ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา วันนี้ไม่ได้ชี้ขาดกันที่สนามรบต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังตัดสินกันบนเวทีข้อมูล “ภาพ” และ “เสียง” กลายเป็นอาวุธทรงพลังไม่แพ้ ปืนใหญ่หรือกระสุนจริง
ฝ่ายกัมพูชาเล่นบท “ผู้กำกับละคร” สร้างตัวละครที่ชื่อ ไมเคิล อัลฟาโร ให้เป็น “นักข่าวประจำทำเนียบขาว” ทั้งที่แท้จริงแล้วเป็นเพียงล็อบบี้ยิสต์รับจ้างจัดฉาก แต่กลับสามารถออกไลฟ์สดโจมตีไทยอย่างดุดัน ได้พื้นที่ข่าวระดับสากล สร้างภาพให้กัมพูชาดูเป็นผู้ถูกกระทำ
ขณะภาคประชาชน สื่อสังคมออนไลน์ และอินฟลูน้อยใหญ่ของไทย ช่วยกันเต็มที่ ในการขุดคุ้ย เปิดโปง จนพบว่า ที่แท้ ไมเคิล อัลฟาโร ไม่ใช่นักข่าวจากทำเนียบขาว อย่างที่อ้าง จริงๆคือ ล๊อบบี้ยิสต์ โดยมีหลักฐานที่หนักแน่นยืนยันชัดเจน และทีมโฆษกของกองทัพ ก็ออกมาแถลงตอบโต้ไปในทิศทางเดียวกัน ว่านายไมเคิล อัลฟาโร ไม่ใช่นักข่าว และข้อมูลที่เขานำเสนอนั้น ไม่เป็นความจริงใดๆ
แต่รัฐบาลไทย โดยโฆษกรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กลับเดินสวนไปอีกทาง ที่รีบเสนอออกค่าตั๋วเครื่องบิน–โรงแรมให้ “นักข่าวปลอม” รายนี้บินมาสำรวจชายแดน ยกมือไหว้เชิญขึ้นเวทีเหมือนแขกบ้านแขกเมือง ผลลัพธ์คือโฆษกรัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องภาพลักษณ์ชาติ แต่กลับกลายเป็น เล่นตามเกมของกัมพูชา แบบน่าอับอาย
แม้ภายหลังจะออกมามากลับลำ 360 องศา ว่าเพิ่งรู้ว่า ไมเคิล ไม่ได้เป็นนักข่าวจริง จึงขอยกเลิกไม่เชิญมาเหยียบแผ่นดินไทยแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นการกลับลำภายหลังเสียงก่นด่า ที่ดังมาจากรอบทิศ เพราะเรื่องไมเคิลไม่ใช่นักข่าว ทุกคนรู้หมดแล้ว แต่คนเป็นโฆษกรัฐบาล “เพิ่งจะรู้”
นี่คือความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดที่สุด — แพ้ตั้งแต่ยังไม่ยิงกระสุนสักนัด แพ้เพราะประมาทในสนามข้อมูล แพ้เพราะขาดการกลั่นกรอง และแพ้เพราะรัฐไทยยังติดอยู่ในกรอบราชการ ใช้ถ้อยคำแข็งทื่อในขณะที่โลกใช้ “เรื่องเล่า” และ “ภาพสะเทือนใจ” เป็นกระสุนข่าวสาร
ความผิดพลาดนี้ไม่ได้สะท้อนแค่ความล้มเหลวของบุคคล คือนายจิรายุ เท่านั้น แต่สะท้อนโครงสร้างสื่อสารของรัฐบาลที่ไร้ยุทธศาสตร์ หากยังคงมองสงครามเป็นเพียงการปะทะด้วยอาวุธ โดยไม่เห็นว่าสงครามข่าวสารตัดสินความน่าเชื่อถือก่อนกระสุนจะลั่น ไทยก็จะยังพ่ายแพ้ในสายตาโลก แม้จะยืนหยัดได้ในสนามรบก็ตาม
สิ่งที่รัฐบาลควรทำไม่ใช่ “จัดเวทีให้ตัวประกอบปลอม” แต่คือนำพาสื่อสากลที่แท้จริง เช่น Reuters, AP, AFP มาลงพื้นที่ เปิดข้อเท็จจริงให้ปรากฏ สร้างเรื่องเล่าที่ตั้งอยู่บนความจริงและมีน้ำหนักในเวทีนานาชาติ พร้อมทั้งเสริมศักยภาพโฆษกรัฐบาลให้เข้าใจโลกดิจิทัล ไม่ใช่เพียงทำหน้าที่อ่านเอกสารราชการ
ในศึกที่ตัดสินด้วยข้อมูล รัฐบาลที่ไม่เข้าใจภาษาใหม่ของโลก ก็คือรัฐบาลที่เป็นอุปสรรคต่อกองทัพของตัวเอง
สรุปแล้ว รัฐบาลชุดนี้ สอบตก ครบทุกกมิติ เรียบร้อย ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การปกป้องอธิปไตยของชาติ และล่าสุด คืองานด้านการสื่อสาร ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยทื คะแนนไว้วางใจจากประชาชน ที่สะท้อนผ่านนิด้าโพล จะต่ำเตี้ยเรี่ยดินที่สุดในประวัติศาสตร์ ได้ มาถึง 5%เท่านั้น !
ทีมข่าวแนวหน้าออนไลน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี