แนวหน้าวิเคราะห์ : คดีใหญ่ยังไม่จบ ‘ทักษิณ’ลุ้นระทึก ลุยฝ่าพายุ
22 สิงหาคม 2568 ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร ในคดีอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีการให้สัมภาษณ์สำนักข่าวของเกาหลีใต้ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2558 ส่อในทางพาดพิงสถาบัน
คำวินิจฉัยของศาลอาญาสรุปได้ว่า คลิปวิดีโอที่นำมาเป็นหลักฐานปรากฏว่าเป็นเพียง บางส่วนของคำสัมภาษณ์ ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีการตัดต่อหรือไม่ อีกทั้งคำพูดของทักษิณ ไม่ได้ระบุชัดเจนถึงองค์บุคคลใด ใช้เพียงคำว่า “เขา”
ซึ่งตามหลักไวยากรณ์และพจนานุกรมไม่สามารถตีความว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์ได้ รวมทั้ง ศาลอาญายังได้ตั้งข้อสังเกตถึง “ความน่าเชื่อถือของพยานโจทก์” ที่มีลักษณะอคติ และไม่เป็นกลาง จึงตัดสินใจยกผลประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย และมีคำพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา
จากนั้น ทักษิณได้เดินออกจากศาลอาญา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และพูดกับสื่อว่า “ยกฟ้อง ยกฟ้อง” ก่อนเดินขึ้นรถยนต์ออกไป
“ต่อจากนี้จะได้ทำคุณประโยชน์ และก็จะทำงานเพื่อประเทศชาติเต็มที่”
นี่คือคำพูดของนายทักษิณ หลังศาลอาญายกฟ้องคดีมาตรา 112 ที่ได้รับการถ่ายทอดโดย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทีมทนายของเขา
สั้นๆ แต่ก็สะท้อนถึงความโล่งใจในระดับหนึ่ง
นายวิญญัติ กล่าวถึงเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ ว่า ตอนนี้ข้อหามาตรา 112 ยกฟ้องแล้ว ถือว่านายเป็นผู้บริสุทธิ์ โดยทีมทนายความจะยื่นคำร้องเพิกถอนในคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน แต่นายทักษิณคงไม่เดินทางไปในเร็ววันนี้
มีรายงานว่า นายทักษิณ มีแผนจะเดินทางไปเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อนัดเจรจากับกับกลุ่มนักธุรกิจ นักลงทุน ให้เข้าร่วมลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ท่าเรือ จ.ระนอง ในเร็ว ๆ นี้
อย่างไรก็ตาม คำพิพากษายกฟ้องของศาลอาญาในครั้งนี้ ถือเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะเส้นทางยังทอดยาวไปสู่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา
นายศักดิ์เกษม นิไทรโยคโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า หลังจากนี้พนักงานอัยการเจ้าของสำนวนจะต้องไปขอคัดถ่ายคำพิพากษาพร้อมคำเบิกความมาเพื่อพิจารณาทำความเห็นว่าควรยื่นอุทธรณ์หรือไม่ไปยังสำนักงานคดีอัยการสูงสุดพิจารณากลั่นกรอง และทำความเห็นต่อไปยังรองอัยการสูงสุดที่มีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้
รองอัยการสูงสุดก็จะทำความเห็นส่งไปให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาลำดับสุดท้ายว่าจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อหรือไม่ภายใน 30 วัน หากครบกำหนดแล้วอัยการสูงสุดยัง พิจารณายังไม่แล้วเสร็จก็ อาจจะมีการขยายระยะเวลาก็ได้ โดยปกติก็จะขอขยายครั้งละ 30 วัน โดยคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรผู้ที่มีอำนาจพิจารณายื่นอุทธรณ์จะเป็นอำนาจอัยการสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งคดีใหญ่ของนายทักษิณที่รอการพิพากษา คือ คดีบังคับโทษชั้น 14 ที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำสั่งในวันที่ 9 กันยายนที่จะถึงนี้ ซึ่งดูแล้วคดีดังกล่าว น่าหนักใจมากกว่าคดีมาตรา 112 เสียด้วยซ้ำ ทำให้นายทักษิณยังอยู่ไม่สามารถที่จะอยู่ในอารมณ์สบายอกสบายใจอย่างเต็มที่ได้
มีการวิเคราะห์กันด้วยว่า ในวันนั้น นายทักษิณอาจหลบหนีออกนอกประเทศ
แต่นายวิญญัติ ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า นายทักษิณ จะไปฟังคำสั่งด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่าไม่ให้ค่ากับพวกที่ตั้งข้อสังเกตว่า นายทักษิณจะหลบหนีคดี
อีกไม่กี่วันก็จะได้รู้ว่า นายทักษิณจะไปฟังคำพิพากษาด้วยตัวเองหรือไม่ และคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร
หาก ทักษิณ ผ่าน “พายุใหญ่” ลูกนี้ไปได้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องดีของเขาและวงศ์ตระกูล แต่ประเทศไทยนั้น ถือว่าภาพรวมจะดีขึ้นหรือไม่
เพราะตอนนี้มีสารพัดปัญหาที่ยังรุมเร้า ทั้งเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ประชาชนเทความเชื่อมั่นให้กองทัพมากกว่ารัฐบาล, ปัญหาของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งรัฐบาลจะรับศึกหนักในสภาได้นานเพียงใด เพราะที่เห็นก็คือ เกิดเหตุ “สภาล่ม” จนต้องสั่งปิดประชุมมาหลายครั้ง
ทั้งยังมีข่าวว่า บางพรรคเริ่มมองหาทางหนีทีไล่เพื่อรับศึกเลือกตั้งสมัยหน้ากันแล้ว
ส่วนปัญหาใหญ่ที่ประชาชนทุกยุคสมัยต้องการให้ดูแลแก้ไขก็คือเรื่องของเศรษฐกิจ ปากท้อง ซึ่งพรรคเพื่อไทยประกาศว่า จะทำให้คนไทย “มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี”
ก็ดูยังไม่ใกล้เคียงกับที่ลั่นวาจาเอาไว้เลย
#ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี