พรรคร่วมฯ’ทักษิณ’ใช้บารมีเฮือกสุดท้ายบั้นปลายชีวิต ประคอง‘เพื่อไทย-ชินวัตร’ โชว์บทบาทแทน‘ลูกสาว’ หยัน‘รัฐบาล’ง่อนแง่น ‘เท้ง’เมิน’ทักษิณ’ร่วมวงดินเนอร์บอกไม่อยากเห็นแบ่งเค้ก-รวมเสียง มากกว่าคุยผลประโยชน์ปชช. หากกม.เห็นตรงกัน ปชน.พร้อมหนุน
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมในเวลา10.00น.ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยก่อนการประชุม
‘อิ๊งค์’ยิ้มไม่ตอบลงหาเสียงศรีสะเกษ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.แพทองธารว่าจะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษหรือไม่ น.ส.แพทองธารไม่ได้ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มๆก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1ก่อนแวะบูธ ประชาสัมพันธ์และจำหน่ายดอกมะลิ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ติดเข็มกลัดดอกมะลิ เพื่อประชาสัมพันธ์งานด้วย
‘เพื่อไทย’จัดเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการนัดพรรคร่วมรัฐบาลนัดทานข้าวร่วมกันในวันอังคารที่ 22 กรกฎาคม โดยพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดเลี้ยง ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ครั้งนี้ โดยจัดที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยช่วงบ่าย พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมพรรคเพื่อไทยก่อน
จากนั้นในเวลา 17.30 น.จะมีการรับประทานอาหารเย็นร่วมกับส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยพรรคเพื่อไทยได้เชิญนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงานด้วยและมาเป็นวิทยากรปาฐกถาพิเศษด้วย โดยคาดว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง
‘ประเสริฐ’ชี้‘แม้ว’ร่วมวง-ไม่ครอบงำ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็นพรรคร่วมรัฐบาลในเย็นวันนี้ โดยมั่นใจว่า การพูดคุยกินข้าวกัน ไม่ถือเป็นการครอบงำ เพราะไม่มีการสั่งการให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ สังคมไทยเจอหน้ากันทานข้าวกันได้เป็นเรื่องปกติ
“ผมคิดว่าเรื่องนี้หากมองเป็นการครอบงำ ต่อไปเมื่อเจอหน้ากัน ก็ไม่ต้องกินข้าวกันพอดี แม้แต่การทักทายกันยังลำบาก ส่วนที่มีการร้องไปที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เกี่ยวกับการทานข้าวกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้าในวันก่อนเลือกนายกฯนั้น เป็นเรื่องที่มีผู้ร้องไป พรรคเราไม่ได้หนักใจ เพราะไม่มีข้อเท็จจริง”นายประเสริฐ ย้ำ
โวอดีตนายกฯที่มีพรรคเพื่อนฝูงเยอะ
เมื่อถามว่ามีตั้งคำถามว่านายทักษิณไปในฐานะอะไรนั้นเพราะการทานข้าวของพรรคร่วมรัฐบาลไม่เคยมีคนนอกเข้าร่วมนายประเสริฐ กล่าวว่า นายทักษิณเป็นอดีตนายกฯการที่มีพรรคเพื่อนฝูงเป็นที่รู้จักและหลายพรรคการเมืองที่มาร่วมรัฐบาล ต่างคุ้นเคยกับนายทักษิณ ตนจึงมองว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จะมีการพบปะพูดคุยเจอกัน และไม่มีการสั่งการอะไรที่จะถือเป็นการครอบงำ เรามั่นใจว่า นายทักษิณสามารถไปร่วมได้ และที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีการเจอกันหลายครั้งในสถานที่ต่างๆ
‘สรวงศ์’รับเชิญ’ทักษิณ’มาบรรยาย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีงานดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลช่วงเย็นว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หลังจากมีการปรับคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังไม่ได้มีการพบปะพูดคุยกันในฐานะ สส.ร่วมรัฐบาลเลย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงมีดำริให้มีการพบปะกินข้าวกัน
นายสรวงศ์ ยอมรับว่างานดินเนอร์พรรคร่วมฯวันนี้ได้เชิญนายทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมงาน และมาเป็นวิทยากรพิเศษ พรรคร่วมมีความเห็นตรงกันว่าอยากเชิญท่านมาพูดคุยกันในฐานะที่เคยเป็นหัวหน้าจัดตั้งรัฐบาลมาก่อน ในวิกฤติการเมือง อาจจะมีข้อแนะนำ ต้องรอฟังดู
ย้ำเคยก่อตั้งรบ.ยันไม่ครอบงำ
ส่วนจะมีความสุ่มเสี่ยงว่าจะมีคนไปร้องว่านายทักษิณ เข้ามาครอบงำรัฐบาลหรือไม่ นายสรวงศ์ ยืนยันว่า มันไม่มีเรื่องครอบงำ เพราะพวกตนเป็นพรรคการเมือง ทุกคนทราบดีอยู่ว่าทุกวันที่มีการประชุมพรรค จะต้องมีการพูดคุยกัน ความเห็นไม่ตรงกัน แต่ทั้งหมดพอเป็นมติพรรค ก็ต้องเป็นไปตามมติพรรค ไม่มีการครอบงำใดทั้งสิ้น ไม่มีการสั่งอะไรได้ เพราะพรรคการเมือง เป็นองค์กร
ส่วนจะมีการกำชับเรื่ององค์ประชุมในสภาผู้แทนราษฎรที่มีปัญหาถึงสามครั้ง หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่า คงจะต้องมีการพูดคุยกันซึ่งเรื่ององค์ประชุมได้มีการพูดคุยในระดับหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอยู่แล้ว แต่รอบนี้เป็นการประสานเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างสส.ในพรรคร่วม
พรรคร่วมฯหารือเก้าอี้รองปธ.สภา2
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพบปะรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาลเย็นวันนี้คาดว่าจะมีการหารือถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 น่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 24 ก.ค.นี้
ส่วนได้มีการเคาะแล้วหรือไม่ว่าเป็นโควตาของพรรคใด หลังจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่ม สส.อีสานของพรรคเพื่อไทยพยายามล็อบบี้ภายในพรรคเพื่อให้ได้โควต้าเก้าอี้นี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการคุยกัน โควตาอาจเป็นของพรรคเพื่อไทยก็ได้ ดูจากความเหมาะสม แต่เชื่อว่าพูดคุยกันได้อยู่แล้วไม่มีอะไร
2เพื่อไทยลุ้นโควตานั่งปธ.สภาฯ
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่า แกนนำพรรคได้วางตัวนายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู อดีต รมช.เกษตรฯ มานั่งเก้าอี้นี้ ขณะที่นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด ก็แสดงเจตนาต้องการเข้ามาชิงตำแหน่งนี้ ขณะเดียวกันมีชื่อนายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งถูกจับตาว่ากลุ่ม 18 จะส่งเข้ามาชิงตำแหน่งด้วยเช่นกัน
‘มนพร’ลั่นรองปธ.สภาโควต้าพท.
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะตัวแทนวิปรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโควตาเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ว่า รองประธานฯ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย เท่าที่ทราบ คาดว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีการคุยกันในช่วงวันเดียวกันนี้
ยัน‘แม้ว’ลงช่วยหาเสียงยังไม่เคาะวัน
เมื่อถามถึง การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดศรีสะเกษเขต5 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่หาเสียงด้วยหรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า วันนี้พรรคจะหารือกัน ขณะนี้ยังไม่มีการเคาะวัน แต่ทราบว่านายทักษิณจะไป
‘นฤมล’โยนวิปคุยกันรองปธ.สภา
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณีนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม วิปรัฐบาลพรรคเพื่อไทยระบุตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2เป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยว่า ในพรรคกล้าธรรม ยังไม่ได้มีการคุยกัน คาดว่ากรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)จะมีการพูดคุยกัน เดี๋ยวให้เขาคุยกันเพราะตนไม่ได้อยู่ในสภาฯ เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยพรรคกล้าธรรมพร้อมถอยใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ให้เขาคุยกัน ไม่มีปัญหา
‘โรม’เหน็บ’แม้ว’ใช้บารมีเฮือกสุดท้าย
ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชนให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเข้าร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาลว่า คงไม่ดูแค่การดินเนอร์วันนี้และสังคมไม่ได้รู้สึกว่า การที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและ รมว.วัฒนธรรม ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แตกต่างอะไรเลย ไม่ได้ทำให้สังคมอยู่ไม่ได้ จะมีน.ส.แพทองธารปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกหรือไม่ ไม่ได้สร้างความแตกต่าง กลายเป็นว่า วันนี้นายทักษิณใช้จังหวะนี้ในการแสดงบทบาทนำของตัวเองมากขึ้น เรื่องดินเนอร์ทานข้าวก็เป็นดุลยพินิจของพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้หลายฉากที่เกิดขึ้นนายทักษิณแสดงบทบาทนำแล้วทำให้ น.ส.แพทองธาร ถูกคิดถึงน้อยลง
“ตอนนี้ต้องเอาผู้อาวุโสบั้นปลายชีวิตที่ใช้บารมีสุดท้ายที่เคยสะสมมาตลอดเวลามาเผาเล่นโดยหวังว่าจะใช้บารมีที่มีในช่วงสุดท้ายในการประคองพรรคเพื่อไทย ประคองตระกูลชินวัตรประคองลูก วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่ผิด ประเทศของเราควรจะเดินหน้าได้เสียที และการจะเดินหน้าได้มันต้องหลุดพ้นจากการเมืองแบบนี้ได้แล้ว” นายรังสิมันต์ กล่าว
หยันรบ.ง่อนแง่น‘อิ๊งค์’หมดความชอบ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่าส่วนเรื่องจะเหมาะสมหรือไม่ก็แล้วแต่ดุลยพินิจ แต่ตนคิดว่าเราควรจะมีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ในเมื่อนายกฯถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นต่างๆ มากมายควรจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ ทั้งเรื่องคลิปเสียง ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา าต้องยอมรับว่าไม่ได้รับการแก้ไข และต้องพูดกันว่าความชอบธรรมของน.ส.แพทองธารและพรรคเพื่อไทยไม่มีเหลืออยู่แล้วเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ น.ส.แพทองธารไม่ถูกคิดถึง ในฐานะนายกฯอีกแล้ว เพราะขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลจะไปรอดถึงขั้นไหน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนก็มีคำถามเหมือนกันเราอยู่ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลง่อนแง่นมาก เป็นช่วงเวลาที่เราต้องยอมรับว่า ล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้วในแง่ของเรื่ององค์ประชุมสภาพรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถประคองได้เลย พร้อมที่จะล่มตลอดเวลา ถ้าจังหวะไหนไม่เข้มแข็ง ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะมีความสามัคคีในการปกครองสภา ดังนั้นการผลักดันนโยบายต่างๆ ก็ยิ่งมีปัญหาต่อไป ไม่ใช่แค่นโยบายเรือธงที่ผลักดันไม่ได้ แม้แต่ในการเป็นรัฐบาลที่ดี ในแบบที่ควรจะเป็น ก็ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้
‘เท้ง’เมิน’ทักษิณ’ร่วมวงดินเนอร์
ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ว่า คงไม่ได้มีความเห็นอะไรเป็นพิเศษ ตนยังคงหวังว่าบทสนทนาที่เกิดขึ้นในวงดินเนอร์น่าจะเป็นสิ่งต่างๆที่รัฐบาลอยากจะมาผลักดันร่วมกัน ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ตนเชื่อว่าตอนนี้เรามีกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยมาอยู่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ดังนั้น ถ้ามีจุดยืนบางอย่างที่พรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้ เช่น การปฏิรูปกองทัพหรือกฎหมายอื่นๆบางฉบับ ฝ่ายค้านก็พร้อมที่จะสนับสนุนรัฐบาล ไม่อยากให้วงดินเนอร์นี้เป็นวงดินเนอร์ที่พูดคุยกัน ในเรื่องการแบ่งเค้ก หรือรวมเสียงรัฐบาล อยากให้เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง
ย้ำถ้ากม.เห็นตรงกันพร้อมหนุน
เมื่อถามว่าสภาพรัฐบาลที่เป็นอยู่ตอนนี้จะพูดเรื่องปัญหาประชาชนได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าบวกเลขสส.ในสภา ลำพังเสียงของพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาชน 2 พรรค ถ้าเราเห็นด้วยตรงกันในกฎหมายบางฉบับที่สามารถผลักดันได้ ก็ได้เสียงเกินครึ่งอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะสามารถพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างไรก็ตามกฎหมายหลายฉบับไม่ใช่กฎหมายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่จำเป็นต้อง มติครม.หรือวิปรัฐบาล อยากให้พรรคเพื่อไทยในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาล มองเรื่องประโยชน์ประชาชนเป็นตัวตั้ง กฎหมายหลายฉบับที่เป็น สส.ฝ่ายค้านเสนอ แต่ถ้าเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนก็สามารถจะผลักดันร่วมกันได้ภายในสภาชุดนี้
ตอกย้ำปชช.ขาดความเชื่อมั่นรบ.
เมื่อถามว่าเป็นการตอกย้ำหรือไม่ว่านายทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นสิ่งที่สังคมเห็นอยู่แล้วมาโดยตลอด ไม่อยากจะไปแสดงความเห็นเพิ่มเติม เพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนรับรู้ดีอยู่แล้ว แต่ถามว่าภายใต้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำแบบที่เป็นอยู่ และประชาชนค่อนข้างขาดความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน สิ่งที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ นอกจากเรื่องการแบ่งสันปันส่วนผลประโยชน์ทางการเมือง ถ้าจะมากลับมาผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวม ตนเชื่อว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในระบบรัฐสภามากขึ้น
นัด10ก.ย.ชี้ขาดแก้รธน.ทำประชามติกี่ครั้ง
ศาลรัฐธรรมนูญ นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ คดีที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ขอให้วินิจฉัยกรณีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของรัฐสภา ในการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมของสมาชิกรัฐสภา ในวันพุธที่ 10 ก.ย.68 เวลา 09.30 น.
หลังจากได้พิจารณาโดยการอภิปรายแล้ว เห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561
คดีนี้ ประธานรัฐสภาได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย เมื่อวันที่ 21 มี.ค.68 และต่อมาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.68 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากให้รับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 เม.ย.68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี