‘อิ๊งค์’เจอไล่ที่น่าน

โดนหญิงบุกด่ากลางวัดภูมินทร์

อุตุฯเตือนฝนถล่ม 49 จังหวัด เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน กำชับ 8 จังหวัด เหนือ อีสาน ระวังฝนตกหนักท่วมฉับพลัน สุโขทัยยังวิกฤต แม่น้ำยมแตก! ซัดแนวกระสอบทรายพังหลายจุดไหลทะลักเข้าท่วมในหลายชุมชน ฝนถล่มเชียงราย เอาไม่อยู่! น้ำทะลักผ่านแนวกั้นแม่น้ำสายไหลท่วมชุมชนซ้ำอีก ระทึกมวลน้ำใหญ่มาสมทบอีก

เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

เตือน49จังหวัดรับมือน้ำท่วม

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

สุโขทันวิกฤตน้ำยมแตกท่วมชุมชน

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.สุโขทัย ยังคงวิกฤต ปริมาณแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้นจนล้นพนัง กระแสน้ำซัดแนวกระสอบทรายพังหลายจุดทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้าน และอีกหลายชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี มี 5 ชุมชนได้รับความเดือดร้อน คือ ชุมชนคูหาสุวรรณ ชุมชนวังหิน ชุมชนบางแก้ว ชุมชนพระแม่ย่า และชุมชนเลอไท

ขณะที่ในหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 9 ต.ปากแคว อ.เมืองสุโขทัย ถูกตัดกระแสไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังน้ำท่วมสูงจนถึงมิเตอร์ไฟฟ้า เจ้าหน้าที่และทีมกู้ภัยต้องเร่งเข้าไปช่วยเหลือ ยกทรัพย์สินสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมช่วยอพยพคนและสัตว์เลี้ยงมายังที่ปลอดภัย

สำหรับพื้นที่ ต.คลองมะพลับ อ.ศรีนคร น้ำล้นข้ามคลองยม-น่าน ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน จำนวน 4 หมู่บ้าน 295 หลังคาเรือน ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.สวรรคโลก พบมีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 3 ตำบล คือ ต.ท่าทอง ต.คลองกระจง ต.คลองยาง.

เอาไม่อยู่!แม่น้ำสายะลักแนวกั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานส่าเมื่อเวลา03.00 น. ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทั้งในเขตภาคเหนือของประเทศไทยและรัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา ได้ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสาย ซึ่งมีต้นแม่น้ำอยู่ในเขตรัฐฉานตะวันออกได้เพิ่มระดับสูงขึ้นและทะลักผ่านอาคารริมฝั่ง ที่ทำเป็นแนวป้องกันน้ำชั่วคราวของกรมการทหารช่าง จนเข้าท่วมบางชุมชนในเขต อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในระดับล้นตลิ่งได้ไหลผ่านตัวอาคารที่ยังไม่ได้รื้อถอน ตรงชุมชนสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย จนทะลักเข้าตลาดสายลมจอย

ส่วนฝั่งตะวันออกของสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ทะลักไปถึงตลาดไม้ลุงขน ชาวบ้านต้องพากันรีบขนย้ายข้าวของหนีอย่างเร่งด่วน เพราะคาดไม่ถึงว่าน้ำจะฝ่าแนวป้องกันเข้ามาได้และปริมาณน้ำเหมือนกับที่เคยทะลักเข้าท่วมชายแดนเมื่อปลายปี 2567 เช่นเดียวกับฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ที่น้ำทะลุแนวพนังกันที่ก่อสร้างจนเข้าสู่บ้านปงถุน ตลาดท่าล้อ

ระทึก!มวลน้ำใหญ่มาสมทบอีก

นอกจากนี้ พบว่า ฝนที่ตกลงมาที่บ้านโจตาดา จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่เหนือน้ำ วัดระดับในเวลา 08.00 น.ของวันเดียวกันได้มากถึง 118.8 มิลลิเมตร และมวลน้ำดังกล่าวจะไหลไปถึงชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย ในอีก 4 ชั่วโมงข้างหน้าคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเข้าท่วมอีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนระดับน้ำที่บ้านโจตาดาก็เกิดภาวะล้นตลิ่งหรือมีปริมาณน้ำร้อยละ 110 แล้ว และที่สะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 อยู่ที่ระดับร้อยละ 115.15 ซึ่งอยู่ในภาวะล้นตลิ่งเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารกรมการทหารช่าง ฝ่ายปกครอง อ.แม่สาย เทศบาล ต.แม่สาย และเทศบาล ต.เวียงพางคำ ได้ระดมกำลังกันนำกระสอบบิ๊กแบ็คไปวางก้้นตามจุดต่างๆ ให้อยู่ในแนวที่สูงกว่าระดับน้ำ เช่น ตรงคอสะพานมิตรภาพฯ แห่งที่ 1 หรือจุดที่น้ำรั่วทะลักเข้าสู่ชุมชน

โดยนายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย กล่าวว่าระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ได้ล้นแนวป้องกันน้ำท่วมที่กรมการทหารช่างก่อสร้างเอาไว้แต่ได้ไหลทะลุแนวใต้ตึกหรือ ผนังริมฝั่งจนล้นเข้าสู่ชุมชนและยังมีปริมาณขยะและท่อนซุงไหลไปติดตามสะพานทำให้น้ำไหลระบายไม่สะดวก ทำให้เจ้าหน้าที่ได้พยายามนำเอาเศษสวะต่างๆ ที่ติดตามสะพานออกไปและสูบน้ำออก รวมทั้งให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเปลาะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาล ให้ย้ายไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

‘เนื่องจากปริมาณน้ำจากบ้านโจตาดามีปริมาณมากจนล้นตลิ่งตั้งแต่เวลา 06.00 น.จากนั้นในอีก 4 ชั่วโมงมวลน้ำก็จะถึง อ.แม่สาย ปัญหาอุปสรรคคือขยะและท่อนซุงที่ไหลมากับน้ำ ‘ นายอำเภอแม่สาย กล่าว

“อิ๊งค์”บินลงเยี่ยมน้ำท่วมน่าน

เวลา 11.00 น.ที่วัดภูมินทร์ อ.เมืองน่าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามผลกระทบจากพายุวิภา ที่ส่งผลให้น้ำท่วมหนัก โดยจุดแรกได้ตรวจติดตามผลกระทบและความเสียหายของโบราณสถานและประติมากรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่าน ที่วัดภูมินทร์ ซึ่งนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร รายงานว่า ประติมากรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่าน ไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง แต่อาจมีปัญหาความชื้นภายหลัง ซึ่งกรมศิลปากรจะได้ดำเนินการสำรวจและหาแนวทางการอนุรักษ์ที่เหมาะสมต่อไป

ยันรัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้พบปะให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า เรื่องของสถานที่ต่าง ๆ ทั้งวัด โบราณสถานที่ได้รับความเสียหาย กระทรวงวัฒนธรรมจะดูแล และตนเป็นตัวแทนของคณะรัฐมนตรีมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนทุกท่าน หากน้ำลดแล้วก็จะลำบากหน่อยในเรื่องการฟื้นฟู ทำความสะอาด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่คิดทอดทิ้งพี่น้องประชาชน วันนี้ตนก็ได้ลงมาติดตามดู หากขาดเหลืออะไรก็จะสนับสนุนประชาชนทุกท่าน วันนี้ขอส่งกำลังใจ ส่งความจริงใจให้ทุกท่าน ว่ารัฐบาลเต็มที่ในการช่วยฟื้นฟูและดูแลพี่น้องประชาชน