สื่อพม่าเผย‘หญิงอ้อ’

เว็บไซต์หนังสือพิมพ์อิรวดี (www.irrawaddy.org) ในพม่า รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หรือ “หญิงอ้อ” อดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดินของไทยได้เดินทางไปยังพม่า เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อพบกับ “ซาน ซาร์นี โบ” หมอดูชื่อดังในนครย่างกุ้ง และขอคำแนะนำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางกลับบ้านเกิดเข้าประเทศไทยได้อีกครั้ง และยังขอให้ดูดวงถึงการขอทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมันในเขตตะนาวศรี ของพม่า อีกด้วย

“สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศของพวกเขาไม่ค่อยจะดีนัก พวกเขาจึงต้องการมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ (ยาดาย่า) เพื่อให้ใจสงบสุข และเพื่อให้ทักษิณได้กลับบ้าน โดยคุณหญิงพจมาน ยังถามหมอดูเรื่องการขอสัมปทานทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำมัน ในแถบตะนาวศรี ด้วย” แหล่งข่าว กล่าว

สำหรับพิธียาดาย่า นั้น นับเป็นการประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ซึ่งเป็นที่แพร่หลายตามความเชื่อของชาวพม่า ซึ่งแม้แต่ พล.อ.อาวุโส ตาน ฉ่วย ผู้นำสูงสุดของพม่า ก็ยังเคยสะเดาะเคราะห์แก้เคล็ดด้วยการนุ่งผ้าซิ่นไหมของผู้หญิงมาแล้ว

เว็บไซต์อิรวดี ระบุด้วยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ยังได้ร่วมเดินทางไปยังเจดีย์กาบาเอ ที่มีความหมายว่าสันติภาพของโลก เพื่อขอพรให้เกิดสันติภาพขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเจดีย์แห่งนี้นับเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอดีตนายกรัฐมนตรีไทยคนนี้ ที่จะทำพิธีเกี่ยวกับความเชื่อทางด้านตัวเลข เนื่องจากเคยเป็นสถานที่ที่มีการชำระพระไตรปิฎกครั้งที่ 6 มาก่อน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าของเจดีย์กาบาเอ เปิดเผยกับอิรวดีว่า พวกเขาไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาเยือนที่เจดีย์ เนื่องจากไม่ได้เป็นการมาเยือนอย่างเป็นทางการ

“เขาอาจจะมาในแบบนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง เราก็ไม่รู้เหมือนกัน” ทุน วิน หนึ่งในผู้ดูแลเจดีย์กาบาเอกล่าว

ทั้งนี้ รายงานระบุด้วยว่า อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยยังถือครองทรัพย์สินหลายอย่างในเมืองทวาย ซึ่งเป็นเมืองทางตอนใต้สุดของแคว้นตะนาวศรี และกำลังมีโครงการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีโครงการขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก อาทิ โครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกทวาย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อต้นปีนี้ โลกออนไลน์ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ ซินแสเข่ง หมอดู เข็มทิศ ทองคำ จับยามดวงจีน และยามธาตุ หลังได้ตรวจสอบดวงชะตาของครอบครัวอดีตผู้นำ โดยระบุว่า ดวงของเขาเข้าสู่วิกฤตหนัก เสียทั้งเงิน เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งตัว รวมทั้งบริวารและพี่น้องที่ก่อให้เกิดการหักหลังเกิดขึ้น เรื่องร้ายยังคงตามติด เรื่องคดีความไม่จบ และเกณฑ์ติดคุกที่รออยู่ ยิ่งดิ้นยิ่งมัดตัวเอง เพราะวิบากกรรมและปัญหารออยู่อย่างมากมาย

เดือนที่จะต้องระวังมากที่สุด คือ มิถุนายน กรกฎาคม และตุลาคม เมื่อเหตุมันจะเกิด อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ถ้าหากไม่รู้จักหลีกเลี่ยง จุดจบของชีวิตก็ต้องเกิด ต้องรู้จักหลีกเลี่ยง ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องเดินหน้า หมากกระดานนี้แพ้อยู่แล้ว เพราะเมื่อวาระมาถึงเกณฑ์ดวงถึงฆาต ระวังชีวิตจะดับสูญ ไม่อยากให้เสี่ยงต่อปัญหาที่ไม่คุ้มกัน เพราะเสี่ยงครั้งนี้อาจแลกด้วยชีวิต เสี่ยงโชค เสี่ยงวาสนา เสี่ยงร่ำเสี่ยงรวยเสี่ยงได้ เสี่ยงเวร เสี่ยงกรรม เสี่ยงความตายไม่สนุกเลย เพราะเสี่ยงครั้งนี้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายของประชาชนได้เหมือนกัน

ซินแสเข่ง ระบุว่า กรรมกำลังตามติดเมื่อมีชีวิตตกดวง ชะตาขาด เพราะชีวิตมนุษย์มันเป็นไปตามวาระ เป็นไปตามกรรม จากปัญหาชีวิตที่ทำให้ต้องพลัดพราก อีกทั้งดวงเกิดทำให้เกิดความขัดแย้งที่ก่อให้เกิดความเป็นศัตรู และสู่ชีวิตที่จะก่อให้เกิดการแตกแยกพลัดพรากตายจากมาตามเกมของชีวิตที่หนีไม่พ้น สู่วิกฤตหนักแห่งรอบปีของที่มีผลรุนแรง ตั้งแต่ปี 2548, 2557 และ ปี 2558

“เป็นวาระแห่งกรรมสุดท้ายแห่งชีวิต เงินมากมายมหาศาลที่ไม่สามารถซื้อชะตาชีวิตได้ เมื่อดวงดาวโคจรมาปะทะ ปี 2558 เป็นวิกฤตการณ์ของชีวิตที่หนักหน่วง เป็นชีวิตบั้นปลายแห่งการแตกแยก พลัดพรากและตายจาก เป็นช่วงรอบอายุที่จะต้องจบลง ด้วยความสับสนวุ่นวาย ในการเดินทางในเส้นทางเดินของชีวิตสู่วิกฤตหนักกับความเป็นความตายที่จะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม เวลา 13.59 น.และเวลา 19.59 น.เวลาแห่งศัตรูที่จะโดนทำร้าย เวลา 11.45 น.ตายด้วยอาวุธปืน ทิศอสูรเอเชีย กับ โชคชะตาจะสูญสิ้น”

ซินแสเข่ง ระบุด้วยว่า ปี 2557 ถ้าเขาติดคุกก็ไม่ตาย เพราะวิบากกรรมเคราะห์แห่งความวิบัติเกิดจากเบาไปหาหนักๆ จากคดีความจากศัตรูของเขากับการจองจำ ถ้าติดคุกอาจไม่ตาย แต่จะตายด้วยอาการเจ็บป่วย แต่ถ้าหนีรอดติดคุกความตายจะมาต่อเนื่องจากศัตรู เพราะเมื่อเกิดเหตุใดเหตุหนึ่ง เหตุหนึ่งก็จะไม่เกิด แต่ดวงทรัพย์เสียตลอด เสียแล้วไม่ได้กับเป็นกรรมแรงอาฆาตของฆาตกร ที่พร้อมจะเด็ดชีพได้ทุกเมื่อหากทรัพย์ไม่ถึง คนที่ไม่เคยเป็นศัตรูก็มาเป็นศัตรู ทำดีเท่าไหร่มิตรมองเป็นศัตรูตลอด อีกทั้งทำคุณคนไม่ขึ้น ทำไปแล้วคนใกล้ยังแอบไปให้ร้าย หวังในทรัพย์ที่อยากจะได้ (แปลโดย ASTVผู้จัดการ)

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่าถ้าคุณหญิงพจมานเดินทางไปพม่าจริงก็ไม่เห็นว่ามีอะไรเสียหาย เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่เรื่องสะเดาะเคราะห์นั้นไม่เป็นความจริง การเสนอข่าวนี้เป็นการสะท้อนถึงคุณภาพของผู้เสนอ ที่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูล