วันอังคาร ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
รบ.ไทยลุยฟ้องศาลอาญาระหว่างปท. ฟันพ่อลูกตระกูล‘ฮุน’ ฐานอาชญากรสงคราม

รบ.ไทยลุยฟ้องศาลอาญาระหว่างปท. ฟันพ่อลูกตระกูล‘ฮุน’ ฐานอาชญากรสงคราม

วันอังคาร ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กัมพูชา เขมร ชายแดน ไทย สู้รบ อาชญากรสงคราม ฮุนเซน ฮุนมาเนต
  •  

รบ.ไทยลุยฟ้องศาลอาญาระหว่างปท.

ฟันพ่อลูกตระกูล‘ฮุน’

ฐานอาชญากรสงคราม

กต.ร้องUNประจานเขมร

ลอบวาง‘ทุ่นระเบิดใหม่’

ทบ.กู้BM-21กระสุนอื้อ

 

“ศบ.ทก.”รายงานชายแดนไทย–กัมพูชา สงบ หลายพื้นที่ปลอดภัย ปชช.ทยอยกลับบ้าน ขณะที่หน่วยงานเร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้างเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ด้านรัฐบาลย้ำไทยเดินหน้าประจานให้โลกรู้ ปมเขมรวางกับระเบิดใหม่ทำให้ทหารไทยเจ็บครั้งที่ 3 ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงหลังข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่ทูตไทยร้อง UN เข้าพบประธานประชุมอนุสัญญาออตตาวา พร้อมจะยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เอาผิด “ฮุนเซน-ฮุนมาเนต” ฐานอาชญากรสงคราม ย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ส่วนบัวแก้วส่งทูตร้องยูเอ็น-รัฐภาคี ประจานให้โลกรู้ เขมรวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทยเจ็บรอบ 3 บก.ทัพไทย เผยเก็บกู้ ‘จรวด-ระเบิด-กระสุนปืนใหญ่’ ที่‘กัมพูชา’ โจมตีไทย 384 รายการ พบจรวด BM-21 เพียบ


เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม จนถึงเช้าวันนี้ (11 สิงหาคม) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้น

ชายแดนสงบ-ปชช.ทยอยกลับภูมิลำเนา

ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา หลังการประชุม GBC มีแนวโน้มคลี่คลายลงต่อเนื่อง และหลายพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาภายใต้การดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม บางพื้นที่ยังพบวัตถุระเบิดหรือวัตถุต้องสงสัยตกค้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเก็บกู้ เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ทั้งนี้ หากประชาชนพบพื้นที่ที่ยังไม่ปลอดภัยหรือพบวัตถุต้องสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหรือตำรวจหมายเลข 191 เพื่อประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าดำเนินการ

“รัฐบาลให้ความสำคัญทั้งการรักษาความสงบและการฟื้นฟูพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัยจากวัตถุระเบิดตกค้าง เพื่อให้ประชาชนกลับบ้านและดำเนินชีวิตได้ตามปกติ” นายจิรายุกล่าว

ทูตไทยฟ้องUNเขมรวางระเบิดใหม่

นายจิรายุเปิดเผยกรณีกำลังพลเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนบริเวณรอยต่อ ช่องโดนเอาว์-กฤษณา (บริเวณภูมะเขือ) อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 นาย ซึ่ง 1 ในนี้ได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ล่าสุด เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 (ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2568) ร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีกัมพูชาในพื้นที่บริเวณช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเรียบร้อยแล้ว และจากการตรวจสอบหลักฐานพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งในการประชุมฯ ฝ่ายไทยเสนอให้ทั้งสองฝ่ายเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันแต่กัมพูชาปฏิเสธ ทั้งนี้ ได้ขอให้ประธานอนุสัญญาฯเวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่นๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาของกัมพูชา

จ่อฟ้องศาลอาญาฯฟันเขมรอาชญากรสงคราม

นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และนครนิวยอร์ก ได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่าง ๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ของกรอบอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

“ขอย้ำว่า ไทยประกาศไม่ยอมรับในเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice: ICJ) หรือศาลโลก มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 จนถึงปัจจุบัน แต่ไทยจะยื่นหลักฐานต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เอาผิดกัมพูชา เป็นอาชญากรรมสงคราม ทำร้ายพลเรือนอย่างชัดเจน”นายจิรายุกล่าว

และว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการกระทำของกัมพูชา ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 ที่กองกำลังไทยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ในเวลาเพียงไม่ถึง 1 เดือนจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

ย้ำไทยไม่เคยมีระเบิดMK84-ยึดหลักสากล

นายจิรายุยังแถลงปฏิเสธกรณีรัฐบาลกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำกัมพูชา ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา แล้ว อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเกิดจากการโจมตีของฝ่ายไทย โดยยืนยัน ไทยไม่มีระเบิด MK 84 และไม่โจมตีใส่เป้าหมายพลเรือน ปฏิบัติการเฉพาะเป้าหมายทางทหาร และก่อนหน้านี้ กองทัพอากาศไทยออกมายืนยันแล้วว่าเป็น“ข่าวปลอม”โดยไทยไม่เคยจัดซื้อระเบิดจากแหล่งที่ถูกกล่าวอ้าง และการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทุกชนิดของไทยดำเนินการผ่านพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ได้รับการรับรองเท่านั้น ซึ่งควรจะให้ องค์กรที่เป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และย้ำว่าปฏิบัติการทางอากาศของไทย เป็นการใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ และอยู่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร และจำกัดวงการทำลายให้อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการเท่านั้น ต่างจากกัมพูชาที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทยนอกเขตพื้นที่การรบ

กู้ระเบิด-กระสุนเขมรยิงไทยได้384รายการ

วันเดียวกัน กองบัญชาการกองทัพไทย รายงานว่า ระหว่าง 1–9 สิงหาคม ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) 15 ชุดปฏิบัติการร่วมกับชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) สนับสนุนกองกำลังสุรนารีและตำรวจภูธรภาค 3 เก็บกู้สรรพาวุธจากการโจมตีของกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน 4 จังหวัด รวม 384 รายการ ประกอบด้วย จรวด BM-21, กระสุนปืนใหญ่, ลูกระเบิด ค. และ วัตถุระเบิดชนิดอื่น ได้แก่

จ.บุรีรัมย์ 80 รายการ (BM-21 จำนวน 28 นัด, ลูกปืนใหญ่ 31 นัด, ลูก ค. 18 นัด, วัตถุระเบิดอื่น 10 รายการ) จ.สุรินทร์ 218 รายการ (BM-21 จำนวน 189 นัด, ลูกปืนใหญ่ 3 นัด, ลูก ค. 28 นัด, วัตถุระเบิดอื่น 10 รายการ) จ.ศรีสะเกษ 70 รายการ (BM-21 จำนวน 30 นัด, ลูกปืนใหญ่ 45 นัด) จ.อุบลราชธานี 16 รายการ (BM-21 จำนวน 16 นัด)

ทบ.โต้เขมรบิดเบือนอ้างไทยยิงถล่ม

ด้านพลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (ทบ.)กล่าวถึงกรณีพล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหม กัมพูชา แถลงถึงการลงพื้นที่ของคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำกัมพูชาจาก 9 ประเทศ สำรวจความเสียหายในหมู่บ้านทมาดอน ตำบลโคกมอน อำเภอบันเตียอำปึล จังหวัดอุดรมีชัยได้รับผลกระทบจากความขัดจากการทิ้งระเบิด MK-84 และการยิงถล่มบ้านเรือน โรงเรียนและสถานีอนามัย โดยกองทัพไทยว่า การเยือนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการติดตามมติที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ซึ่งกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ฝ่ายกัมพูชาอ้าง

กระสุนเขมารตกพื้นที่พลเรือนไทยนับร้อยจุด

พลตรีวินธัยกล่าวต่อว่า ทหารไทยยึดมั่นใช้อาวุธต่อเป้าหมายทางทหารตามหลักสากลเท่านั้นและยืนยันว่าการใช้อาวุธของฝ่ายไทย มีประสิทธิภาพสามารถจำกัดวงการทำลาย อยู่ในพื้นที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น ไม่เหมือนฝ่ายกัมพูชาที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทย ที่อยู่นอกขอบเขตพื้นที่การรบ ในหลายจุดมีระยะห่างจากพื้นที่การรบไกลมากถึง 30 กิโลเมตร ปัจจุบันนับจุดที่มีกระสุนจากฝ่ายกัมพูชามาตกในพื้นที่พลเรือนรวมเป็น 100 จุด ซึ่งมีทั้งที่ระเบิดไปแล้ว และที่ยังไม่ระเบิดอีกจำนวนมาก โดยฝ่ายไทยจัดทำบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วอย่างละเอียด ซึ่งฝ่ายกัมพูชามิอาจปฏิเสธ ความจริง และมิอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และถือเป็นการมุ่งโจมตีต่อเป้าหมายพลเรือนอย่างจงใจ

จับโป๊ะพื้นที่ที่ทูต9ปท.ไปดูเป็นพื้นที่สู้รบ

ส่วนกรณีกัมพูชาพาคณะผู้ช่วยทูตทหรต่างประเทศประจำกัมพูชาจาก 9 ประเทศ ลงสำรวจพื้นที่ บริเวณวัดตาเมือนแซนเจย ต.โคกมอน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย ที่มีร่องรอยความเสียหายตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างถึงนั้น ขอย้ำว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เป้าหมายทางทหาร ซึ่งอยู่บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีระยะห่างจากแนวชายแดนเพียง 1.8 กิโลเมตร ไม่ใช่ลึกเข้าไปยังพื้นที่ตอนในไกลถึง 20-30 กิโลเมตร แบบที่ฝ่ายกัมพูชากระทำต่อฝ่ายไทย ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในขอบเขตของพื้นที่การสู้รบ และในห้วงที่มีการสู้รบ พื้นที่ดังกล่าวไม่มีบุคคลพลเรือนอยู่อาศัย มีเพียงทหารฝ่ายกัมพูชา ใช้เป็นพื้นที่รวมพลเพื่อเตรียมนำกำลังเข้าตีฝ่ายทหารไทย รวมถึงใช้เป็นที่ตั้งบัญชาการรบ พื้นที่ดังกล่าวเป็นเป้าหมายทางทหารของฝ่ายไทย ที่อยู่ในขอบเขตบริเวณของพื้นที่การรบในครั้งนี้ ส่วนตัวเลขพลเรือนที่บาดเจ็บและสูญเสียในพื้นที่อย่างที่กล่าวอ้างนั้น จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง หากมีการบาดเจ็บและสูญเสียจะมีเพียงทหารกัมพูชาเท่านั้น

โต้“มาลี”ป้อง “มทภ.2”ปัดไทยยั่วยุ

พลตรีวินธัยกล่าวถึงกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เรื่องปราสาทตาควาย ขอยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาค 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาแถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา สิ่งที่ท่านกล่าววันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่ปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ เลยวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร แต่ในอนาคตต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต พร้อมกล่าวว่าจะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม ยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่อง การใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน ฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามยั่วยุ และมีการวางแผนใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด

กต.ฟ้องโลกเขมรทำผิดอนุสัญญาออตตาวา

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ออกรายงาน “การดำเนินการของไทยต่อกรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือ อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Convention)

สาระสำคัญคือ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 23 กรกฎาคม และ 9 สิงหาคม 2568 ทหารไทยรวม 11 นาย บาดเจ็บสาหัสจากการเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่วางใหม่โดยกองกำลังทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และช่องโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามลำดับ นั้น กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการภายใต้กรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อตอบโต้กัมพูชาโดย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 จำนวน 3 ฉบับ เปิดเผยพฤติกรรมการวางทุ่นระเบิด PMN-2 ซึ่งกัมพูชาครอบครอง รุกรานอธิปไตยไทย โดยโจมตีมายังฝั่งไทยอย่างไม่แยกแยะระหว่างพลรบและพลเรือน กระทบมนุษยธรรมและขัดกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้ง กฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังพบทุ่นระเบิดใหม่ เพียง 2 วันหลังจากการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งในการประชุมฯฝ่ายไทยเสนอให้ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันตามที่นายกฯทั้งสองประเทศตกลงกันไว้ แต่กัมพูชาปฏิเสธ

ทั้ง 3 ฉบับ ไทยได้ขอให้ประธานอนุสัญญาฯ เวียนหนังสือแจ้งรัฐภาคีอื่น ๆ เพื่อทราบต่อการละเมิดอนุสัญญาฯ ของฝ่ายกัมพูชา นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก มีหนังสือลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ ขอรับความชัดเจนจากกัมพูชาต่อการกระทำที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

เช่นเดียวกับ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา และเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ยังได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ 22 และเลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคีต่าง ๆ ของอนุสัญญาฯ ตลอดจนองค์กรภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินการต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา และชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงการต่างประเทศ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อนุสัญญาออตตาวา ห้ามรัฐภาคีใช้ สะสม ผลิต หรือเคลื่อนย้าย ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวมทั้งให้ทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลตามที่ระบุในอนุสัญญาฯ โดยปัจจุบัน มีสมาชิก 165 ประเทศ ซึ่งไทยเข้าเป็นภาคีในปี 2542 (เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังอาวุธหมดสิ้นเมื่อปี 2546 และทำลายทุ่นระเบิดส่วนที่เก็บไว้เพื่อการวิจัยและอบรมหมดสิ้นในปี 2562 ขณะที่กัมพูชาเข้าเป็นภาคี ในปี 2543 และยังคงมีทุ่นระเบิดที่เก็บไว้สำหรับการวิจัยและอบรม รวมถึงทุ่นระเบิดประเภท PMN-2

ชาวกันทรลักษ์ผวาหลุมระเบิดตกค้างเต็มทุ่งนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่สำรวจกลางทุ่งนาใกล้หมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่กระสุนปืนใหญ่ไม่ทราบชนิดตกใส่จำนวนมาก แต่สามารถกู้ทำลายได้แค่ลูกเดียว หลังเริ่มสำรวจพบยังมีตกค้างอีกจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้าน ทยอยเดินทางกลับเข้าบ้าน และเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร เมื่อน้ำในนาข้าวลดลง พบหลุมต้องสงสัยหลายจุด จึงแจ้งผู้นำชุมชน และ ชรบ.เข้ามาตรวจสอบร่วมกับทหาร

เบื้องต้นคาดว่าเป็นหลุมวัตถุระเบิดตกค้างไม่ต่ำกว่า 50 จุด กระจายอยู่กลางทุ่งนา ตอนนี้ทำได้เพียงนำเชือกฟางล้อมพื้นที่เอาไว้ ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้ รอประสานเจ้าหน้าที่ชุด EOD จังหวัดศรีสะเกษ มาตรวจสอบและทำลายล้างต่อไป ทั้งนี้ ฝากย้ำเตือนพี่น้องประชาชน หากพบวัตถุุต้องสงสัยตามที่ต่าง ๆ อย่าเข้าใกล้ หรือเคลื่อนย้ายโดยพลการ รีบแจ้งผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • หวั่นระบบผิดเพี้ยน!‘ภูมิธรรม’โยนกองทัพตัดสินใจ ปมต่ออายุราชการ‘แม่ทัพภาคที่2’ หวั่นระบบผิดเพี้ยน!‘ภูมิธรรม’โยนกองทัพตัดสินใจ ปมต่ออายุราชการ‘แม่ทัพภาคที่2’
  • ‘ภูมิธรรม’ไม่ได้ยิน‘แม่ทัพภาคที่ 2’ประกาศยึดปราสาทตาควาย รอประชุม สมช.เล็งยุบ‘ศบ.ทก.’ ‘ภูมิธรรม’ไม่ได้ยิน‘แม่ทัพภาคที่ 2’ประกาศยึดปราสาทตาควาย รอประชุม สมช.เล็งยุบ‘ศบ.ทก.’
  • ลากไส้‘ระบอบฮุน-ชิน’ ตราบาปของ‘กัมพูชา-ไทย’ ลากไส้‘ระบอบฮุน-ชิน’ ตราบาปของ‘กัมพูชา-ไทย’
  • BM-21 เพียบ! เก็บกู้ระเบิดสำเร็จ 432 รายการในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา BM-21 เพียบ! เก็บกู้ระเบิดสำเร็จ 432 รายการในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
  • \'เสธ.เบิร์ด\'ฝากถึงผู้นำ\'เขมร\' ก่อนแหกปากโกหก ขอให้แหกตาดูความจริงด้วย 'เสธ.เบิร์ด'ฝากถึงผู้นำ'เขมร' ก่อนแหกปากโกหก ขอให้แหกตาดูความจริงด้วย
  • \'ดร.เสรี\'ไม่เข้าใจจริงๆ ทั้งนาย-ขี้ข้า ทำไมเกรงใจผู้นำเขมร ชี้จัดการตามหลักทหาร คงจบไปนานแล้ว 'ดร.เสรี'ไม่เข้าใจจริงๆ ทั้งนาย-ขี้ข้า ทำไมเกรงใจผู้นำเขมร ชี้จัดการตามหลักทหาร คงจบไปนานแล้ว
  •  

Breaking News

มทภ.2 ขอบคุณ 'คุณแม่' อนุญาตให้ 'ลูกชาย' มาทำหน้าที่เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน

'รมว.พาณิชย์' ชี้! ฟื้นการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา เล็งคุย'ทูตลาว'ขอใช้เส้นทางผ่านอุบลฯ

แนวหน้าวิเคราะห์ : การพนันออนไลน์ ปัญหาใหญ่โลกยุคดิจิทัล

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบแล้ว! ปชช.ศูนย์อพยพ4จว.กลับภูมิลำเนา กองทัพยังคงตรึงกำลัง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved