'สุรเดช'จี้รัฐบาล แสดงความจริงใจยกเลิก MOU 43-44

'สุรเดช'จี้รัฐบาล แสดงความจริงใจยกเลิก MOU 43-44

วันจันทร์ ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 17.50 น.

"สุรเดช"จี้รัฐบาล แสดงความจริงใจยกเลิก MOU 43-44 กังขา"รองโฆษก พท."ระบุยกเลิกอาจทำไทยเสี่ยงถูกละเมิดอธิปไตย ย้ำยึดพระบรมราชโองการ"ในหลวงรัชกาลที่ 5"และ"รัชกาลที่ 9"เป็นหลัก บอกไม่มีแล้วเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า เหมือนยุค"พล.อ.ชาติชาย"

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาบอกว่า MOU มีประโยชน์ ไม่อยากให้ยกเลิกเพราะหากยกเลิก อาจทำให้ประเทศไทย เสี่ยงที่จะถูกละเมิดอธิปไตยครั้งใหญ่ได้ ว่า ส่วนตัวเห็นว่าข้อเท็จจริงไม่น่าจะใช่ตามที่รองโฆษกพรรคเพื่อไทยบอก ต้องเข้าใจก่อนว่าเขตแดนเรามีมาตั้งแต่ในอดีตแล้ว และมีพระบรมราชโองการของในหลวงทั้ง 2 พระองค์ คือ ในหลวงรัชกาลที่ 5 เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว ซึ่งมีการปักปันเขตแดนระหว่างสยาม - กัมพูชา เมื่อปี 2452 ตั้งแต่หลักเขตที่ 1 ถึง 73 จากช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ไปจนถึงจังหวัดตราด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั้ง 2 ประเทศแล้ว ส่วนพื้นที่ทางทะเล ที่อ่าวไทยบริเวณเกาะกูด ก็ได้มีพระบรมราชโองการของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปี 2516 ซึ่งมีการประกาศชัดเจนว่าเรามีแนวแบ่งเขตแบบนี้ เราทำถูกต้องตามหลักท้องทะเลสากล ซึ่งจะต้องยื่นออกไปจากพื้นดินที่เป็นเกาะ 12 ไมล์ทะเล เราถึงได้มีน่านน้ำเป็นของเรา และตรงนี้เองที่ไปขัดแย้งกับกัมพูชา ที่มาขีดเส้นเองเมื่อปี ค.ศ.1972 หรือ พ.ศ.2515 โดยขีดเส้นเลาะและอ้อมเกาะกูด จนเราไม่มีน่านน้ำเลย ซึ่งถือว่าผิด ขณะที่ไทยเรามีการประกาศมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1973 หรือ พ.ศ.2516 ซึ่งตรงนี้ทางกัมพูชาก็รู้ดีแต่ไม่ยอมรับ จนกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งที่ความจริงพื้นที่ทับซ้อนไม่มี


นายสุรเดช กล่าวว่าถ้าไม่ยกเลิก MOU เราก็ไม่สามารถยืนยันตรงนี้ได้เพราะรัฐบาลไทยไปเซ็น MOU เองเหมือนกับไปยอมรับว่ามีพื้นที่ทับซ้อนอยู่ ดังนั้นจึงอยากถามว่าพระบรมราชโองการของรัชกาลที่ 9 หายไปไหน ตนถึงบอกว่าเรื่องนี้มันมีอะไรที่แปลกๆ ทำไมเราไม่เอาเรื่องของพระบรมราชโองการยืนยันไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ไม่เช่นนั้นเรื่องก็จบไปแล้ว ไม่ต้องมี MOU

"ผมขอยืนยันว่า MOU ทั้ง 2 ฉบับ ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยแน่นอน และเมื่อมีเหตุปะทะกันแล้ว ก็คงไม่สามารถที่จะใช้สนามรบเป็นสนามการค้า เหมือนสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ ได้ต่อไป เพราะมีการสูญเสียเกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น ก็ควรที่จะยกเลิกทุกอย่างไป ทั้ง MOU การประชุมร่วมเวทีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น JBC , GBC หรือ RBC รวมถึงข้อตกลง 13 ข้อ ที่ไปคุยกัน ผมคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะเราไม่เชื่อกัมพูชาแล้ว เนื่องจากมีการละเมิดมานับครั้งไม่ถ้วน เราควรประกาศเขตแดนของเราให้ชัดเจนและกั้นรั้วไปเลย ไม่มีประโยชน์ที่จะไปคุยหรือตกลงอะไรกันอีก เพราะมันเกิดการเคลือบแคลงไม่ไว้ใจกันอีกแล้ว ดังนั้น รัฐบาลต้องยกเลิก MOU ก่อนจึงจะกั้นรั้วได้ ส่วนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเราต้องยึดหลักตามพระบรมราชโองการในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ชัดเจนว่าไม่มีพื้นที่ทับซ้อนเพราะฉะนั้น MOU 44 ก็ต้องไม่มีเช่นกัน"

นายสุรเดช กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจ ด้วยการยอมให้ญัตติยกเลิก MOU 43 และ 44 ผ่านสภาฯ ไป ถ้ารัฐบาลไม่สนับสนุนให้ผ่าน ก็ถือได้ว่ารัฐบาลไม่จริงใจ ดังนั้น รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจเรื่องนี้

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top