วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
จับอดีตทหารเขมร สังกัดหน่วยBHQองครักษ์‘ฮุนเซน’ ยึดเครื่องแบบยศร้อยเอก-ปืน

จับอดีตทหารเขมร สังกัดหน่วยBHQองครักษ์‘ฮุนเซน’ ยึดเครื่องแบบยศร้อยเอก-ปืน

วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เค้นสอบเข้ม ชายแดนไทยกัมพูชา แนวหน้าออนไลน์ ยึดเครื่องแบบยศร้อยเอก-ปืน หวั่นเป็นสายลับ จับอดีตทหารเขมร สังกัดหน่วยBHQองครักษ์ฮุนเซน มทภ.2ลั่นไม่ถอนกำลัง11จุด
  •  

จับอดีตทหารเขมร
สังกัดหน่วยBHQองครักษ์‘ฮุนเซน’
ยึดเครื่องแบบยศร้อยเอก-ปืน
เค้นสอบเข้มหวั่นเป็นสายลับ
มทภ.2ลั่นไม่ถอนกำลัง11จุด
ขึงลวดหนามวางกำลังภูมะเขือ

“ศบ.ทก.” แถลงชายแดนปกติ ปลดล็อกบินโดรนเกษตร หลัง 15 สิงหาคม บินได้เฉพาะกลางวัน 6 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ด้านตำรวจบุรีรัมย์จับหนุ่มกัมพูชา พร้อมของกลางชุดเครื่องแบบทหารและอาวุธปืน เจ้าตัวอ้างปลดประจำการแล้ว แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เช็คข้อมูลพบเดินทางเข้า-ออกไทยบ่อยครั้ง เค้นสอบยอมรับ! “เคยเป็นทหาร BHQ” แต่ลาออกมาหลายปีแล้ว จนท.เร่งเช็คมือถือ-หวั่นส่งข้อมูลลับให้เขมร ขณะที่ มทภ.2 ลั่น กองทัพ ไม่ยอมถอนกำลัง 11 จุด เขตอธิปไตยไทย จี้รบ.เขมรเก็บศพทหาร ส่วนภาคสองสรุปสถานการณ์ชายแดนขึงรั้วลวดหนามช่องอานม้าใหม่ ยันเขมรรื้อขึงใหม่ “บิ๊กอ้วน”ยันเดินหน้าฟ้องแพ่ง-อาญาเขมร เหตุอาชญากรรมร้ายแรง แต่ไม่ใช่ศาลโลก

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงดึกคืนที่ผ่านมา (วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม) จนถึงช่วงเช้าเวลา 07.00 น.ของวันนี้ ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิดหรือ EOD ยังคงเข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง และส่วนราชการทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ยังคงให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกในพื้นที่รวบรวมพลเรือน


สำหรับการหารือภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) โดยเมื่อค่ำคืนวันที่ 5 สิงหาคม เวลา 20.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่นมาเลเซีย) คณะเลขานุการของไทย - กัมพูชา ยังประชุมและเจรจาอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อลดช่องว่างในท่าทีของแต่ละฝ่ายต่อประเด็นต่างๆ เพื่อให้บรรลุข้อตกลงการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง โดยรัฐบาลหวังอย่างยิ่งว่า การประชุม GBC จะนำไปสู่การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืน

ตรวจพบมีการใช้โดรนมากขึ้น

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลประชุมศบ.ทก.ว่า มีเรื่องแจ้งให้ทราบ 4 เรื่อง 1.ที่ผ่านมาสถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาพปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเราได้ตรวจพบการใช้โดรนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ไทยยังประกาศไม่ให้มีการบินโดรนทุกชนิดทั้งประเทศ โดยฝ่ายความมั่นคงยังคงเข้มงวดสกัดกั้นและตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย โดยจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม.

นอกจากนี้ สถานการณ์บริเวณช่องอานม้าที่มีข่าวว่าทหารกัมพูชาพยายามตัดลวดหนามที่ทหารไทยวางไว้ตามขอบเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งปัจจุบันกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายได้เจรจาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีการกระทบกระทั่ง สถานการณ์อยู่ในภาวะปกติ และขณะนี้ฝ่ายไทยได้วางลวดหนามชุดใหม่ทดแทนชุดเดิมที่ถูกตัดไปเรียบร้อย

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า เรื่องที่ 2. การดำเนินการกับบุคคลที่ถูกจับกุมและเป็นคนต่างด้าว ยืนยันว่าตำรวจเข้มงวดตรวจตราและจับกุมต่อบุคคลต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายต่อเนื่อง หลักปฏิบัติคือ ตำรวจจะปฏิบัติการเชิงรุกและตรวจค้นขยายผลเกี่ยวกับผู้มีพฤติกรรมน่าสงสัยหรือคนต่างด้าวแฝงตัวเข้ามา เพื่อเป็นข้อมูลด้านความมั่นคงและประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงต่างๆ โดยแจ้งเบาะแสให้ฝ่ายความมั่นคงรับทราบ ป้องกันป้องปรามการใช้ข่าวหรือการรายงานข่าวบิดเบือน หรือมีผลด้านความมั่นคง ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้ว และฝ่ายความมั่นคงพิสูจน์ทราบแล้วไม่มีประเด็นใดๆที่น่าเป็นห่วงก็จะถูกผลักดันออกนอกประเทศและขึ้นทะเบียนไว้ตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522

ปลดล็อคบินโดรนเกษตรหลัง15สค.

3.ประเด็นการใช้โดรนที่ผ่านมา ขอย้ำว่าไทยยังไม่อนุญาตให้มีการบินโดรนทุกชนิดทั่วประเทศจนถึงวันที่ 15 สิงหาคม ตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 30 ก.ค.68 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม วันนี้ในที่ประชุม ศบ.ทก.ได้พูดคุยเรื่องการผ่อนปรนสำหรับการบินโดรนเพื่อการเกษตรในบางพื้นที่ หลังวันที่ 15 สิงหาคม โดยเห็นพ้องว่าเกษตรกรจำเป็นต้องใช้โดรนเพื่อการเกษตรประเด็นสำคัญในการหารือคือ โดรนเกษตรที่จะทำการบินต้องผ่านการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือผู้ควบคุมอากาศยาน ลงอย่างถูกกฎหมายผ่านระบบ UAS Portal ของสำนักงานการบินพลเรือน โดยการบินนั้น บินได้เฉพาะเวลากลางวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. และขอเน้นย้ำอีกเรื่องคือ ปัจจุบันตามข้อกฎหมายผู้ที่ซื้อโดรนหรือ UVA (อากาศยานที่ไม่มีนักบินควบคุม) มีหน้าที่ลงทะเบียน ที่จุดขายคล้ายกับการซื้อซิมโทรศัพท์มือถือซึ่งเรายังคงดำเนินการมาตรการนี้ต่อเนื่อง

ข่าวดีถกจีบีซี2ฝ่ายสรุปข้อตกลงได้

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวอีกว่า เรื่องสุดท้าย 4.ในเวทีประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย - กัมพูชา (GBC) ความคืบหน้าเมื่อคืนวันที่ 5 สิงหาคม คณะเลขานุการของทั้งสองฝ่ายได้ประชุมเจรจากันถึงเวลา 00.15 น.ของเช้าวันที่ 6 สิงหาคม เนื่องจากฝ่ายเลขานุการกัมพูชาไม่สามารถตัดสินใจได้บางหัวข้อ ต้องส่งเรื่องต่างๆนี้กลับไปให้กรุงพนมเปญพิจารณาก่อน จนทำให้เกิดความล่าช้าในการตกลงใจ กระทั่งเมื่อเช้าวันที่ 6 สิงหาคม มีข่าวดี สองฝ่ายสามารถสรุปข้อตกลงได้ และปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารให้ประธานทั้งสองฝ่ายพิจารณา ตนเน้นย้ำว่าเป็นข้อตกลงของฝ่ายเลขานุการร่วมสองฝ่าย ยังไม่ใช่ข้อตกลงสุดท้ายของการประชุมนี้

โดยฝ่ายไทยจะนำเรื่องที่เป็นข้อสรุป ข้อตกลงกับฝ่ายกัมพูชามาให้ประธานไปพิจารณาก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ช่วงบ่ายวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งการประชุมนี้จะเป็นการประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) วาระพิเศษด้วย เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ก่อนที่ประธานฝ่ายไทยจะเดินทางไปประชุม GBC วันที่ 7 สิงหาคมที่มาเลเซีย ซึ่งเป็นการบ่งบอกให้เห็นถึงระเบียบและกลไกต่างๆของการทำงานของเราว่าการตัดสินใจหรือตกลงใจจะต้องผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างไรบ้าง คือผ่านสมช.และครม.ให้ความเห็นชอบ ก่อนนำไปหารือในเวที GBC วันที่ 7 สิงหาคม

กต.แจงทูต-กงสุลไทยทั่วโลก7สค.

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงถึงการจัดประชุมออนไลน์กับเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลก ในวันที่ 7 สิงหาคม จะเน้นยํ้าการดำเนินการเชิงรุกในการชี้แจงข้อเท็จจริง ที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์และพิสูจน์ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลและสื่อมวลชนต่างประเทศ ตลอดจนประชาคมโลกเข้าใจผิด จากการบิดเบือนข้อมูลเท็จของฝ่ายกัมพูชา ที่มีออกมาอย่างแพร่หลายมากถึงปัจจุบัน ยํ้าว่าหลักการของไทยคือยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี และกลับสู่การเจราจากับกัมพูชา ด้วยความจริงใจและความสุจริตใจ นอกจากนี้ อาจรู้สึกว่าช่วงนี้การเผยแพร่ข่าวปลอมจากฝ่ายกัมพูชา และการใส่ร้ายฝ่ายไทย ถึงขั้นมีการแต่งนิยายถี่เป็นพิเศษ ช่วงการเจรจาตามกรอบจีบีซี ขอย้ำว่าฝ่ายไทยเชื่อมั่นในการรักษาบรรยากาศที่ดี โดยไม่ใส่ร้ายอีกฝ่าย เป็นส่วนสำคัญในการลดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ

ยึด‘โดรน’สุดล้ำไม่ชัดโยงเหตุ‘ชายแดน’

วันเดียวกัน วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์ข้อความลงบนเฟชบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุ กสทช. - ตำรวจสมุทรปราการ บุกค้นบริษัทกลางเมือง ตรวจยึดโดรนสุดล้ำ พร้อมอุปกรณ์ และรถโมบายควบคุม คาดอาจเชื่อมโยง ที่พบโดรนบิน เร่งตรวจสอบ ย้ำยังไม่มีการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์หรือไม่ มีรายงานว่า พนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้าตรวจสอบ พร้อมยึดของกลาง ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ในอ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อ 5 สิงหาคม พร้อมตรวจยึดโดรน รถโมบายควบคุมระบบ ตัวรับสัญญาณโดรน และปืนยิงโดรน นำไปไว้ที่สำนักงาน (กสทช.) ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าโดรน และจดทะเบียนบริษัท ย้ำว่า ยังไม่มีการยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับสถานการณ์หรือไม่

ล่าสุดมีรายงานว่า จากการตรวจยึดสิ่งของไว้เพื่อตรวจสอบ มีดังนี้ 1.โดรน 29 รายการ 2.กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 รายการ 3.ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก 4.เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 รายการ 5.รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน 6.อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ 50 รายการ

จับหนุ่มเขมรพร้อมยึดเครื่องแบบทหารเขมร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เข้าควบคุมตัวนายวิน ดา อายุ 36 ปีชาวกัมพูชา ในบ้านพักที่บ้านโคกสูง ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ตรวจค้นในบ้านพบของกลางเป็นอาวุธปืน 1 กระบอก และชุดเครื่องแบบทหารกัมพูชา ยศร้อยเอก พร้อมตราสัญลักษณ์หน่วยองครักษ์พิทักษ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน หลายชุด

พ.ต.อ.อัษฎไณย ป้องกัน ผู้กำกับการ สภ.ลำดวนเผยว่า ก่อนหน้านี้ ได้รับคำสั่งให้ตรวจสอบข้อมูลคนต่างด้าวในพื้นที่ จนพบความผิดปกติของสามีภรรยาคู่นี้ เนื่องจากทั้งสองคนไม่มีอาชีพ แต่มีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนคนทั่วไป เบื้องต้น นายวินปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันว่าเคยเป็นทหารและปลดประจำการมาตั้งแต่ปี 2564 อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบข้อมูลการเดินทางระหว่างไทยกับกัมพูชาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเดินทางครั้งล่าสุดที่เพิ่งกลับมาในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ต้องประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้านน.ส.จอย ภรรยาของนายวินให้ข้อมูลว่า ไม่ทราบว่าชุดเครื่องแบบทหารนั้นมาจากไหน และสามีเป็นทหารหรือไม่ รู้จักกับนายวินเมื่อ 3 ปีที่แล้วที่บาร์โฮสในพัทยา และมีลูกด้วยกัน 1 คนอายุประมาณ 1 ปี ยอมรับว่าสามีเดินทางเข้า-ออกระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นประจำ เมื่อสอบถามถึงอาชีพของทั้งคู่ในขณะที่อาศัยอยู่ในจ.บุรีรัมย์กว่า 1 ปี น.ส.จอย ตอบว่า ไม่ได้ทำอะไร

รับเคยเป็นทหารBHQ-เร่งสอบมือถือ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันสอบปากคำชายชาวกัมพูชาดังกล่าวเพิ่มเติม นายวินอ้างว่า เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ได้ลาออกมาหลายปีแล้ว ปัจจุบันมีภรรยาเป็นคนไทย และทำงานอยู่ในไทยมาหลายปีแล้ว และมาอยู่ในพื้นที่ อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านภรรยาได้ประมาณ 1 ปี ทั้งอ้างว่าถูกสวมชื่อ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ทั้งชื่อทางทหาร ชื่อในพาสปอร์ต ชื่อในบัตรประชาชน และชื่อในบัตรที่ทำงาน ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาถูกต้อง

ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่ามีการจ่ายเงินให้นายหน้าชาวกัมพูชาที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การของหนุ่มกัมพูชาคนดังกล่าว เกรงว่าอาจแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทยไปให้ฝั่งกัมพูชา เพราะจากการตรวจสอบข้อมูล พบเพิ่งลักลอบเดินทางเข้ามาในไทยช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ พบมีรูปถ่ายการแต่งกายทหารและถืออาวุธสงคราม แต่ก็ต้องตรวจสอบในเชิงลึกอย่างละเอียดว่ามีการส่งข้อมูลด้านความมั่นคงของไทยไปให้กัมพูชาหรือไม่ เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ถ้าในมือถือมีการส่งข้อมูลเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของไทยไปให้กัมพูชาหรือกระทำการใด ก็จะดำเนินคดีตามมา 112 , 113 ต่อไป

มทภ.2จี้เขมรเก็บศพเพื่อนทหารกลับ

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 5 สิงหาคม ตนไปตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีกลิ่นศพทหารกัมพูชาอยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเราได้ประสานกองทัพกัมพูชาให้จัดทีมมาเก็บศพทหารของตนเองที่เสียชีวิตกลับไปทำพิธี เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ส่วนที่กำลังพลนำปูนขาวไปเทป้องกันเชื้อโรคนั้น เราหาวิธีดับกลิ่น เพื่อไม่ให้สภาพแวดล้อมเป็นพิษ ป้องกันโรคระบาด ยืนยันเรื่องการเก็บศพทหารกัมพูชานั้น เป็นเรื่องทางการกัมพูชา และเราไม่มีคำสั่งให้ไปเก็บศพทหารกัมพูชาแต่อย่างใด ให้กัมพูชาดำเนินการเอ

ผู้สื่อขาวถามว่า ปัญหาช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีมีเหตุกระทบกระทั่งเรื่องการรื้อรั้วลวดหนาม พลโทบุญสินกล่าวว่า เขาพยายามขึ้นมา มีกระทบกระทั้งนิดหน่อย แต่ไม่พกอาวุธขึ้นมา แต่เรายืนยันว่าจำเป็น เพื่อป้องกันการวางกำลังของฝ่ายเรา ยืนยันช่องอานม้าไม่มีอะไร และทหารกัมพูชาก็กลับลงไปแล้ว

ยันไม่ถอยกำลังทหาร11จุด-ขึงลวดหนาม

“ยืนยันเราไม่ถอย ซึ่งทั้ง 11 จุด เราทำแบบเดียวกันคือ การวางรั้วลวดหนาม และนำกำลังไปวางไว้ บนภูมะเขือ ก็เช่นกัน มีการวางกำลัง เพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เรียบร้อยต่อแผ่นดิน และยืนยันว่า เราอยู่ในเขตประเทศไทย ไม่ได้รุกล้ำหรือยึดพื้นที่นอกประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลและกองทัพอยู่แล้ว”แม่ทัพภาค2กล่าว และว่า หวังว่าการประชุมจีบีซีทิศทางจะดีขึ้น เพราะเราไม่อยากให้ใช้กำลังต่อกันอยู่แล้ว ซึ่งต้องดูว่าจะลงตัวอย่างไร ส่วนจุดยืนของกองทัพ ยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เราเห็นพ้องต้องกันว่า เราจะไม่ถอยกำลัง อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น

ขึงลวดหนามช่องอานม้าใหม่หลังเขมรรื้อ

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญของสถานการณ์ถึงวันที่ 6 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น.ว่า เจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชา ที่เข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ฝ่ายไทยวางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี

โดยฝ่ายไทยแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งกัมพูชาปฏิบัติตาม และออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้ากางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย

“จีบีซี”คืบหน้าดีชงสมช.พิจารณา

ความคืบหน้าการหารือ GBC วันที่สาม เป็นการหารือฝ่ายเลขานุการสองฝ่าย มีความคืบหน้าทางที่ดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร เพื่อนำเข้าขบวนการของแต่ละประเทศ เพื่อนำให้ ประธาน GBC พิจารณาต่อเพื่อนำไปสู่การลงนามขั้นต่อไปวันที่ 7 สิงหาคม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อสรุปทั้งหมดจะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกมนตรีนั่งเป็นประธานวันนี้

“อ้วน”ชี้ไม่ใช่ฟ้องศาลโลก

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสั่งการฟ้องเรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและทางอาญาว่า เราจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดู เพราะเป็นการก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง ไม่ใช่เป็นการฟ้องศาลโลก แต่ให้สมช. กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกา เข้าไปดูว่าจะใช้ช่องทางใดฟ้องเรียกค่าเสียหายจากกัมพูชา

ย้ำเข้มงวดพิเศษหลังจับสายลับเน้นโดรน

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ คุมตัวสายลับกัมพูชา ซึ่งเป็นทหารหน่วย BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ที่บุรีรัมย์ว่า ให้ทางราชการดำเนินการไป ตอนนี้เราระแวดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เพราะที่มีข่าวออกมาเยอะก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถึงแม้จะยังยืนยันในข้อเท็จจริงไม่ได้ว่าเป็นของคนนั้นคนนี้ แต่เราก็ทราบว่ามีลักษณะเข้ามาเป็นพิเศษ ซึ่งตอนนี้เราก็ได้มีมติไปแล้วเรื่องความเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องโดรน ยกเว้นในเขตพื้นที่ที่ออกนอกเขต 7 จังหวัดชายแดน ที่เป็นพื้นที่การเกษตรก็สามารถขอได้เป็นรายๆ ย้ำว่าช่วงนี้เราต้องเข้มงวดกันหน่อย เพราะยังไม่รู้ว่าการเจรจาจะเป็นอย่างไร

ให้รอผลสอบโดรนที่ยึดได้ที่ปากน้ำ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการตรวจยึดโดรนกว่า 200 ลำได้ที่จ.สมุทรปราการ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนั้นจับไปแล้ว กำลังสอบสวนอยู่ ให้ผลสอบสวนเสร็จค่อยว่ากัน เราทราบว่ามีการจับกุมไปเมื่อคืนวันที่ 5 ส.ค. ซึ่งทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้รายงานมา ส่วนการตรวจสอบการเชื่อมโยงไปถึงเขมรนั้น ต้องดูข้อเท็จจริง ถ้าข้อเท็จจริงไปถึง โยงไปได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่ถ้าไม่ใช่ก็จบไป

“มาริษ”บอกศึกษาอยู่ยังไม่รู้ฟ้องศาลไหน

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศกล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรียมยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อกัมพูชา จากเหตุการณ์ก่อความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะยื่นเรื่องไปศาลไหน ยังศึกษาอยู่ แต่เราจะยื่นฟ้ององค์กรระหว่างประเทศแน่

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงกล่าวถึงการยื่นฟ้องกัมพูชาต่อองค์กรระหว่างประเทศว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล และดูเรื่องข้อกฎหมาย ยอมรับมีช่องอยู่หากใช้การฟ้องระหว่างประเทศ ส่วนการฟ้องจะผูกมัดให้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลกหรือไม่ ต้องดูอย่างถี่ถ้วนว่าหากใช้แล้วมีผลผูกมัดไปถึงเรื่องอื่นหรือไม่

ตัดไฟเขมรถาวร-กฟภ.อรัญรื้อสายไฟ

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สาขาอรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำโดยนายทวีศักดิ์ เกิดทรัพย์ ผู้จัดการ กฟภ.สาขาอรัญประเทศ พร้อมชุดปฏิบัติการ เข้าตัดและรื้อถอนสายส่งไฟฟ้าแรงสูงบริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ใกล้สะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อส่งไฟฟ้าไปเมืองปอยเปต จ.บันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา การดำเนินการนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลไทยที่สั่งยกเลิกสัญญาการขายไฟฟ้าให้กัมพูชาอย่างเป็นทางการ เจ้าหน้าที่ได้ถอนอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าทั้งหมด รวมถึงตู้วัดมิเตอร์ไฟฟ้า สายส่ง และอุปกรณ์ประกอบอื่น ออกจากจุดเชื่อมต่อทั้ง 2 จุด ได้แก่ หน้าห้างสตาร์พลาซา และสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ปัจจุบันเหลือเพียงสายไฟเปลือยที่ไม่สามารถส่งกระแสไฟฟ้าข้ามแดนได้อีก การตัดไฟครั้งนี้เริ่มจากฝั่งกัมพูชาที่ตัดวงจรไฟฟ้าก่อน ตามด้วยนโยบายที่ชัดเจนของรัฐบาลไทยที่สั่งตัดการส่งไฟฟ้าทั้งหมดบริเวณชายแดน ผลกระทบจากการตัดไฟทำให้เมืองปอยเปตเผชิญภาวะไฟฟ้าติดๆดับๆ โดยเฉพาะบริษัทเอกชนและกาสิโนต้องพึ่งเครื่องปั่นไฟชั่วคราวเพื่อทดแทน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สองเรื่องสำคัญ! \'นักวิชาการ\'วิเคราะห์พุ่งเป้า\'2 พ่อลูกตระกูลฮุน\' สองเรื่องสำคัญ! 'นักวิชาการ'วิเคราะห์พุ่งเป้า'2 พ่อลูกตระกูลฮุน'
  • \'บิ๊กเล็ก\'นำคณะบินมาเลย์ ร่วมประชุม GBC แก้ขัดแย้งชายแดนกัมพูชา 'บิ๊กเล็ก'นำคณะบินมาเลย์ ร่วมประชุม GBC แก้ขัดแย้งชายแดนกัมพูชา
  • ทั่วไทยส่งกำลังใจ/สิ่งของไปชายแดน ดูแล‘ทหาร-ปชช.’ กองทัพสั่งทีมเยียวยาจิตใจลงพื้นที่ ทั่วไทยส่งกำลังใจ/สิ่งของไปชายแดน ดูแล‘ทหาร-ปชช.’ กองทัพสั่งทีมเยียวยาจิตใจลงพื้นที่
  • แจงสภาสิ้นส.ค.นี้ ‘ขุนคลัง’เร่งเตรียมข้อตกลงภาษีทรัมป์ แจงสภาสิ้นส.ค.นี้ ‘ขุนคลัง’เร่งเตรียมข้อตกลงภาษีทรัมป์
  • สว.พันธุ์ใหม่ยื่นปธ.วุฒิ ส่งศาลสั่ง136สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่ สว.พันธุ์ใหม่ยื่นปธ.วุฒิ ส่งศาลสั่ง136สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่
  • \'บิ๊กเล็ก\'มั่นใจ 90% บินเจรจา GBC แย้ม สัญญาณดี เผย\'ศบ.ทก.\'แถลงข้อสรุป 8 ส.ค.นี้ 'บิ๊กเล็ก'มั่นใจ 90% บินเจรจา GBC แย้ม สัญญาณดี เผย'ศบ.ทก.'แถลงข้อสรุป 8 ส.ค.นี้
  •  

Breaking News

'โฆษกมาลี'ว่าไง? โดนงัดภาพสวนกลับ 'ทหารเขมรลายพร้อย' ไหนบอกไม่รับคนมีรอยสัก

'บิ๊กเล็ก'ถึงมาเลย์ เตรียมประชุม GBCไทย-กัมพูชา เผยชื่อคณะเจรจาทำข้อตกลงหยุดยิง

บทเรียนจาก'การบินไทย' 'กรณ์'ยกปัจจัยความสำเร็จ-ไร้นักการเมืองแทรกแซง

'เขมร'ชื่นชม'โปน่า'LGBTQ+คนแรกของกองกำลัง สังคมยกย่องมอบเงินเยียวยา60บาท

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved