วันจันทร์ ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือ กมธ.พาณิชย์ฯ เดินหน้าแก้กฎหมายปิดช่องโหว่'นอมินีต่างชาติ'

ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือ กมธ.พาณิชย์ฯ เดินหน้าแก้กฎหมายปิดช่องโหว่'นอมินีต่างชาติ'

วันอาทิตย์ ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 15.57 น.
Tag : แนวหน้าออนไลน์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน
  •  

ผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือ กมธ.พาณิชย์ฯ เดินหน้าแก้กฎหมายปิดช่องโหว่'นอมินีต่างชาติ'

เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ตรวจการแผ่นดิน จับมือคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา นำโดย นาย
เอกชัย เรืองรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง และคณะ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและขับเคลื่อนข้อเสนอแนะเชิงนโยบายตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน เกี่ยวกับปัญหากฎหมายการถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ของ “นอมินี” มุ่งพัฒนากฎหมายให้เข้มแข็งปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และสร้างระบบการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว


โดยนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยว่า สถานการณ์คนต่างด้าวเข้ามาครอบครองหรือถือครองที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะของการค้าที่ดินโดยอาศัยคนไทยเป็น “ตัวแทนอำพราง” หรือ “นอมินี” มีจำนวนมาก บางส่วนสมรสกับคนไทยเพื่อให้ถือครองแทน  บางส่วนตั้งบริษัทที่มีคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้น แต่คนต่างด้าวบริหารงานจริง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่หลบเลี่ยงข้อจำกัดทางกฎหมาย เป็นการอาศัยช่องว่างของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่น ๆ 

โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ พังงา ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง ตราด และจันทบุรี เป็นต้น อีกทั้งส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และขยายตัวไปเกือบทุกวงการไม่ว่าจะธุรกิจสีเทา Call center ยาเสพติด และอื่นๆ จากปัญหาดังกล่าวสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ตั้งคณะทำงานเพื่อลงพื้นที่สำรวจข้อเท็จจริงผ่านการเก็บรวบรวมข้อมูลทั่วประเทศทั้งจากข้อมูลปฐมภูมิ และข้อมูลทุติยภูมิ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และหน่วยงานกลางที่สำคัญ ๆ  พร้อมจัดประชุมหารือมากกว่า 10 ครั้ง ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นมา 

นายทรงศัก กล่าวว่า ในการดังกล่าวได้จัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลอย่างรอบด้านและเป็นระบบเพื่อการดำเนินงานเชิงรุก ดังนี้

1. ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นเจ้าภาพหลักในการตรวจสอบและป้องกันการจัดตั้งนิติบุคคลที่ใช้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว และปรับปรุง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ ให้ทันสมัย รวมทั้งออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการทำธุรกรรมอำพรางแทนคนต่างด้าว  

2. ให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งคณะทำงานเชิงรุก ตรวจสอบทั้งพื้นที่เมือง แหล่งท่องเที่ยว และพื้นที่เกษตร พร้อมให้กรมที่ดินปรับแก้กฎหมายเพิ่มโทษจำคุก ปรับ และริบที่ดิน

3. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมศักยภาพเกษตรกรไทย และตั้งกลไกเฝ้าระวังการใช้คนไทยเป็นนอมินีในภาคเกษตรกรรม

4. ให้กอ.รมน. สนับสนุนด้านวิชาการ และงบประมาณแก่กอ.รมน.ภาค 4 และขยายผลให้ภาค 1-3 ร่วมดำเนินการด้วย 

5. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายให้ครอบคลุมทุกมิติ

6. ให้สภาทนายความ กำหนดจริยธรรมห้ามทนายความให้คำปรึกษาที่เอื้อต่อธุรกรรมอำพราง หากฝ่าฝืนให้ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง 

7. ให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาออก “กฎหมายเฉพาะ” ว่าด้วยตัวแทนอำพรางในระดับพระราชบัญญัติ และจัดตั้งหน่วยงานกลางเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มขับเคลื่อนข้อเสนอไปบางส่วนแล้ว เช่น สภาผู้แทนราษฎรได้ส่งเรื่องให้กรรมาธิการกฎหมายฯ พิจารณาใช้เป็นข้อมูลประกอบการออกกฎหมาย, กรมที่ดินได้เข้าร่วมประชุมกับอนุกรรมการฯ และอยู่ระหว่างแก้ไขประมวลกฎหมายที่ดิน , วุฒิสภาได้ส่งข้อเสนอแนะให้คณะกรรมาธิการด้านต่าง ๆ พิจารณา , สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีโดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการเรื่องระเบียบและกฎหมาย , กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพัฒนาระบบ AI ตรวจสอบนิติบุคคลเสี่ยง และพัฒนาระบบวิเคราะห์แนวโน้มพฤติกรรมของนิติบุคคล (IBAS) จัดตั้งอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าวโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ทำ MOU แลกเปลี่ยนข้อมูลกับกรมที่ดิน และอยู่ระหว่างพิจารณาให้ความผิดตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวเป็นความผิดมูลฐานของ ปปง. ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 รับทราบข้อเสนอแนะ และมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปผลโดยเร็ว 

นายทรงศัก กล่าวอีกว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินและคณะกรรมาธิการฯ จะร่วมติดตามและผลักดันประเด็นสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ การตรากฎหมายเฉพาะ แก้ไขกฎหมายธุรกิจต่างด้าว แก้ไขประมวลกฎหมายที่ดิน ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการทำธุรกรรมอำพรางแทนคนต่างด้าว และติดตามมาตรการต่าง ๆ ตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินให้เป็นรูปธรรม เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของชาติต่อไป

ขณะนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนเพิ่มเติมอีก 2 กรณี ได้แก่ การกว้านซื้อถ่านกะลามะพร้าวโดยชาวต่างชาติผ่านนอมินีในหลายพื้นที่ หลายจังหวัด และการเปิดร้านค้าปลีกโดยใช้แรงงานผิดกฎหมายในพื้นที่สถานีขนส่งสายใต้ และเพื่อสกัดการแทรกแซงทางเศรษฐกิจของทุนต่างชาติที่แฝงผ่านนอมินี ได้เตรียมดำเนินการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 5 กลุ่มประเด็นสำคัญ ได้แก่  1. กรณีโรงงานศูนย์เหรียญ เพื่อพิจารณาการดำเนินธุรกิจของทุนต่างชาติที่อาจฝ่าฝืนกฎหมาย 2. ธุรกิจก่อสร้าง เพื่อประเมินผลกระทบจากการแฝงตัวผ่านนอมินี  3. ธุรกิจค้าปลีกและการขนส่ง เพื่อป้องกันการใช้ช่องโหว่กฎหมายและควบคุมสินค้ามาตรฐาน  4. ธุรกิจท่องเที่ยว การบริการ และ SME ตลอดจนผลกระทลจากการใช้แพลตฟอร์มของต่างชาติในการซื้อสินค้าและขำระค่าสินค้า ระบบชำระเงินดิจิทัลด้วย Alipay และ Wechat Pay 5. การบังคับใช้กฎหมายและการให้คำปรึกษาทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีนอมินี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานในภาคอุตสาหกรรม การค้าปลีก การท่องเที่ยว และการบังคับใช้กฎหมาย

“หากปล่อยให้ปัญหานอมินีเรื้อรัง จะกระทบทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมในระยะยาว ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีมาตรการเฉียบขาดทางกฎหมายและกลไกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง” นายทรงศัก กล่าว
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ผู้ตรวจการฯ-กมธ.พาณิชย์รุดแก้กม.ปิดช่องโหว่นอมินีต่างชาติ ผู้ตรวจการฯ-กมธ.พาณิชย์รุดแก้กม.ปิดช่องโหว่นอมินีต่างชาติ
  • โพลเผยผลสำรวจ\'เปิดใจพลังเงียบต่อการเมือง\' พบเบื่อหน่าย-ผิดหวังการเมือง โพลเผยผลสำรวจ'เปิดใจพลังเงียบต่อการเมือง' พบเบื่อหน่าย-ผิดหวังการเมือง
  • \'มาดามหยก\'ฟาดนักการเมือง-เกรียนคีย์บอร์ดปากแจ๋ว เห็นหรือยัง\'ทหารมีไว้ทำไม\' 'มาดามหยก'ฟาดนักการเมือง-เกรียนคีย์บอร์ดปากแจ๋ว เห็นหรือยัง'ทหารมีไว้ทำไม'
  • \'สว.\'หนักใจเช็กคุณสมบัติขั้นต้น 25 ผู้สมัคร เป็นป.ป.ช.สองเก้าอี้ พบบางคนลงหลายรอบ 'สว.'หนักใจเช็กคุณสมบัติขั้นต้น 25 ผู้สมัคร เป็นป.ป.ช.สองเก้าอี้ พบบางคนลงหลายรอบ
  • \'สรวงศ์\'เผย\'ทีมยุทธศาสตร์พรรค\'เตรียมเคาะคนนั่งเก้าอี้รองปธ.สภาฯ คนที่1 ก่อนส่งที่ประชุมสส.พท. 'สรวงศ์'เผย'ทีมยุทธศาสตร์พรรค'เตรียมเคาะคนนั่งเก้าอี้รองปธ.สภาฯ คนที่1 ก่อนส่งที่ประชุมสส.พท.
  • ซัดมาลีหยุดโกหก-ใส่ร้าย!! \'จิรายุ\'เตือน\'เขมร\'หากพบโดรนรุกล้ำไทยทำลายทันที ซัดมาลีหยุดโกหก-ใส่ร้าย!! 'จิรายุ'เตือน'เขมร'หากพบโดรนรุกล้ำไทยทำลายทันที
  •  

Breaking News

'วราวุธ'นำทีม พม.มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการจังหวัดร้อยเอ็ด

ตชด.รวบผู้ค้ายายึดยาบ้าเกือบ 4 ล้านเม็ดกลางเมืองเชียงคาน

ผู้สูงอายุหนีสู้รบ! อาศัยอยู่ศูนย์พักพิง เคี้ยวหมากคลายเครียด

โปรดเกล้าฯให้ผู้ว่าฯสุรินทร์ เชิญดอกไม้-ตะกร้าสิ่งของพระราชทาน มอบแก่กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved