ขู่รัฐบาลเตรียมเสียงโหวตให้พอ
ปชน.ลันคว่ำงบ’69
อย่าหวังฝ่ายค้านยกมือให้
‘วิสุทธิ์’มั่นใจผ่านฉลุยแน่
สั่งกำชับรัฐมนตรีที่เป็นสส.
ต้องอยู่ห้องประชุมทั้ง3วัน
“วิสุทธิ์”ปธ.วิปรัฐบาล มั่นใจงบฯ’69 วาระ 2-3 ผ่าน 100 เปอร์เซ็นต์ เชื่อองค์ประชุมครบ กำชับรมต.ที่เป็นสส.ให้อยู่ประชุมตลอดทั้ง 3 วัน “ฝ่ายค้าน”ไม่โหวตให้ไม่เป็นอะไร เป็นเรื่องยอมรับได้ รู้กติกากันอยู่ ด้าน“ศิริกัญญา”ยันปชน.คว่ำงบ’69 ขู่รบ.เตรียมเสียงโหวตให้พอ อย่าหวังน้ำบ่อหน้าจากฝ่ายค้าน ไม่พุ่งเป้าตัดงบกระทรวงไหน แต่ต้องจัดการรีดไขมันส่วนเกิน งงไม่เตรียมเงินไว้พยุง ศก.หลังปรับลดแค่ 8.9 พันล้าน
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2568 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของพรรคร่วมรัฐบาลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคมนี้ ว่า วันที่ 13สิงหาคม เวลา 08.30น.จะประชุมสส.พรรค พท.ที่ชั้น6 อาคารรัฐสภา เวลา 09.00น.ประชุมวิปรัฐบาล ซึ่งได้ทำความเข้าใจพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้วว่า ทุกคนต้องให้ความสำคัญกับการประชุมที่สุด เรื่องที่เป็นสส.ก็น่าจะรู้หน้าที่อยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าองค์ประชุมครบ ทั้งนี้ ได้มีการแจ้งกับรัฐมนตรีที่เป็น สส.ไว้แล้วว่าต้องอยู่สภาทั้ง 3วัน
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ได้ประชุมร่วมกับฝ่ายค้านแล้วว่า เราจะพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณฯ ดังกล่าวทั้งหมด 41มาตรา โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ไปจนถึงเวลา 23.30 น. จะมีการพักประชุม แล้ววันรุ่งขึ้นก็จะเริ่มเวลา 09.00 น. เช่นเดิม ซึ่งวันแรกเราตั้งเป้าว่าจะทำให้ได้ 15มาตรา แล้ววันถัดไปก็จะลงตัวได้ หากสามารถควบคุมเวลา โดยจากการพูดคุยกับฝ่ายค้านเราก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกฝ่ายต้องไปควบคุมคนของตัวเองเพื่อให้การอภิปรายอยู่ในแนวทางที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร และกรรมาธิการก็อย่าชี้แจงเกินเลยไป เอาพอสมควร หากเป็นเช่นนี้เราจะสามารถควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบระยะเวลา 3 วัน ที่เราตั้งใจไว้ เมื่อถามว่า กังวลว่าฝ่ายค้านจะเล่นเกมนับองค์ประชุมหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนว่าคนทุกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราต้องดูแลกันเองอย่างเต็มที่ มั่นใจว่าครั้งนี้เป็นงบประมาณแผ่นดินไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาเล่นอะไรกัน ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ ฉะนั้น รัฐบาลเราก็เตรียมพร้อมระดมคนให้อยู่ในที่ประชุมสภาฯ ให้ได้ เมื่อถามว่า เสียงปริ่มน้ำถือว่าเสียเปรียบหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ในฐานะวิปเราอยากได้เสียงรัฐบาลเยอะๆแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ เราต้องเดินหน้าไปให้ได้ มีหน้าที่ต้องทำให้การประชุมผ่านไปให้ได้ วิปเราต้องทำงานกันเต็มที่ เราต้องขอความร่วมมือจากสส.ทุกคน
ต่อข้อถามว่า มั่นใจงบจะผ่านใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจ100เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่า หลังจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถอนตัวจากร่วมรัฐบาลมองหรือไม่ว่า ภท.อาจไม่โหวตเห็นชอบให้ร่างพรบ.งบประมาณฯ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เขาไม่โหวตให้อยู่แล้ว แต่ไม่เป็นอะไร พรรครัฐบาลต้องโหวตให้กัน ฝ่ายค้านเขาไม่จำเป็นต้องโหวตให้เรา เป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องที่ยอมรับกันได้ รู้กติกาหน้าที่ของตัวเองอยู่
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมพรรคปชน.ในการอภิปรายร่างพรบ.งบประมาณฯวาระ2และ3 ว่า เราได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ทั้งในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) และในชั้นอนุ กมธ.โดยได้วบรวมข้อมูลต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีทั้งในส่วนที่ตัดได้ในชั้นอนุกมธ.และยังตัดไม่ได้ในชั้นอนุกมธ.และเมื่อนำเสนอในห้องกมธ.ชุดใหญ่ก็ยังไม่สามารถตัดได้ เราได้มีการรวบรวมเป็นโครงการต่างๆ ที่ยังเห็นว่า เป็นไขมันที่จำเป็นต้องตัดเพิ่มเติมในงบประมาณปี2569 เราไม่ได้พุ่งเป้าที่กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เราต้องการทำให้เห็นว่า ยังมีงบที่เป็นไขมันแทรกอยู่ในทุกกระทรวงซึ่งต้องการการจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีงบประมาณ2569 ที่เรากำลังจะเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหนัก และต้องการงบประมาณไปฟื้นฟูหรือพยุงเศรษฐกิจ แต่วันนี้กลับไม่มีการเตรียมงบประมาณอะไรไว้อย่างเพียงพอ เราจึงคิดว่าหากปรับลดไขมันตรงนี้ได้ก็จะมีงบประมาณไปเพิ่มในการที่จะไปพยุงหรือฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ ต้องบอกว่าปีนี้กมธ.งบฯ ตัดลดงบประมาณได้ค่อนข้างน้อย คือ 8.92 พันล้านบาทเท่านั้น และงบที่มาขอแปรญัตติก็ไม่ได้เป็นแบบที่เราคาด ตอนแรกคิดว่างบแปรญัตติจะเป็นงบประมาณในส่วนที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก หรือช่วยเหลือเกษตรกร แต่กลับกลายเป็นว่า งบที่เข้ามาขอแปรญัตติเป็นงบปกติที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ เช่น งบสำหรับจ่ายค่าสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ปีหน้าต้องใช้งบประมาณ 2หมื่นล้านบาท แต่สำนักงบประมาณตั้งงบประมาณไว้เพียงแค่ 6 พันล้านบาท ทำให้ต้องได้รับจัดสรรงบประมาณในการแปรญัตติไปเพิ่มประมาณ5พันล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ชำระหนี้รถไฟฟ้าสายสีส้มอยู่ดี
เมื่อถามว่า มองว่าเสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำจะเป็นอุปสรรคทำให้การโหวตร่างพ.ร.บ.งบฯ ในครั้งนี้ไม่ผ่านหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอยู่ เพราะตอนแรกเราคิดว่า รัฐบาลน่าจะสามารถรวบรวมเสียงได้หนักแน่นกว่านี้ แต่หลายครั้งในการประชุมสภาฯที่ผ่านมา เสียงรัฐบาลง่อนแง่นมากทำให้สภาล่มหลายครั้ง แต่การประชุมงบองค์ประชุมต้องพร้อมตลอดเวลา อีกทั้งยังจำเป็นต้องมีการโหวตเป็นรายมาตราด้วย ลุ้นมากว่ารัฐบาลจะรวบรวมเสียงข้างมากไว้ได้หรือไม่ หากฝ่ายค้านโหวตในบางมาตรา เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร ซึ่งสุดแต่จะคาดเดา เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งการโหวตงบประมาณไม่เหมือนกับการโหวตกฎหมายอื่นทั่วไป หากโหวตกฎหมายอื่นทั่วไปองค์ประชุมล่มก็ยังไม่เป็นอะไร แต่ในการโหวตงบประมาณ แล้วองค์ประชุมล่มขึ้นมา ก็อาจจะเกิดปัญหาว่า งบประมาณเสร็จไม่ทันได้ ต้องขอความร่วมมือกับทางรัฐบาลว่า ให้รวบรวมเสียงมาให้ได้ครบถ้วน อย่าหวังน้ำบ่อหน้าจากเสียงของฝ่ายค้าน เพราะนี่เป็นกฎหมายของครม.เราไม่สามารถที่จะโหวตรับให้ได้จริงๆ เพราะเราได้ชี้แจงไปหมดแล้วว่าทำไมวาระ1 เราถึงไม่สามารถโหวตรับได้และเมื่อมาวาระ2ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในแบบที่เราต้องการ ดังนั้น จะให้เราโหวตรับก็คงจะลำบากใจ ขอให้รัฐบาลเตรียมความพร้อมมาให้พร้อม และคิดว่าเขาน่าจะรวบรวมเสียงได้ แม้ว่าหลายครั้งจะล่มก็ตาม
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก“เทพไท-คุยการเมือง” ระบุว่า ประชาชนพึงพอใจกองทัพสูงสุด แนะเปลี่ยนรัฐบาล ว่า ผลการสำรวจของนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เกี่ยวกับความเห็นของประชาชน ในหัวข้อ “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี”มีผลสำรวจน่าสนใจ2ประเด็นคือ 1.ความไว้วางใจต่อหน่วยงานต่างๆ พบว่ากองทัพ ได้รับความไว้วางใจสูงสุด75.73% ค่อนข้างไว้วางใจ 19.31% รวม 95.04% กระทรวงการต่างประเทศ ไว้วางใจมาก 4.89% ค่อนข้างไว้วางใจ 19.23% รวม 24.12% รัฐบาล ไว้วางใจมาก 4.66% ค่อนข้างไว้วางใจ11.45% รวม16.11% 2.ความพึงพอใจพบว่ากองทัพ ประชาชนมีความพึงพอใจมาก 75.42% ค่อนข้างพอใจ19.85% รวม 95.27% กระทรวงการต่างประเทศ พอใจมาก 4.81% ค่อนข้างพอใจ 20.38% รวม 25.19% รัฐบาล พึงพอใจมาก4.27% ค่อนข้างพอใจ 13.75% รวม 18.02%
จะเห็นได้ว่าความไว้วางใจและความพึงพอใจ มีผลการสำรวจที่สอดคล้องกัน ซึ่งหมายความว่า ประชาชนพึงพอใจกองทัพสูงสุด เมื่อรวมแล้วประมาณ95.04% ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ มีความพึงพอใจ รวมแล้ว24.12% ส่วนรัฐบาล มีความพึงพอใจ16.11% แสดงให้เห็นว่าความพึงพอใจของประชาชน มีต่อกองทัพมีต่อทหารอยู่ในระดับสูงสุด ขณะที่ส่วนรัฐบาลประชาชนพึงพอใจและไว้วางใจต่ำสุด ถือว่าเป็นความล้มเหลวของฝ่ายการเมือง จึงเป็นโอกาสของฝ่ายการเมืองไม่ว่าพรรคการเมืองเก่าหรือพรรคการเมืองก่อตั้งใหม่ จะต้องปรับปรุงบทบาท และนโยบาย เพื่อหวังคะแนนนิยมจากคะแนนเสียงที่ศรัทธาต่อกองทัพและทหารมาเป็นคะแนนนิยมของตัวเองให้ได้ ส่วนรัฐบาลหรือรัฐบาลทั้งหมด จะพบว่าความเห็นของประชาชนที่ต้องการให้เปลี่ยนรัฐบาลมีมากถึง27.10% โดยประชาชนตั้งความหวังว่า ถ้าเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว สถานการณ์จะดีขึ้น นี่คือผลการสำรวจของนิด้าโพล ซึ่งบอกนัยยะทางการเมืองได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นนัยยะทางการเมือง ที่พรรคการเมืองควรนำไปวิเคราะห์และขบคิดกันต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี