มติปชน.-ภท.คว่ำงบ’69
ซัดไม่สอดรับสถานการณ์
มติ “ปชน.” คว่ำงบฯ’69 ซัดไม่สอดรับสถานการณ์ ติงหลายโครงการสามารถ “ลด-ละ-เลื่อน” ได้ สำรองเงินไว้ใช้ยามฉุกเฉินจำเป็น ชี้รบ.ไม่ยอมแก้แม้แต่มาตราเดียว “ภูมิใจไทย” มีมติโหวตคว่ำ งบฯ’69 ทำเพื่อประชาชนน้อย! “พริษฐ์” ชงตัดงบก่อสร้างอาคารสำนักงานศธ.15 จังหวัด เปลี่ยนเป็นเช่า แก้ปัญหาตึกเก่าทรุดโรม-ย้ายเข้าตึกใหม่ได้เร็วกว่า ด้าน “ปารมี” โร่ฟ้องประชาชน “สพฐ.” หั่นงบปรับปรุงอาคารเรียน‘เด็กพิเศษ แทนลดงบโครงการซ้ำซ้อน หั่นงบสธ.จัด‘โอซาก้าเวิล์ดเอ็กซ์โป’ขอเงินสูง ไม่คุ้มค่า ปชช.ไม่ได้ประโยชน์
เมื่อเวลา 09.50 น.วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระ 2 ต่อเนื่องเป็นวันที่ เป็นการพิจารณาในมาตรา 24 งบประมาณกระทรวงศึกษาธิการ
โดย นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ตนขอปรับลดงบประมาณโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ศึกษาธิการจังหวัด 15 จังหวัด มูลค่ารวม 375 ล้านบาทโดยเสนอให้เปลี่ยนจากวิธีการก่อสร้างอาคารใหม่ มาเป็นวิธีการเช่าสถานที่ใหม่หรือด้วยวิธีการอื่น โดยย้ำชัดๆว่าทางตน และกรรมาธิการทุกคนเห็นตรงกันว่าสถานที่ทำงานของศึกษาธิการจังหวัดใน 15 จังหวัด ปัจจุบันมีปัญหาจริง เรามีความจำเป็นที่จะต้องหาที่ทำงานใหม่ที่ปลอดภัยและสะดวกสำหรับเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่ตนและกรรมาธิการเห็นต่างกันอยู่คือ ทางออกปัญหานี้ ควรเป็นการก่อสร้างอาคารใหม่ 15อาคาร หรือควรหาสถานที่ใหม่ด้วยวิธีอื่น โดยให้2เหตุผล ว่า ทำไมเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นต้องสร้างใหม่ขึ้นมาถึง15 อาคาร
ปชน.ค้านศธ.สร้างตึกใหม่15จังหวัด
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้ง 2เหตุผล มีดังนี้ 1.ความคุ้มค่าของงบประมาณ หากศึกษาธิการจังหวัดนั้นเป็นหน่วยงานที่จะทำงานต่อในรูปแบบเดิมไปอีก 100ปี ถ้าเป็นเช่นนี้ตนคิดว่าทางเลือกในการลงทุนสร้างอาคารใหม่ก็พอรับฟังได้ แต่ข้อเท็จจริงที่พวกเราทุกคนในสภาแห่งนี้รับรู้กันก็คือในร่างพ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ ที่ทุกพรรคการเมืองได้เสนอเข้ามาที่สภาและคาดว่าจะถูกพิจารณาในสภาเร็วๆนี้ ทางเลือกที่ 2 คือ หาสถานที่ใหม่ในการเช่า ในเอกสารงบประมาณจะค้นพบว่า 15 อาคารที่ผมพูดถึง มีการตั้งงบประมาณเฉลี่ยที่อาคารละ 25 ล้านบาท หากเราหาสถานที่ใหม่ในการเช่า ด้วยค่าเช่าที่ 50,000บาทต่อเดือน 25 ล้านบาทก็จะทำให้เราเช่าสถานที่ได้ประมาณ 40 กว่าปี หรือถ้าเราหาสถานที่เช่าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 100,000 บาทต่อเดือน 25 ล้านบาทนี้ก็จะทำให้เราสามารถเช่าสถานที่ได้กว่า 20 ปี” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่เหตุผลที่ 2.เรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ หากสถานที่ทำงานปัจจุบันมีความทรุดโทรม ถึงขั้นไม่มีความปลอดภัยในการทำงานต่อการจะแก้ปัญหานี้ด้วยการก่อสร้างอาคารใหม่ก็จะดูเป็นวิธีที่ค่อนข้างประหลาด ไม่เท่าทันต่อสถานการณ์ เพราะหากเราของบมาใช้ในการก่อสร้างอาคารใหม่ ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสร้างเสร็จและสามารถย้ายเข้าได้ แต่ในทางกลับกันหากเราของบประมาณมาหาสถานที่ใหม่เพื่อเช่า ถ้าเราหาได้ก็สามารถย้ายเข้าทำงานในที่ใหม่ได้ทันที และหากเราให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยเจ้าหน้าที่จริงๆ การใช้วิธีการเปลี่ยนงบประมาณในปี 2569 ที่เป็นงบก่อสร้างมาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่แทนก็น่าจะตอบโจทย์ที่สุดหรือในกรณีแย่ที่สุดที่เราไม่สามารถแปรงบฯปี69 ที่เป็นงบก่อสร้าง มาเป็นงบในการเช่าสถานที่ใหม่ได้ การใช้งบปี70 มาเช่าสถานที่ใหม่น่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ย้ายเข้าไปในสถานที่ใหม่ได้เร็วกว่าการใช้งบ 69 มาก่อสร้างอาคารใหม่ด้วยซ้ำ
เช่าคุ้มค่ากว่า-เข้าทำงานได้เร็วกว่า
นายพริษฐ์ กล่าวแรกว่า ตนพูดแบบนี้เพราะได้ทำการบ้านมา ไปย้อนดูในบรรดา 8จังหวัดที่เคยได้งบก่อสร้างสำนักงานศึกษาจังหวัด งบ68 สำรวจเบื้องต้นมีแค่ 1-2 จังหวัดเท่านั้นที่มีการสร้างอาคารเสร็จแล้ว และทางสำนักงบก็ชี้แจงมาว่าส่วนใหญ่คาดว่าจะย้ายเข้าไม่ได้ก่อนต้นปี 2569 หมายความว่า หากการก่อสร้างอาคารในงบ 69 นั้นใช้เวลาเท่าๆกัน แม้เราอนุมัติงบก่อสร้างในวันนี้ อาคาร 15 อาคารใหม่ ก็จะยังสร้างไม่เสร็จ และยังไม่สามารถย้ายเข้าไปได้จนกว่าจะถึงต้นปี 2570 แต่ในทางกลับกัน แม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่เราต้องรอถึงพ.ร.บงบ 70 ในการตั้งงบมาเช่าสถานที่ใหม่ แต่หากหน่วยงานทำงานเร็ว และเตรียมการล่วงหน้าหน่วยงานนั้นสามารถเตรียมการดำเนินการหาสถานที่ใหม่และย้ายเข้าสำหรับเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 70 หรือไตรมาส 4 ในปี 2569 หรือเร็วกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลความคุ้มค่าของงบประมาณหรือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ ตนเห็นว่าการหาสถานที่ใหม่มาเช่านั้นตอบโจทย์ กว่าการก่อสร้างอาคารใหม่ สำหรับสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดใน 15 จังหวัด และเรื่องนี้ในชั้นกรรมาธิการเห็นต่างกันเยอะ และในวันนี้ที่สภาผู้แทนเราจะต้องลงมติเรื่องนี้
หั่นงบสพฐ.ใช้สร้างอาคารเรียน
ด้าน นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนขอเสนอให้ตัดงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในส่วนของโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัลพัฒนาทักษะและเครดิตพอร์ตโพลิโอ ค่าจ้างเหมาบริการจัดหาสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งอนุกมธ.ตัดงบจาก 109ล้านบาท เหลือ 99ล้านบาท ซึ่งตนมองว่าตัดงบน้อยไปเพราะสามารถปรับลดงบประมาณได้อีกหรือชะลอทั้งโครงการ เพราะเป็นโครงการซ้ำซ้อนกับงบประมาณปี 2568จนนักเรียนและครูไทยมีสื่อดิจิทัลมากเกินจำเป็นอีกทั้งสื่อดิจิทัลเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์สามารถสืบหาได้จากอินเตอร์เน็ตทั่วไปที่ ขอตัดลดงบโครงการ แต่ที่ประชุมอนุกมธ.ไม่ยอมรับ และให้สพฐ.ปรับแบบวงเงินรวมทำให้ สพฐ.ปรับลดงบก่อสร้างอาคารโรงเรียน14แห่งที่ผุผัง เสาไฟ สายไฟระเกะระกะ มีข่าวนักเรียนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอาคารที่ผุพัง และตนขอฟ้องประชาชนด้วยว่า สพฐ.ลดงบปรับปรุงอาคารเรียนของเด็กบกพร่องทางการได้ยินและเด็กพิเศษที่เป็นกลุ่มเปราะบางและได้รับงบสพฐ.น้อยอยู่แล้ว
ชี้จัดโอซาก้าเวิล์ดเอ็กซ์โปไม่คุ้มค่า
เวลา11.20น.ได้พิจารณาในมาตรา 25 งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานในสังกัด วงเงิน 5.4 หมื่นล้านบาทโดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายว่า ขอตัดงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ในโครงการโอซาก้าเวิล์ดเอ็กซ์โป 2025 วงเงิน 247 ล้านบาท เพราะไม่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนเพื่อจัดโรดโชว์ให้ต่างชาติเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของเอกชน ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าวพบว่าเป็นโครงการที่ทำต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566-2569 มีวงเงินรวม 973 ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่ามีการดำเนินงานที่ไม่คุ้มกับโครงการสำคัญระดับพันล้านบาท ที่ถือเป็นหน้าเป็นตาประเทศ และมาประชุมกันในวันใกล้ที่จะจัดงานคือวันที่13เม.ย.ที่ผ่านมา นี่ทำงานกันแบบนี้หรือ แบบนี้เรียกชุ่ย
“ในเอกสารของบฯบอกว่าเป็นงานใหญ่ ระดับโลก รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่กว่ารัฐมนตรีจะไปเปิดงาน คือหลังจากที่เปิดงานไปแล้ว 11 วัน ขณะที่วันเปิดงาน 13 เม.ย. กลับส่งระดับรองอธิบดีไปแทน สำหรับรายการของการจัดแสดงนั้นผมมองว่าไม่คุ้มค่ากับงบประมาณ และไม่แปลกที่การจัดงานหรือทำงานแบบนี้ จะทำให้ถูกวิจารณ์ว่างานไม่มีประสิทธิภาพ อาคารสวย แต่คอนเทนต์ราชการ และพบว่าโครงการมีการสืบราคา ก่อนเจาะจงจ้าง 4 วัน ปีนี้มาของบอีก 200 กว่าล้าน ไม่สามารถผ่านงบได้ เพราะไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน” นายสหัสวัต กล่าว
ด้าน นายสกล สุนทรวาณิชย์กิจ สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน เสนอตัดงบส่วนโครงการเดียวกัน เพราะมองว่า งบที่เสนอขอ 235 ล้านบาท สำหรับระยะเวลาจัดงาน 13 วัน ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันการจัดงานในปีที่ผ่านมาพบว่าถูกวิจารณ์อย่างหนัก เช่น การจัดงานภายในไม่เหมาะสม ไม่มีคนบรรยาย ไม่เกิดประโยชน์ วงเงินที่เสนอขอมานั้น ปี69 ใช้ 247ล้านบาท เป็นค่าบริหาร12 ล้านบาท ค่าดำเนินการ จัดนิทรรศกาล 235 ล้านบาท เปรียบเทียบปี67 ใช้ไป 134ล้านบาทและงบปี 68 ตั้งงบ 555 ล้านบาท จัดแสดงจริงระหว่าง 13 เม.ย. - 30ก.ย.นับ 171วัน เมื่อเปรียบกับงบที่ขอปี2569 จัดแสดง 13วัน คุ้มค่าหรือไม่
มติปชน.คว่ำงบไม่สอดรับสถานการณ์
เวลา 13.00น.น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงถึงทิศทางการโหวตร่างพรบ.งบปฯในวาระ3ว่า พรรคปชน.มีมติการลงคะแนนไม่เห็นชอบในวาระ 3 หรือคือการคว่ำ ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 โดยมีจุดยืนดังนี้ เนื่องจากหากเราพิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบ และมีการให้ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเตรียมความพร้อมของงบฯ 69 ที่จะรองรับกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมาโดยตลอด แต่ทางรัฐบาลหรือกรรมาธิการเสียงข้างมากเองก็ดี ไม่ได้นำเอาข้อเสนอแนะหรือข้อสังเกตไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด หากประชาชนติดตามการอภิปรายตลอดสองวันที่ผ่านมา รวมถึงช่วงเช้าของวันนี้ จะเห็นว่ามีจุดที่ผิดปกติที่เป็นไขมัน เป็นงบประมาณที่ไม่จำเป็นซึ่งสามารถที่จะลด ละ เลื่อน โครงการต่างๆ เหล่านั้นออกไปได้ เพื่อเตรียมงบประมาณเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินจำเป็น และเมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ แต่ว่าท้ายที่สุดเรายังเป็นเสียงข้างน้อยในสภาฯ ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขงบประมาณได้แม้แต่มาตราเดียว จึงเป็นเหตุผลที่ในวาระ 3 พรรคประชาชนยืนยันคว่ำ ไม่เห็นชอบกับงบประมาณปี 2569
มติภท.โหวตคว่ำ ‘งบฯปี69
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทยมีมติโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับวิธีคิดของการจัดทำงบประมาณฉบับนี้ หากดูรายละเอียดส่วนใหญ่เป็นงบก่อสร้าง และงบครุภัณฑ์ แต่เป็นงบเพื่อประชาชนจริงๆมีน้อยมาก นอกจากนี้ ในส่วนของงบกลางก็ไม่มีที่มา และไม่รู้ที่ไปของงบประมาณ ซึ่งพรรคมีข้อติติงไปแล้ว โดยเฉพาะงบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ไม่มีความเป็นธรรม และไม่รับฟังถึงเหตุผล
‘ศรีฯ’บุกกกต.จี้สอบซื้องูเห่า10ล้าน
เวลา 10.00น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้สืบสวนและไต่สวนกรณีมีคลิปเสียงสาวปริศนาเจรจาการซื้อเสียงโหวตจาก ส.ส.ว่อนอินเทอร์เน็ต อันเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เป็นพฤติการณ์ของการทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรงและจะทำลายระบบพรรคการเมืองโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการที่รองหัวหน้าพรรคประชาชน(ปชน.) ออกมาเปิดเผยเรื่องการซื้อโหวต สส.พรรคประชาชน เพื่อให้ลงมติผ่านร่างกฎหมายของรัฐบาล และต่อมามี สส.ขอนแก่น พรรคประชาชน ออกมาโพสต์ข้อความยอมรับว่ามีการขอซื้อโหวตจริง เป็นเงินสด 10กิโลกรัมแลกกับการลงมติร่างพรบ.งบฯ ซึ่งกำลังจะมีการโหวตวาระ2และ3 รวมทั้งการโหวตร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ...หรือกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในอนาคต
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าว น่าจะทำกันอย่างเป็นกระบวนการ ซึ่งหาก กกต.จะดำเนินการสืบสวน หรือไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ สามารถทำได้อย่างง่าย เพียงเรียก สส.พรรคประชาชน ที่ออกมาเปิดเผยตัวและยอมรับว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับสาวปริศนานั้นมาสอบสวนหาความจริง โดยเช็คเบอร์โทรศัพท์ต้นเสียงปลายทางจากระบบเครือข่ายเจ้าของค่ายมือถือก็จะรู้ความจริงได้ว่าเป็นใคร และมีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองใหญ่คนใด พรรคการเมืองใด โทรไปคุยรับงานสั่งจากใครบ้าง อย่างไรก็ดีตาม พรป.ว่าด้วยพรรคการ เมือง 2560 มีอย่างน้อย 2มาตรา บัญญัติโทษเกี่ยวกับการซื้อตัว ส.ส. เอาไว้ คือ มาตรา 30 ห้ามมิให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม เพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิก ทั้งนี้ เว้นแต่สิทธิหรือประโยชน์ซึ่งบุคคลจะพึงได้รับในฐานะสมาชิกและมาตรา 31 ห้ามมิให้ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากพรรค การเมืองหรือจากผู้ใดเพื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิก
เตือนโทษคุก5ปี-อาจถึงขั้นยุบพรรค
โดยมีบทลงโทษมาตรา109 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา30 หรือ31 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน5ปีหรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5ปี การกระทำดังกล่าวหากผู้สั่งการมาจากคนของพรรคการเมืองก็อาจถูกสั่งยุบพรรคได้ ตามมาตรา 92 พรบ.พรรคการเมืองฯ ระบุไว้ว่า เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดกระทำการ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมือง คือกระทำการฝ่าฝืนมาตรา30 เมื่อศาลไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทำการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น หมายความว่า ถ้ากกต.สืบสวนสอบสวนหาหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า มีการใช้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดในการซื้อตัวหรือซื้อโหวตส.ส.จริง ทั้งผู้ให้และผู้รับจะต้องมีความผิดตามมาตรา30และ31 โทษสูงสุดคือติดคุก ส่วนโทษทางการเมืองคือพรรคที่ซื้อตัวอาจถูกยุบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี