‘สาทิตย์’ชี้หลังสิงหาฯ‘พท.’ถูกเขี่ย ‘ภท’ขึ้นเป็นแกนนำ จับตา‘กล้าธรรม’ดาวรุ่งพุ่งแรงกวาดคะแนนเสียงภาคใต้ ชี้‘เอกนัฏ-พีระพันธุ์’ตัดสินใจร่วมรัฐบาลแพทองธาร ‘เข้าใจ แต่ไม่เห็นด้วย’

23 กรกฎาคม 2568 นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในรายการ "อาจารย์ปู ชูรส" ทางช่องยูทูป "แนวหน้าออนไลน์" โดยมี "อ.ปู จิตกร บุษบา" ดำเนินรายการ

นายสาทิตย์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ทุกวันนี้สังคมไม่ได้คิดว่าพรรคการเมืองบางพรรค เจ้าของตัวจริงเป็นมาอย่างไร รวยมาได้อย่างไร แป้งหรือเปล่า ไม่มีใครถามแล้ว เท่ากันหมด ขณะที่นักการเมืองที่เป็นน้ำดีในสภาฯ ไม่ได้รับการยกย่องขึ้นมา กลายเป็นเท่ากันหมด ส่งผลถึงการเลือกตั้ง พอคนไปเลือกตั้งก็คิดว่าไหน ๆ มันก็เท่ากันหมด ใครให้เงินก็เลือกคนนั้น จึงกลายเป็นประชาธิปไตยเงินสด ระบบธุรกิจ เป็นธุรกิจการเมือง ดังนั้นพรรคไหนที่พวกเยอะ คนเยอะ เงินเยอะ มีเอ็นเกจเมนต์เยอะ ๆ คนก็รู้สึกว่าน่าไปอยู่ด้วย โดยไม่รู้สึกผิด อย่างตอนนี้ถือว่าตลาดการเมืองเปิดแล้ว ใกล้เลือกตั้ง ซื้อยกคอก บางคอกไม่รอให้เขาซื้อยกคอก แต่เปิดคอกให้เขาซื้อเลย และไม่มีความเขินอาย

ทั้งนี้ เมื่อก่อนการเมืองถูกบังคับให้คนต้องมีอุดมการณ์ ต้องมีจุดยืน การย้ายพรรคเป็นเรื่องน่าอายมาก ถ้าไม่มีเหตุผลถึงที่สุดจริง ๆ แต่ยุคนี้พูดได้อย่างไร ผมเปิดรับทุกพรรค รักเท่า ๆ กัน แล้วอุดมการณ์การเมืองคุณอยู่ตรงไหน จริง ๆ แล้วเวลาเลือกตั้งเราต้องขบคิดว่าเราจะเลือกใคร แล้วเลือกจากอะไร

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า ตนเคยทำคลิปเกี่ยวกับเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง หากเงินที่ซื้อรายหัวมันสูงขึ้นทุกวัน มันคือการเปิดโอกาสให้ธุรกิจสีเทา ธุรกิจสีดำมาครอบงำการเมือง เพราะเงินที่มาแจกไม่ได้เป็นเงินสุจริตหรอก ไม่มีใครเอาเงินออมตัวเองมาซื้อเสียง เพราะเงินที่หาง่ายที่สุด คือ เงินที่มาจากธุรกิจสีเทา

“มีคนถามกรณีที่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ไปร่วมรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขอตอบคำสั้น ๆ “เข้าใจ แต่ไม่เห็นด้วย” ซึ่งมองว่ามันไม่ใช่ทำไมคนเราเปลี่ยนจุดยืนง่ายจัง นับแต่วันที่คุณตัดสินใจทำการเมืองกันแบบไร้จุดยืนและสามารถไปร่วมกับรัฐบาลทักษิณได้ เป็นพรรคอะไหล่เขาด้วย” นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อพูดถึงพรรคภูมิใจไทย ตอนนี้เขาก็เดินสายลงพื้นที่ภาคใต้ แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นลงเลย การเมืองทางภาคใต้เมื่อสมัยก่อนมีความแข็งแกร่งด้วยอุดมการณ์มาก แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ลงไปก็มีความคิดว่า พวกคุณจะเลือกฟรี ๆ ได้อย่างไร ต้องมีอะไรติดปลายนวมบ้าง ที่อื่นเขามีกันทั้งนั้น มันก็บ่อนเซาะไป ประกอบกับนักการเมืองที่มาในยุคหลัง บนเวทีหาเสียงแทบไม่มีใครพูดเรื่องอุดมการณ์เลย มันเลยกลายมาเป็นประชานิยม มันไม่มีภูมิคุ้มกันที่นักการเมืองรุ่นเก่าทำไว้ มันก็ค่อย ๆ หมดไป

ทั้งนี้ ตนเคยทำคลิปเปรียบเทียบให้ดู ว่า คนใต้จะเสียเปรียบ เพราะทุกวันนี้พรรคเพื่อไทยฐานหลักเขาอยู่เชียงใหม่ ภาคเหนือตอนบน และภาคอีสาน ซึ่งเขายึดไว้เหนียวแน่นมาก คนตรงนั้นเลือกเขาอย่างมียุทธศาสตร์เลย และแนวทางทักษิณคือพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้จะใช้อยู่เหมือนเดิมหรือไม่

นายสาทิตย์ กล่าวว่า พรรคประชาชนได้เสียงเยอะสุด ฐานเขาอยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก อันนี้เขาชัดเจนมาก  แล้วภาคใต้จากเดิมฐานคือประชาธิปัตย์ คำถามคือคนภาคใต้ที่ไปเป็นนักการเมืองมันลูกน้องเขาทั้งนั้น

เมื่อถามว่า ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคกล้าธรรม ใครจะเจาะคะแนนของภาคใต้ได้มากกว่า นายสาทิตย์ กล่าวว่า ถ้ามองจากอดีตที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยมาก่อน พรรคกล้าธรรมเพิ่งจะมาทีหลัง ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐได้ใช้เทคนิคทางกฎหมายแยกไปตั้งพรรคกล้าธรรม ตนมองว่าพรรคภูมิใจไทยจะมีภาษีกว่าในแง่ของนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่หลัก ๆ เช่น พังงา, กระบี่, สตูล, พัทลุง เขาขยายได้เยอะ ส่วนกล้าธรรมช่วงหลังมาต้องยอมรับว่า ตัวผู้นำทำจริงมีคนมือขวาและซ้ายอยู่ภาคใต้ และเป็นผู้กว้างขวางในแต่ละพื้นที่ ถือว่าพรรคกล้าธรรมเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง มองจากเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาได้พรรคกล้าธรรม เมื่อก่อนคนภาคใต้เลือกจากอุดมการณ์เลือกจากพรรค รอบนี้ตอบหน่อยพรรคกล้าธรรมอุดมการณ์คืออะไร

นอกจากนี้ ถ้าพูดถึงอนาคตการเมืองข้างหน้าสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ ตนมองไว้ 2 อย่าง 1. ต้องการพรรคการเมืองเชิงอุดมการณ์ ไม่ใช่ไปกับใครก็ได้ ซ้ายได้ขวาได้ สีอะไรก็ได้ 2. ต้องการผู้นำที่มีความคิดในเชิงรัฐบุรุษ อาจจะดูหรูแต่จริง ๆ ก็ต้องคิดถึงบ้านเมือง ไม่ใช้แค่อยากเป็น

นายสาธิต มองว่าการเมืองหลังยุคนางสาวแพทองธารพรรคเพื่อไทยจะไปต่ออย่างไร ว่า เพื่อไทยก็อุตลุด อลหม่าน พอสมควร พอเห็นสภาพของนางสาวแพทองธาร กับนายทักษิณ ที่ลุกขึ้นมาโชว์ก็เริ่มคิดว่าพรรคเพื่อไทยจะไปไหวหรือไม่ โอกาสที่เป็นพรรคใหญ่ที่ไม่ใช่ขั้วอีกต่อไปจะลดลง 

นายสาทิตย์ กล่าวถึงการเมืองหลังเดือนสิงหาคม ว่า ขึ้นอยู่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหลังจากนี้ เป็นไปได้หรือไม่ เพื่อไทยถูกเขี่ยออกแล้วภูมิใจไทยมาเป็นแกนนำ แล้วเอาใครในบัญชีรายชื่อ อาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วไปรับเงื่อนไขพรรคประชาชนว่า เป็นรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเตรียมไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะเป็นอีกโฉมหน้าหนึ่ง แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้ยุบสภาเร็ว เพราะไม่รู้จะเลือกใคร

-005