วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
2ฝ่ายบรรลุข้อตกลงชายแดน13+3 ‘บิ๊กเล็ก’ชี้สัญญาณดี เขมรยอมกู้ระเบิด-ปราบแก๊งคอลฯ

2ฝ่ายบรรลุข้อตกลงชายแดน13+3 ‘บิ๊กเล็ก’ชี้สัญญาณดี เขมรยอมกู้ระเบิด-ปราบแก๊งคอลฯ

วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : กัมพูชา กู้ระเบิด เขมร ชายแดน ไทย ปราบแก๊งคอลฯ
  •  

2ฝ่ายบรรลุข้อตกลงชายแดน13+3

‘บิ๊กเล็ก’ชี้สัญญาณดี

เขมรยอมกู้ระเบิด-ปราบแก๊งคอลฯ

มท.1ย้ำเยียวยาตามระเบียบเดิม

โวทำได้ดีกว่าทุกรัฐบาลทุกสมัย

เบรกดราม่าปมค่าสังกะสี73บาท

 

“ภูมิธรรม” ยันจ่ายชดเชยปชช.ได้รับผลกระทบ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตามระเบียบเดิม แต่มอบมท.2 คุยหน่วยงานดูงบเยียวยาเพิ่ม โวรัฐบาลนี้ทำได้ดีกว่าทุกรบ.ที่ผ่านมา ส่วนรมช.มหาดไทย ย้ำดูแลพี่น้องชายแดนทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบเร่งปรับเกณฑ์เยียวยาให้เหมาะกับภัยรูปแบบใหม่ ส่วนผลประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่1เห็นพ้อง13 ข้อตกลงหยุดยิง GBC เขมรตอบรับ3ข้อเสนอของไทย “เก็บกู้ทุ่นระเบิด–ปราบสแกมเมอร์-ตั้งชุดประสานงานร่วม” แต่ไม่ตอบรับ แก้ MOU 43 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจ RBC โยนไปถกวง JBC แทน ด้าน “บิ๊กเล็ก”บอกเป็นสัญญาณจากส่วนกลางเรื่องกู้ทุ่นระเบิด แนวโน้มดี เขมรตอบรับร่วมมือไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิด – ปราบสแกมเมอร์ - ตั้งทีบีซีคุยระดับท้องถิ่น แต่ยังไม่เชื่อใจ ขอประเมินก่อน


วันที่ 22 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการจ่ายค่าเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูกมองว่าไม่สมเหตุสมผลว่า เป็นเพียงจุดเล็กๆ ซึ่งจะพิจารณาแก้ปัญหาต่อไป จริงๆเรื่องนี้มีกฎระเบียบอยู่แล้ว เราจึงพยายามฝ่ากฎระเบียบด้วยการมีมติใหม่ออกมา โดยมอบหมายให้นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ คณะกรรมการกฤษฎีกา กรมบัญชีกลาง และส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะส่วนใหญ่ต้องเริ่มต้นที่กฎระเบียบก่อน

ยันเยียวยาตามระเบียบเดิมแต่พร้อมเพิ่มให้

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขออย่าไปดูเรื่องการชดเชยค่าสังกะสี 73 บาท เพราะเรากำลังเพิ่มขั้นตอนต่างๆ พร้อมยืนยันการจ่ายชดเชยครั้งนี้ เป็นการจ่ายโดยใช้ระเบียบข้อบังคับเดิม แต่หากอะไรที่ดูแล้วสามารถเพิ่มให้ได้และชัดเจนว่า เกิดจากเหตุนอกประเทศที่ปะทะกันรุนแรง จนเป็นเหตุให้ได้รับผลกระทบทั้งเสียชีวิตและทรัพย์สินก็จะดูแลให้ เพราะการแก้ตรงนี้พิเศษกว่าที่อื่น

โวรบ.นี้ทำดีกว่าทุกรบ.ที่ผ่านมา

“ยืนยันว่า ที่ทำมาดีกว่าทุกรัฐบาลและทุกสมัย ผมมองว่าเรื่องนี้ยังไม่เป็นเรื่องที่ใหญ่ แต่สำหรับเรื่องใหญ่ๆเดี๋ยวจะดูแลให้ เพราะยังมีอีกหลายร้อย หลายพันเรื่องที่เราต้องจ่าย ฉะนั้นอันนี้ต้องคำนึงและต้องดูแลตามกฎระเบียบ เรื่องหลังคาสังกะสีทะลุ ได้ 73 บาทนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น อย่าไปคิดเรื่องนั้น”นายภูมิธรรมกล่าว

ปัญหาเขตแดนไม่จบง่ายๆ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–กัมพูชา สมัยวิสามัญหรือ RBC ระดับเลขานุการ ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 (ไทย) และกองบัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 (กัมพูชา) ที่ไทยยื่นเสนอเพิ่ม 3 ข้อ 1.คือการเก็บทุ่นระเบิดร่วมกัน 2.การปราบปรามสแกมเมอร์ และ 3.เป็นข้อเสนอใหม่จากปัญหาชุมชน ที่รุกล้ำพื้นที่จ.สระแก้ว โดยเสนอ จัดสรรพื้นที่ชายแดนใหม่ว่า เราก็มีเหตุผลของเราที่จะเสนอไปว่าจำเป็นอย่างไร ซึ่ง 3 ข้อที่เสนอไปเป็นเงื่อนไขที่คิดว่าเป็นปัญหาหรือเป็นประโยชน์กับเราก็ทำได้ ไม่ใช่ว่าเรามาคิดว่าเป็นประโยชน์กับเราฝ่ายเดียว มันเป็นความเหมาะสมถูกต้อง ที่เราควรเสนอ ให้เขาคุยกันก่อน เรื่องเขตแดนในความเป็นจริง ต้องเตรียมใจไว้ว่า ไม่ได้จบง่ายๆ ในโลกนี้ยังไม่มีอันไหนที่จบง่ายต้องว่ากันไปและหาทางออกที่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดของทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้กระทบอธิปไตยของประเทศใช้ประโยชน์ร่วมกัน แล้วแต่ละประเทศจะไปคุยกัน

ยันรบ.เร่งช่วยเหลือเหยื่อไม่สงบชายแดน

ขณะที่น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงการดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกครอบครัวให้ครบถ้วนมากที่สุด ทั้งนี้ จากการสำรวจความเสียหายในหลายจังหวัดชายแดน เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ พบบ้านเรือนของประชาชนเสียหายหลายร้อยหลัง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แรกเมื่อเกิดเหตุ ได้เร่งซ่อมแซมบ้านจนแล้วเสร็จไปจำนวนมาก และสำหรับบ้านที่เสียหายทั้งหลัง ภาคเอกชนได้เข้ามาร่วมสนับสนุน เช่น การมอบบ้านน็อคดาวน์ เพื่อใช้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวจนกว่าการซ่อมแซมจะแล้วเสร็จ

“นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้อนุมัติการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟในเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนที่อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิง ขณะเดียวกัน เร่งทำความเข้าใจกับการไฟฟ้าในกรณีที่มีการเก็บค่าไฟย้อนหลัง เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน เพราะเป็นยอดบิลรอบเดือนเก่า ซึ่งสามารถนำยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาหักกลบลบหนี้กับเดือนถัดไปที่มีการเรียกเก็บได้อีกด้วย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

เร่งปรับเกณฑ์เยียวยาให้เหมาะกับภัยแบบใหม่

และเน้นย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยตระหนักดีว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นภัยรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากภัยธรรมชาติทั่วไป โดยตลอดกว่า 1 เดือนนับจากเกิดเหตุ รัฐบาลสามารถขับเคลื่อนงานได้อย่างต่อเนื่อง ทันท่วงทีและไม่สะดุด ยืนยันว่า การช่วยเหลือเยียวยาประชาชน ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน โดยรัฐบาลจะอนุมัติวงเงินช่วยเหลือแล้ว และต้องดำเนินการที่ชัดเจนตามระเบียบกฎหมาย

ทั้งนี้ ยอมรับว่ายังมีบางส่วนที่ไม่สามารถใช้เกณฑ์การเยียวยาแบบเดิมได้ เนื่องจากสถานการณ์ในครั้งนี้มีลักษณะการอพยพประชาชน ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์ดินโคลนถล่มหรือน้ำท่วมที่ผ่านมา ดังนั้น ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาและมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของภัยพิบัติ เพื่อให้ประชาชนทุกครอบครัวที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม และเป็นธรรม

ถก ‘RBC’ ไทยชง3ข้อเสนอใหม่

เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ที่สโมสรสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ฝ่ายไทยนำโดย พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พลเอกแอก ซอมโอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 โดยจะใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งช่วงต้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อนเชิญออก เพื่อเข้าวาระการประชุม

ทั้งนี้ รายงานข่าวยืนยันว่า การประชุมอาร์บีซีวันนี้ จะเป็นการหารือ 13 + 3 ข้อตกลงคือ 13 ข้อจากเดิม การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย – กัมพูชา เพื่อนำสู่การปฏิบัติ และข้อเสนอใหม่ของฝ่ายไทย 3 ข้อ โดย 2 ข้อแรกเป็นจุดยืนที่ไทยเสนอต่อจีบีซีมาแล้วคือ 1.ให้สองฝ่ายเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน 2.ร่วมปราบสแกมเมอร์ และ3.เป็นข้อเสนอใหม่จากปัญหาชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่ จ.สระแก้ว จึงเสนอจัดสรรพื้นที่ชายแดนให้ถูกต้องร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ ที่จ.สระแก้วมีการประชุม RBC สามัญวิสามัญ กองทัพภาคที่ 1 หลังกัมพูชาขอเลื่อนเวลาประชุม เพื่อตรวจสอบเอกสาร โดยเดินมาประชุมผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ในเวลา 23.56 น. ถึงสโมสรนายทหารค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เวลาประมาณ 00.05 น.โดย เสธ.ทภ.1 ให้การต้อนรับ รอง ผบ.ภท.5 และเข้าห้องรับรองเพื่อหารือ ขณะที่คณะทำงาน กองเลขานุการฯ ทั้งสองฝ่ายตรวจความถูกต้องเอกสารก่อนประชุม และได้เริ่มประชุมเวลา 01.09 ปิดประชุมเวลา 02.12 น. จากนั้นมีการลงนามเห็นชอบร่างบันทึก และแลกแฟ้มเอกสาร 2 ฝ่าย แล้วเสร็จในเวลา 02.19 น. จากนั้นฝ่ายกัมพูชาเดินทางกลับประเทศ และเตรียมมาประชุมอีกครั้งเวลา 10.00 น.วันนี้

RBCไทย-เขมรเห็นชอบ13+3

ภายหลังการประชุม พลโทอมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำแถลงสรุปผลการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ระดับแม่ทัพ ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 โดยทั้งสองฝ่าย ตกลงกันด้วยดี ในการตอบรับ 13 ข้อตกลงหยุดยิงจากการประชุม GBC ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุม ได้เห็นชอบ เพิ่มเติม 3 ประเด็น จากที่ไทย เสนอ 4 ประเด็น คือ

1. ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันในการร่วมมือกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยพิจารณาให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป 2.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันร่วมมือประสานงานกันแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ใช้เวทีมหาดไทยกัมพูชา หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเห็นควรให้เสนอหารือร่วมกัน GBC ครั้งต่อไป 3.ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ให้มีกลไกแก้ปัญหา ด้วยการจัดตั้งชุดประสานงาน Coordination Group (CG) และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกรองรับคณะ RBC ในการแก้ปัญหาระดับพื้นที่

เขมรไม่รับแก้MOU43ชี้ไม่อยู่ในอำนาจRBC

ส่วนข้อเสนอที่ 4.ในการแก้ไขปัญหาการละเมิด MOU43 ฝ่ายกัมพูชา ขอให้ใช้กลไกอื่น ในการหารือ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ของ RBC โดยฝ่ายไทยยืนยันเสนอ ให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญ และได้แจ้งเจตนารมย์ที่ชัดเจน ของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา

ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ย้ำว่า เรื่องนี้ กัมพูชา ขอไปใช้กลไก JBC หรือคณะกรรมาธิการร่วมเขตแดนไทยกัมพูชา แทน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ต้องเสนอผ่านกลไก GBC

มทภ.1เปิดใจ3ยุทธรบในพื้นที่ภาค1

ที่ ร.12 พัน.3 ผู้สื่อข่าวรายงานหลังแถลงผลประชุม RBC พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ชี้แจงปมต่างๆ ที่เป็นประเด็นข่าว 4 ประเด็น โดยยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 1 ใช้แผนที่ 1:50,000 เช่นเดียวกับกองทัพภาคที่ 2 แต่ลักษณะพื้นที่มีความแตกต่างกัน เพราะกองทัพภาคที่ 2 มีลักษณะภูมิประเทศเด่นชัด เป็นแนวเทือกเขาพนมดงรัก บางจุดมีหน้าผาชัดเจนเป็นป่าเขา ต่างกับพื้นที่ภาคที่ 1 ซึ่งเต็มไปด้วยชุมชนขนาดใหญ่ของทั้งสองฝั่ง ลักษณะดินต่อดิน ยกเว้นบางช่วงที่อาจเป็นแนวคลอง ได้แก่ คลองลึก ยืนยันว่าตลอดแนวหลักเขตตั้งแต่ 28-51 กำลังพลกองทัพภาคที่ 1 ดูแลได้ทั้งหมด พร้อมได้เปิดภาพสดจากกล้องและโดรน เพื่อให้สื่อมวลชนได้เห็นกำลังพลที่รักษาหลักเขตทั้งหมด

พลโทอมฤตยอมรับว่า ยังมีบางหลักเขตที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ยอมรับ จึงเป็นที่มาของเอ็มโอยู 43 ที่ทำไว้ระหว่างรัฐบาล ได้รับความยินยอมจากทั้งสองประเทศตรงกันว่า ในจุดที่ตกลงไม่ได้จะไม่มีการเข้าไปเปลี่ยนแปลงใดๆ ให้เกิดขึ้น อีกทั้ง ปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่ทันสมัย ชัดเจน แม่นยำ โปร่งใส เป็นที่ยอมรับของทั้งสองประเทศ สำหรับขั้นตอนต่อไปจะเป็นระดับนโยบายที่เราจะทำต่อไป

สำหรับการปฎิบัติในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 สถานการณ์ความตึงเครียดเกิดในพื้นที่ภาคที่ 2 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 มีการยั่วยุมาตลอด ตั้งแต่ร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมืองธม เหตุการณ์ที่ช่องบก และการวางระเบิด เหตุการณ์ความรุนแรงยกระดับมากยิ่งขึ้น จนมีการปฏิบัติการทางทหาร วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ ซึ่งในส่วนกองทัพภาคที่ 1 เคลื่อนย้ายกำลังครบทุกหน่วย ภายในวันที่ 25 กรกฎาคม และเข้าปฏิบัติพื้นที่เป้าหมายช่วงเช้า วันที่ 26 กรกฎาคม เสร็จสิ้น โดยไม่มีการโต้ตอบจากฝ่ายตรงข้าม เป็นเพราะกำลังรบของฝ่ายไทยในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 มีกำลังรบสูงกว่าฝ่ายกัมพูชา

ยันปฎิบัติการทภ.1ไม่เปิดแนวรบเพิ่ม

นอกจากนี้ สิ่งที่คำนึงถึงตลอดคือ หากเปิดพื้นที่รบเพิ่มจากพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ก็จะกลายเป็นการประกาศสงคราม และหากเป็นสงคราม จะมีความวุ่นวายตามมาอีกมากมาย ทั้งการระดมสรรพกำลัง การควบคุมต่างๆ ที่สำคัญคือ ประชาชนจะเดือดร้อนหมด เช่นในพื้นที่ภาคอีสานที่มีการอพยพประชาชนนับ 100,000 คน แต่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเตรียมและอพยพแต่ไม่มากเท่า เพราะเราคำนึงตลอดถึงความเดือดร้อนของประชาชน ในส่วนนี้ประชาชนที่อยู่ตอนในหรือคนในกรุงเทพฯ อาจไม่เข้าใจ

“ยืนยันว่า การปฏิบัติการของกองทัพภาคที่ 1 ช่วยยับยั้งการไปเพิ่มเติมกำลังของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2” แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าว

แม่ทัพภาคที่ 1 ยังกล่าวถึงการปฎิบัติต่อพื้นที่ บ้านหนองจาน ที่กำลังเป็นข่าวขณะนี้ว่า ได้พยายามผลักดันถอนทหารกัมพูชาออกไป โดยไม่มีการปะทะ จากนั้นจึงวางแนวลวดหนาม เพื่อควบคุมพื้นที่ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามกลับเข้ามา ยืนยันว่าการวางแนวลวดหนามเป็นหลักการรบ ป้องกันตนเอง มิใช่หลักเขตแดนตามที่เป็นข่าว และบ้านหนองจาน ระหว่างหลักเขตที่ 46 และ 47 ไม่มีหมุดหลักเขต เป็นพื้นที่ราบ จึงวางลวดหนามเพื่อป้องกันตนเอง

ปิดด่านตัดท่อน้ำเลียงแก๊งคลอยันยึดประโยชน์ปท.

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ยังกล่าวถึงการรักษาด่านต่างๆในพื้นที่จ.สระแก้ว ไม่เกี่ยวข้องกับจันทบุรีและตราด มีการปิดด่านก่อนจะมีสถานการณ์การสู้รบ ตามยุทธวิธีของ ศอ.ปชด. เป็นภารกิจปราบปรามยาเสพติด และสแกมเมอร์ การปฏิบัติการดังกล่าวถือเป็นการช่วยลดทอนขีดความสามารถ และปิดเส้นทางการเงินฝั่งกัมพูชา ทำให้ฝั่งกัมพูชาขาดกำลังบำรุง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อแก๊งสแกมเมอร์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยและสร้างผลกระทบไปทั่วโลก ตนถือว่าการปฏิบัติส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ นอกจากหลักยุทธการและยุทธวิธี ที่คำนึงรอบคอบตลอดมาในการดำเนินการของกองทัพภาคที่ 1

“กองทัพภาคที่หนึ่งยืนยันศักดิ์ศรีการรักษาประชาธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ และความปลอดภัยของประชาชนและทรัพย์สิน ไม่เกี่ยวผลประโยชน์ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพภาคที่หนึ่ง”

‘บิ๊กเล็ก’บอกผลประชุมRBCส่งสัญญาณดี

ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรมว.กลาโหมกล่าวถึงการประชุมอาร์บีซี ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ที่เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง จีบีซีโดยทางกัมพูชาตอบรับข้อเสนอ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดี ตามที่ตนเคยบอกไว้ว่า กัมพูชาในระดับนโยบาย ช่วงที่ตนไปประชุม จีบีซี ที่มาเลเซีย มีความจริงใจที่จะคุยในแบบทวิภาคี แต่ตนก็ต้องมาประเมินในขั้นการคุยในระดับอาร์บีซี ซึ่งทีมพูดคุยอาร์บีซีของกัมพูชาจะมีอยู่ทีมเดียว ต้องรอคุยทีละพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 15-16 สิงหาคม ฝั่งกัมพูชาได้ประชุมร่วมกับที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ที่จังหวัดตราด และในวันนี้ 21-22 สิงหาคมประชุมกับกองทัพภาคที่ 1 ที่จ.สระแก้ว และวันที่ 25-27 สิงหาคม จะไปประชุมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จึงต่างจากของเรา ที่ใช้คนละหน่วยในการพูดคุย

คุยหยุดยิงใช้เวลาเป็นปี-ชงตั้งทีบีซีคุยระดับพื้นที่

ดังนั้น การพัฒนาการพูดคุยจากจังหวัดตราด มาถึงจังหวัดสระแก้ว คงตีความได้ว่าเป็นการพัฒนาจากส่วนกลาง แสดงว่ามีแนวโน้มเป็นไปในแนวทางที่ดี ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังความสำเร็จในเวลาอันสั้น เพราะการพูดคุยการหยุดยิงในหลายประเทศใช้ระยะเวลานานเป็นปี ทาง ศบ.ทก. และ จีบีซี ก็คิดว่าต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่งคงไม่เร็ว แต่ผ่านมา 15 วัน แล้วมาถึงจุดนี้ได้ ส่วนตัวตนคิดว่าทำได้เร็ว แม้นว่าจะยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรมก็ตาม แต่ขอให้กัมพูชาเข้ามาสู่การพูดคุย เพราะช่วงที่ผ่านมารัฐบาลและ ศบ.ทก.เป็นห่วงว่าเขมรไม่เข้ามาสู่การพูดคุย แต่ปัจจุบันนี้ เขมรเข้ามาสู่เจบีซี จีบีซี และอาร์บีซี แล้ว

“ การประชุมอาร์บีซีวันนี้ ที่ประชุมยังเสนอให้ตั้ง คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-กัมพูชา (ทีบีซี) ขึ้นมาอีก เป็นการพูดคุยระดับพื้นที่ เป็นสิ่งที่ผมมองว่า เป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าปักใจเชื่อไปเลย ต้องประเมินผลเป็นระยะ แต่อย่างไรก็ถือว่ามีความคืบหน้าที่ดี”พล.อ.ณัฐพลกล่าว

เมื่อถามว่าจากการพูดคุยจากสองพื้นที่นี้แล้ว การพูดคุยของกองทัพภาค 2 แนวโน้มไปในทางที่ดี ใช่หรือไม่ พล.อ. ณัฐพล กล่าวว่า ก็ต้องดูกันต่อไป เพราะว่าสัญญาณจะมาจากส่วนกลาง เรารอดูการพูดคุยของกองทัพภาคที่ 2 ถ้าดีขึ้นเพิ่มมากกว่านี้อีก แสดงว่านโยบายจากส่วนกลางได้ขับเคลื่อนให้มาเป็นแบบนี้

ชี้เป็นสัญญาณจากส่วนกลางเขมรยอมกู้ระเบิด

ส่วนกรณีที่นายนง ซากาล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกมาพูดเรื่องความร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้วัตถุระเบิดนั้น เป็นสัญญาณจากส่วนกลางใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพลยอมรับว่าา ใช่ เราพยายามทำบรรยากาศให้ดีขึ้น แต่ในบรรยากาศที่มีความหวาดระแวง มีการยั่วยุ เราก็ต้องทำความเข้าใจกัน อย่างในวันนี้ การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 เป็นผลประชุมที่ดีมาก เพราะมีการตั้งชุดประสานงานติดต่อกัน ต่อไปหากมีความไม่เข้าใจกันหรือปฏิบัติลักษณะยั่วยุ ผู้ประสานงานก็ต้องมาคุยกัน ตนอยากให้เกิดบรรยากาศแบบนี้ในกองทัพภาคที่ 2 ด้วย

เมื่อถามว่าทางกัมพูชา ยังไม่ตอบรับเรื่องของการจัดระเบียบชายแดน เพราะต้องไปคุยในระดับที่สูงกว่านี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าว เรื่องนี้คงเป็นในขั้นต่อไป เพราะการประชุมไม่จำเป็นที่จะประชุมครั้งเดียวจบ ก็อาจประชุมครั้งต่อไปอีก ฉะนั้นรายละเอียดอะไร ที่ประชาชนต้องการ ขอให้สื่อสารผ่านสื่อมวลชนมา ทางศบ.ทก. และ จีบีซี จะเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ แล้วแจ้งให้ทาง อาร์บีซีดำเนินการต่อไป

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'ไทย\' พร้อมปฏิบัติตามข้อตกลง RBC \'ไทย-กัมพูชา\' ในพื้นที่ 7 จังหวัดปกติ 'ไทย' พร้อมปฏิบัติตามข้อตกลง RBC 'ไทย-กัมพูชา' ในพื้นที่ 7 จังหวัดปกติ
  • อ้าวเฮ้ย!! \'ภูมิธรรม\'บอกเขมรไม่ได้ผิดนัดประชุม RBC บอกจะถก\'เที่ยงคืน-ตี 1\'ได้ทั้งนั้น อ้าวเฮ้ย!! 'ภูมิธรรม'บอกเขมรไม่ได้ผิดนัดประชุม RBC บอกจะถก'เที่ยงคืน-ตี 1'ได้ทั้งนั้น
  • รัฐบาล ยืนยัน ไม่มีการเรียกประชุมรัฐสภา ประกาศสงครามกับกัมพูชา รัฐบาล ยืนยัน ไม่มีการเรียกประชุมรัฐสภา ประกาศสงครามกับกัมพูชา
  • \'พล.อ.ณัฐพล\'ชี้เป็นสัญญาณดี เขมรตอบรับร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์ 'พล.อ.ณัฐพล'ชี้เป็นสัญญาณดี เขมรตอบรับร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์
  • เปิดผลประชุมRBC ‘กัมพูชา’รับเพิ่ม 3 ข้อเสนอ ปัดแก้ปัญหา MOU 43 โยนถก JBC แทน เปิดผลประชุมRBC ‘กัมพูชา’รับเพิ่ม 3 ข้อเสนอ ปัดแก้ปัญหา MOU 43 โยนถก JBC แทน
  • ‘ภูมิธรรม’ ยันจ่ายชดเชยปชช.ได้รับผลกระทบ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตามระเบียบเดิม ‘ภูมิธรรม’ ยันจ่ายชดเชยปชช.ได้รับผลกระทบ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตามระเบียบเดิม
  •  

Breaking News

ตราดรับมือพายุ! ทุกหน่วยงานผนึกกำลัง-เร่งแก้ปัญหา ‘น้ำท่วมซ้ำซาก’

นวัตกรรมเพื่อเกษตรกร! ‘เครื่องพ่นปุ๋ยอัตโนมัติ’ ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตอ้อย

'วันนอร์' บอก 29 ส.ค. สภาฯไม่ต้องเตรียมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

'สม รังสี' ลากไส้ 'ฮุน เซน' ตัดงบทหาร แต่กลับเอาไปช่วยเหลือพรรคตัวเอง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved