เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก "ปราชญ์ สามสี" โพสต์ข้อความระบุว่า วิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา : “ยกแรกยังไม่จบ ศึกใหญ่ยังมา”
แม้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะเริ่ม “เบาบางลง” ในช่วงนี้ แต่คำว่า “เบาบาง” ไม่ได้หมายความว่าความขัดแย้งจะสิ้นสุด เพราะปมใหญ่ที่สุดอย่าง การใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 หรือ 1:200,000 ซึ่งเป็นหัวใจของข้อพิพาท ยังไม่มีข้อยุติ การประนีประนอมในรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันเพียงช่วยให้ทุกฝ่ายถอยกลับไปตั้งหลัก แต่ในเชิงยุทธศาสตร์ นี่เป็นเพียง “การพักยก” ก่อนศึกใหญ่รอบต่อไป หลังจากทั้งสองฝ่ายประเคนหมัดกันไปแล้วในยกแรก
ยกแรก: ไทยตั้งรับ - กัมพูชารุก
แม้หลายคนจะมองว่ายกแรกนี้ไทยตั้งรับเพราะ “ไม่พร้อม” แต่ข้อเท็จจริงคือ กองทัพไทยมีขีดความสามารถและเตรียมพร้อมสำหรับการรบในรัศมีนี้อยู่แล้ว ความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นสิบๆ ปี และมีการปะทะเป็นระยะ เพียงแต่เหตุการณ์เหล่านั้นมักไม่ถูกนำเสนอในข่าว เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่รุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต ทำให้ประชาชนทั่วไปอาจไม่ตระหนักว่าพรมแดนไทย–กัมพูชามีแรงกดดันสะสมมาตลอด
ในยกแรก ฝ่ายไทยอยู่ในสถานะ “ตั้งรับเชิงรุก” - ใช้กำลังและยุทธวิธีสกัดการรุกคืบของกัมพูชาได้ทุกจุดยุทธภูมิ รักษาอธิปไตยและควบคุมพื้นที่สำคัญไว้ได้ ส่วนหนึ่งต้องยกเครดิตให้กับพลังสนับสนุนจากประชาชนที่ช่วยเหลือกองทัพอย่างจริงใจ
ความขัดแย้งในกัมพูชา: ศึกสองพ่อลูก
แม้ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะเป็นผู้นำตามกฎหมาย แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเพียงลำพัง - ฮุน เซน ผู้เป็นบิดาและอดีตผู้นำ ยังคง “ล้วงลูก” และมีบทบาทสำคัญในการสั่งการให้โจมตีไทยอย่างรุนแรง เป้าหมายของฮุน มาเนต คือเพิ่มคะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยการใช้การปลุกกระแส “ชาตินิยม” ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จทางการเมืองกัมพูชา แต่เป้าหมายของฮุน เซนกลับกว้างกว่า - ครอบคลุมถึงการได้มาซึ่งผลประโยชน์จากเกาะกูด บ่อนคาสิโน และการลงทุนของ LYP Group ที่โยงถึงเกาะกง ฟูก๊วก และอาจเชื่อมไปถึงนักการเมืองไทย-มาเลเซีย
ความต่างเป้าหมายนี้ทำให้เกิดรอยร้าว ฮุน มาเนตต้องการชัยชนะเพื่อการเมืองในประเทศ ขณะที่ฮุน เซนมองถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจและอำนาจในภูมิภาค
ทำไมต้องหยุดยิง?
การหยุดยิงครั้งล่าสุดเป็นเพียง “หน้าฉาก” เพราะในความเป็นจริง กัมพูชากำลังเสียเปรียบและไม่สามารถใช้สถานการณ์นี้ต่อยอดเป็นแต้มการเมืองได้ ศึกสองพ่อลูกนี้จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อและซับซ้อน
สรุป: สิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้คือ “ยกแรก” ที่ไทยตั้งรับเชิงรุกสำเร็จ แต่ปมหลักยังไม่ได้แก้ไข และรอยร้าวในผู้นำกัมพูชากำลังเป็นตัวแปรสำคัญว่า “ยกต่อไป” จะรุนแรงหรือซับซ้อนเพียงใด
......
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี