"บิ๊กเล็ก"เผยวงจีบีซี กัมพูชาให้ความร่วมมืออย่างดี แม้ยังไม่รับข้อเสนอเก็บทุ่นระเบิด เชื่อหวังใช้ป้องกันตัวเอง ระบุ"มาเลเซีย"ให้คำมั่น"สหรัฐฯ-จีน"ไม่แทรกแซง ให้อาเซียนตกลงกันเอง ย้ำชัดฝ่ายไทยขอแค่ผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ยังไม่เอาทูตทหาร เมิน"ฮุน มาเนต"ชงชื่อ"ทรัมป์"รับรางวัลโนเบลสันติภาพ แจงเจรจาเขตแดนเป็นหน้าที่เจบีซี
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขอบคุณประชาชนที่ส่งกำลังใจมาให้ตนและทีมงาน ความสำเร็จครั้งนี้ขอมอบให้ทีมงานฝ่ายเลขา ข้าราชการจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทหารจากทุกเหล่าทัพ ซึ่งภายหลังเสร็จการประชุมเจรจา ไทยและกัมพูชาได้มีการแยกกันแถลงข่าว ตนได้สังเกตสื่อที่ไปรอทำข่าวส่วนใหญ่มารอฟังการแถลงของฝ่ายไทย แสดงให้เห็นว่าเครดิตของประเทศไทย ในเรื่องการเสนอข้อมูลข้อเท็จจริง เป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือในสื่อนานาชาติ ดังนั้นตนจะยึดถือแนวทางนี้ต่อไป นอกจากนี้ ในการประชุมจีบีซียังได้มีการลงนามเอกสาร ซึ่งเราจะขอยึดถือตามเอกสารที่ลงนามร่วมกัน
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนยังได้มีโอกาสพบกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยสิ่งที่เรายึดถือคำมั่นต่อกันคือ มาเลเซียและอาเซียน จะปล่อยให้ไทยและกัมพูชา ตกลงกันเองแบบทวิภาคี จะไม่เข้ามาแทรกแซง ขอแค่เข้ามาสังเกตการณ์ ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา และจีน จะปล่อยให้อาเซียนบริหารสถานการณ์กันเอง จะไม่เข้ามาแทรกแซง เป็นสิ่งที่เราขอไป และมาเลเซียก็ให้คำมั่น นอกจากนี้ สิ่งที่ประสบความสำเร็จในการประชุมครั้งนี้คือ ในห้วงเวลาก่อนหน้านี้ กัมพูชาไม่ยอมเข้ามาพูดคุยแบบทวิภาคี แต่การประชุมครั้งนี้ กัมพูชาเข้ามาพูดคุย ถือเป็นเป้าหมายที่เราทำสำเร็จเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีประชาชนสงสัยว่าเราเชื่อใจกัมพูชาได้หรือไม่ ตนก็ขอเรียนว่าจะใช้แนวทางเดิม คือความมีวุฒิภาวะและดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงความเห็นร่วมกันของนานาชาติ ใช้เป็นกรอบกับทางกัมพูชา ซึ่งในการประชุมกองเลขาจีบีซี ทางกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือ อาจจะมีบางข้อเสนอของเราที่เขายังไม่ยอมรับ คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และเรื่องสแกมเมอร์ และมีบางข้อที่เราเองก็ไม่รับข้อเสนอของเขา
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า หลังการเจรจาจีบีซี จะมีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ซึ่งแตกต่างกับทีมผู้สังเกตการณ์ที่มีผู้ช่วยทูตทหารในอาเซียน เป็นเรื่องที่ฝ่ายไทยได้ขอไว้ก่อน เราขอแค่ผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวเท่านั้น เพื่อไม่ให้มีกองกำลังจากนอกประเทศเข้ามาในไทย ขอให้ประชาชนไว้ใจได้ และเรามองว่ายังไม่จำเป็นต้องให้ผู้ช่วยทูตทหารในอาเซียน เพราะถ้าถึงขั้นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ เราขอศึกษารายละเอียดกฎหมายของแต่ละประเทศก่อน ยืนยันว่าอะไรก็ตามที่ไม่อยู่ในอำนาจของตนก็จะไม่ทำ ส่วนเรื่องใดที่เกินอำนาจจะนำเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะสมัยที่ตนทำ ศบค.โดนไปหลายคดี ตนอยากให้สถานการณ์คลี่คลายเพื่อให้ ศบ.ทก.จบภารกิจโดยเร็ว ไม่ควรอยู่นาน
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนได้แต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว เพื่อให้ช่วยดูสิ่งที่ตนทำอยู่ ว่าต้องมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรหรือไม่ นอกจากนี้ ยังแต่งตั้งที่ปรึกษาประจำตัว จากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ อีกประมาณ 8 คน อาทิ ด้านสังคม ประวัติศาสตร์ กฎหมาย และแผนที่ ตนมองเห็นว่างานข้างหน้าเกินกำลัง จึงต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ คอยแนะนำการทำงาน โดยจะแต่งตั้งในที่ประชุม ศบ.ทก.วันเดียวกันนี้
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนได้ประสานกับแม่ทัพภาคที่ 2 ให้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด มาพูดคุยว่า หากสถานการณ์เหมาะสมจะให้ประชาชนกลับภูมิลำเนา โดยให้เร่งดำเนินการ แต่หากมีจังหวัดใดที่แม่ทัพภาคที่ 2 ยังมีความห่วงใย ก็ขอความร่วมมือให้ประชาชนยังอยู่ในศูนย์อพยพก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า 2 ข้อเสนอที่กัมพูชายังไม่ตอบรับคือ เรื่องความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และเรื่องความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ กัมพูชาให้เหตุผลอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ได้ให้ แต่เราพอทราบ เพราะเขายังอาศัยกับระเบิดเป็นเครื่องป้องกันเขาอยู่ ตนมีความรู้สึกว่า ที่เขาพูดเพราะก็ยังไม่ไว้ใจฝ่ายเรา ตนถึงได้บอกว่า การเจรจาของฝ่ายเลขานั้นยากมาก กัมพูชาไม่ไว้ใจฝ่ายไทย ฝ่ายไทยก็ไม่ไว้ใจฝ่ายกัมพูชา ฉะนั้น การตกลงเพื่อให้ได้ข้อยุติ สื่อมวลชนก็จินตนาการเอาแล้วกันว่าความยากมันขนาดไหน ไม่ได้เป็นการพูดคุยทั่วไป จึงขอชื่นชมและขอบคุณฝ่ายเลขามากๆ ที่สามารถบรรลุข้อเสนอของเราและได้ข้อสรุปที่เหมาะสมในสถานการณ์อย่างนี้
เมื่อถามว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวไปหารือในเวทีต่อไปอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ในการประชุมจีบีซีครั้งต่อไป เราก็จะยกเรื่องนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะยอมรับ เมื่อถามย้ำว่า เราได้แจ้งทางฝ่ายผู้สังเกตการณ์ด้วยหรือไม่ว่า กัมพูชาไม่รับข้อเสนอนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ตนได้พูดไปตอนแถลงข่าวเลย ไม่ใช่แค่ผู้สังเกตการณ์ แต่พูดให้นานาชาติรับทราบด้วยว่า ที่เราเสนอไป 2 ข้อนี้ ทางฝ่ายกัมพูชาไม่รับ
เมื่อถามว่า เรื่องการให้ประชาชนกลับบ้าน ทางพื้นที่สามารถตัดสินใจได้เอง โดยไม่ต้องรายงาน ศบ.ทก.ใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ เพราะ ศบ.ทก.ได้อนุมัติและเห็นชอบไปตามนี้แล้ว แต่ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจเอง เพราะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดประสานกับทหารในพื้นที่ที่จะรู้ถึงความปลอดภัยว่าจะกลับบ้านได้หรือยัง สิ่งที่ยังเป็นห่วงคือ การที่กัมพูชาระดมยิงอาวุธมายังฝั่งเรา และมีลูกจรวดบางส่วนที่ยังตกค้างอยู่ในพื้นที่ เรากังวลว่าประชาชนกลับไปแล้วอาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจจะเป็นลูกหลานที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์เข้าไปเก็บเข้าไปหยิบก็อาจจะได้รับผลกระทบ บาดเจ็บ ถึงเสียชีวิต ตรงนั้นเป็นเรื่องที่เสียใจ เพราะเราพยายามดูแลสถานการณ์มาจนถึงวันนี้ แล้วอยู่ดีๆ มีประชาชนมาเสียชีวิตเพิ่มเติมอีก ตรงนั้นเป็นสิ่งที่เราจะเสียใจมาก ฝ่ายทหารถึงได้ขอประเมินอีกนิด และได้เร่งรัดเข้าไปตรวจพื้นที่ว่ามีลูกจรวดหรือกระสุนปืนใหญ่ หรือวัตถุระเบิดอะไรที่ยังคงตกค้างในพื้นที่ ตรงนี้ต้องขอความเห็นใจประชาชน ไม่ใช่ว่าเราไม่มั่นใจสถานการณ์ แต่เราไม่มั่นใจในความปลอดภัยของประชาชน แต่เมื่อพื้นที่ใดที่ทหารมั่นใจ ตำรวจมั่นใจถึงจะกลับได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการทำลายระเบิดตกค้าง ได้แจ้งไปยังกัมพูชาหรือไม่ เพราะมีบางส่วนเข้าใจผิดคิดว่าไทยยังไม่หยุดยิง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องทำความเข้าใจกันต่อไป เขาน่าจะรับรู้อยู่แล้วในเมื่อเขายิงเข้ามาข้างใน 40 - 50 กม. เราทำลายวัตถุระเบิดในประเทศเราระยะ 40 - 50 กม. ถ้าเราไปวางตนก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว เมื่อถามถึงกรณี ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา โพสต์จะเสนอชื่อ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องนี้ตนขออนุญาตไม่ตอบ ลำพังภาระหน้างานที่ต้องแก้ปัญหาก็หนักอยู่แล้ว ตรงนี้ก็ปล่อยเขาไปแล้วกัน
เมื่อถามว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้กัมพูชายอมเจรจาเรื่องเขตแดนในคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา (เจบีซี) พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า อยากทำความเข้าใจว่า เจบีซีมีกลไกของกระทรวงการต่างประเทศ และมีบุคลากรของกระทรวงการต่างประเทศเป็นประธาน ส่วนจีบีซีและคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) เป็นกลไกของฝ่ายความมั่นคง โดยเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่มีการประชุมเจบีซี ซึ่งได้ผลระดับหนึ่ง และเขานัดว่าจะประชุมอีกครั้งในเดือน ก.ย.ฉะนั้น เจบีซีต้องว่ากันต่อไป เพราะเป็นกลไกที่เดินไปคู่ขนานกันอยู่ และตนไม่สามารถตอบเรื่องเจบีซีได้ เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นเรื่องของคณะกรรมการเจบีซี
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี