วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'รุจิระ บุนนาค'ชี้ข้อตกลงภาษีแลกหมูมะกันทะลักเข้าไทยอาจทำเกษตรกรไทยล้มละลาย

'รุจิระ บุนนาค'ชี้ข้อตกลงภาษีแลกหมูมะกันทะลักเข้าไทยอาจทำเกษตรกรไทยล้มละลาย

วันศุกร์ ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.26 น.
Tag : กฎกติกา แนวหน้าออนไลน์ รุจิระบุนนาค หนังสือพิมพ์แนวหน้า หมูมะกัน
  •  

'รุจิระ บุนนาค'ชี้ข้อตกลงภาษีแลกหมูมะกันทะลักเข้าไทยอาจทำเกษตรกรไทยล้มละลาย

วันที่ 22 สิงหาคม 2568 รุจิระ บุนนาค เจ้าของคอลัมนิสต์ "กฎ กติกา ธุรกิจ" ของหนังสือพิมพ์แนวหน้า ได้เขียนคอลัมนิสต์ ในหัวข้อ "หมูมะกัน ทะลักเข้าไทย" ว่า (คลิกอ่านต้นฉบับ)


การเจรจาต่อรองภาษีทรัมป์ ระหว่างไทย-สหรัฐ ของคณะทำงานของกระทรวงการคลัง (Team Thailand) ภายใต้การนำของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าเจรจาลดอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐของสินค้าไทยในภาพรวม จากเดิม 36% ลดเหลือ 19% ซึ่งสหรัฐประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568

อัตราภาษี 19% นี้ เมื่อเป็นข่าวราวกับเป็นความสำเร็จของคณะทำงานฝ่ายไทย ในขณะเดียวกันสื่ออเมริกันได้เสนอข่าวว่าเป็น ความสำเร็จของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กดดันให้ทั้งไทยและกัมพูชาหยุดยิง โดยใช้อัตราภาษีนำเข้าสหรัฐเป็นตัวต่อรอง

แต่เมื่อพิจารณาถึงอัตราภาษีนำเข้าสหรัฐใหม่ ที่ใช้บังคับกับหลายประเทศในภูมิภาคแถบนี้จะเห็นว่าส่วนใหญ่อยู่ในอัตราระดับเดียวกัน แสดงว่าสหรัฐมีอัตราภาษีที่เป็นคำตอบในใจอยู่แล้ว

อัตราภาษี 19% ที่ไทยได้มานี้ต้องแลกกับการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐหลายรายการ โดยไทยต้องยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ

หนึ่งในรายการสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่ได้รับยกเว้นภาษีซึ่งเป็นที่รับรู้ว่าจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาในประเทศไทยมากมาย ได้แก่ เนื้อหมู และเครื่องในหมู

ผลกระทบที่เกิดขึ้นมีผลต่อเกษตรกรไทยผู้เลี้ยงหมู เพราะเนื้อหมูจากสหรัฐ เป็นการผลิตแบบเชิงอุตสาหกรรมจำนวนมาก (Mass Product) รวมทั้งมีแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงสุกรครบวงจรในราคาถูก โดยเฉพาะ ข้าวโพด ย่อมได้เปรียบ ทำให้การเลี้ยงหมูสามารถทำได้เป็นจำนวนมาก จนเกินความต้องการในสหรัฐ สามารถส่งออกได้เป็นจำนวนมากอีกทั้งราคาเนื้อหมูสหรัฐถูกกว่าราคาเนื้อหมูของไทยเป็นอย่างมาก

ในขณะที่ประเทศไทย ผู้เลี้ยงหมูมีกำลังผลิตได้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศเท่านั้นไม่ได้ทำเป็นอุตสาหกรรม จำนวนมาก (Mass Product) แบบสหรัฐ

ผู้เลี้ยงหมูชาวไทย ยังต้องซื้อข้าวโพด ซึ่งเป็นอาหารสำคัญในการเลี้ยงหมู ในอัตรากิโลกรัมละ 9.00-9.10 บาท โดยประมาณ และไม่สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ต่ำกว่านี้ เพราะรัฐบาลไทยพยุงราคาข้าวโพดไม่ต่ำกว่าระดับนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด จึงทำให้ผู้เลี้ยงหมูชาวไทยมีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าผู้เลี้ยงหมูสหรัฐ

ประเด็นที่สำคัญยังมีอีกว่า ประเทศไทยห้ามใช้สารเร่งเนื้อแดง (Ractopamine) ในการเลี้ยงหมูตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค เพราะมีผลต่อปัญหาสุขภาพของผู้บริโภคในเรื่องความดันหัวใจ และหลอดเลือด

ในขณะที่สหรัฐไม่มีข้อห้ามในการใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงหมูแต่อย่างใด

ที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยบริโภคเนื้อหมูที่นำเข้าจากสหรัฐแล้ว ยังบริโภคเครื่องในด้วย หากนำเข้าเนื้อหมูและเครื่องในจากสหรัฐ สารเร่งเนื้อแดงจะสะสมอยู่ที่ ตับ และไตของหมูเป็นจำนวนมาก เมื่อรับประทานเข้าไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคเรื้อรังอื่นๆ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว

นอกจากนี้ การเลี้ยงหมูในสหรัฐ ยังใช้สารเร่งโตเร็ว ทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงหมูต่ำ เนื้อหมูจึงมีราคาถูกมาก สารเร่งโตเร็วมีผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภคอีกเช่นกัน

การนำเข้าเนื้อหมู และเครื่องในหมูจากสหรัฐ จะทำให้ผู้เลี้ยงหมูในประเทศไทยประสบปัญหาอย่างหนักในระยะเวลาอันใกล้ เพราะจะไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับหมูที่นำเข้าจากสหรัฐอาจถึงขั้นขาดทุน เลิกกิจการ หรือล้มละลายในที่สุด ซึ่งจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของไทยโดยส่วนรวมด้วย

ที่ผ่านมา คณะเจรจาฝ่ายไทยควรพิจารณาปัญหาให้รอบด้าน และไม่รีบผลีผลามตกลงกับสหรัฐโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่จะตามมาในอนาคต

รัฐบาลไทยควรรีบกำหนดมาตรการรองรับในเรื่องผลกระทบจากการนำเข้าเนื้อหมูและเครื่องในจากสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูชาวไทย หรือการจำกัดปริมาณหรือโควตาเนื้อหมูและเครื่องในที่นำเข้าจากสหรัฐ

เรื่องปัญหาการนำเข้าเนื้อหมูและเครื่องในหมูจากสหรัฐ อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ปัญหาที่จะตามมา และเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจไทยโดยไม่คาดคิด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • DSI ลุยบุรีรัมย์ หาหลักฐานแนวเขตที่ดิน\'เขากระโดง\' พบออกโฉนดทับที่ดินการรถไฟฯ DSI ลุยบุรีรัมย์ หาหลักฐานแนวเขตที่ดิน'เขากระโดง' พบออกโฉนดทับที่ดินการรถไฟฯ
  • \'จตุพร\'ฟันฉับ! \'2พ่อลูกชินวัตร\'ไม่รอดคดี ปลุก\'มวลชน\'สู้ อดทน ไม่ใจอ่อน อย่าเพิ่งหวังน้ำบ่อหน้า 'จตุพร'ฟันฉับ! '2พ่อลูกชินวัตร'ไม่รอดคดี ปลุก'มวลชน'สู้ อดทน ไม่ใจอ่อน อย่าเพิ่งหวังน้ำบ่อหน้า
  • \'ทบ.\'โร่แจงวงถกกองเลขาฯ RBC ยังไม่ล่ม เผยไทยเสนอ 3 ข้อ เขมรขอกลับไปถาม\'ฮุนมาเนต\' 'ทบ.'โร่แจงวงถกกองเลขาฯ RBC ยังไม่ล่ม เผยไทยเสนอ 3 ข้อ เขมรขอกลับไปถาม'ฮุนมาเนต'
  • จับตาถก RBC 22 ส.ค. ส่อแววล่ม! หลัง\'เขมร\'ยังไม่โผล่ร่วมประชุมทีมเลขาฯ วันนี้ จับตาถก RBC 22 ส.ค. ส่อแววล่ม! หลัง'เขมร'ยังไม่โผล่ร่วมประชุมทีมเลขาฯ วันนี้
  • \'กรวีร์\'ฉะ\'ภูมิธรรม-เดชอิศม์\'ขึงขังเพิกถอนเขากระโดง เหน็บผ่านมาเกือบเดือน ยังเงียบ 'กรวีร์'ฉะ'ภูมิธรรม-เดชอิศม์'ขึงขังเพิกถอนเขากระโดง เหน็บผ่านมาเกือบเดือน ยังเงียบ
  • เขมรละเมิดกว่า600ครั้ง!! \'ภท.\'ออกแถลงการณ์ ขอสภาฯ พิจารณายกเลิก MOU43-44 เขมรละเมิดกว่า600ครั้ง!! 'ภท.'ออกแถลงการณ์ ขอสภาฯ พิจารณายกเลิก MOU43-44
  •  

Breaking News

'ไก่ทอดหาดใหญ่'เตรียมหมดตลาด 'ลิซ่า'ปรบมือฉาดใหญ่ ถูกใจเมนูรสเริสของไทย

'ตั๊ก มยุรา'เปิดความลับหน้าเด็กแบบไม่ต้องศัลยกรรมเผยพฤติกรรมที่ทำให้หน้าเหี่ยวก่อนวัย!

'เขา'คือใคร? ปริศนาที่ไม่คลี่คลาย ในคดี ม.112 ของ'ทักษิณ'

'โฆษกอัยการ'เผยเป็นอำนาจ'อสส.' อุทธรณ์คดีทักษิณ ม.112 หรือไม่?

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved