พท.นัด สส.รวมตัวไปทำเนียบฯ ให้กำลังใจ"นายกฯอิ๊งค์"คดีคลิปเสียง 29 ส.ค.นี้ "เพื่อไทย"กราบขอโทษ ปชช.ได้ใช้ 20 บาทตลอดสายช้า พ้อมี สส.กทม.-ปริมณฑล แค่ 2 คน ย้ำทำเต็มที่ อ้อนฝ่ายค้านร่วมผ่าน กม.ให้ชาวบ้านได้ประโยชน์
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย ประจำสัปดาห์ โดยมี นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยได้มีการแจ้ง สส.ที่เข้าร่วมประชุมว่า ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ขอให้ สส.มารวมตัวกันที่พรรคเพื่อไทย ในเวลา 14.00 น.ก่อนจะไปให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ที่จะรอฟังคำวินิจฉัยที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทางพรรคเพื่อไทยจะจัดรถให้ทุกคนนั่งไปด้วยกัน ขณะที่ในส่วนของรัฐมนตรีจะไปรวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ด้วยเช่นกัน
จากนั้น นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค แถลงภายหลังการประชุมว่า สำหรับโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในนามของพรรคเพื่อไทย ต้องกราบขอโทษพี่น้องประชาชนที่กฎหมายทั้งสามฉบับ ที่มีมีความจำเป็นต่อการทำโครงการ 20 บาทตลอดสายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นั้น ยังไม่สามารถเสร็จได้ทัน จึงทำให้พี่น้องประชาชนที่รอจะใช้ 20 บาทตลอดสายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องล่าช้าออกไป ในส่วนของพรรคเพื่อไทยต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้อย่างเป็นทางการ เรียนว่าสาเหตุที่ทำให้ล่าช้าเป็นเรื่องของกฎหมายสามฉบับ ซึ่งมีร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง เพิ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรไป ตอนนี้อยู่ในชั้นวุฒิสภา ส่วนร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในวันที่ 27 ส.ค.จะได้มีการพิจารณาต่อ เมื่อจบจากร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ แล้วจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รฟม.ซึ่งทั้งสามฉบับนี้เป็นกฎหมายสำคัญ และเป็นกฎหมายจำเป็นที่ต้องใช้ในการที่จะบังคับใช้ในเรื่องของ 20 บาทตลอดสาย
นายดนุพร กล่าวว่า ทุกท่านทราบดีว่า การทำรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครเป็นสัมปทานของเอกชน ดังนั้น การจะให้เอกชนทำหรือไม่ทำอะไร ก็ตามต้องทำตามกฎหมาย ดังนั้น กฎหมายทั้งสามฉบับนี้มีความจำเป็น และเราได้ตั้งกรรมาธิการฯ ทั้งร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางรางฯ และร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ซึ่งตอนนี้อยู่ในชั้นของสภาฯ และวุฒิสภา ดังนั้น ขอเรียนว่าเราพยายามเร่งที่จะทำให้กฎหมายทั้งสามฉบับนี้เสร็จให้เร็วที่สุด
นายดนุพร กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยเข้าใจดีว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ขอเรียนว่ากฎหมายฉบับนี้ผู้ที่รับประโยชน์คือพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เราต้องการทำให้นโยบายผ่านเพื่อลดค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนในการเดินทางในช่วงที่หลายๆ คนพูดว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง แน่นอนว่าเราผลักดันนโยบายนี้ทั้งที่เรารู้ว่ากรุงเทพฯ และปริมณฑล พรรคเพื่อไทยมี สส.แค่สองคนเท่านั้น คือ จ.ปทุมธานี หนึ่งคน และกรุงเทพมหานคร หนึ่งคน ดังนั้น อยากจะขออนุญาตฝากเรื่องนี้ไปยัง สส.ของกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ของพรรคฝ่ายค้าน ว่าอยากให้ท่านมาช่วยพิจารณา ถ้าท่านช่วยกันผลักดันกฎหมายนี้ให้สำเร็จ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์คือพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
"การประชุมพรรควันนี้ก็มีการย้ำและพูดคุยกับ สส.พรรค ขอให้ทุกคนอยู่ร่วมเป็นองค์ประชุม เพื่อผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้ผ่านให้ได้ ขออนุญาตขอบคุณล่วงหน้ากับพรรคฝ่ายค้านโดยเฉพาะทางพรรคประชาชน ถ้าท่านได้มาร่วมมือในการที่จะผลักดันกฎหมายนี้กับเรา พรรคเพื่อไทยก็อยากจะขอบพระคุณแทนพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลว่ากฎหมายนี้สำเร็จ และสามารถใช้ได้เร็ว เท่าที่ทราบประธานวิปรัฐบาลได้ประสานงานกับทางพรรคร่วมในการที่จะแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นขององค์ประชุม และจะได้ประสานกับทางฝ่ายค้านต่อไปให้ร่วมกันผลักดันกฎหมายนี้ให้ออกมาโดยเร็วที่สุด" นายดนุพร กล่าว
เมื่อถามว่า หากร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ ผ่านการพิจารณาของสภาฯ แล้ว กังวลหรือไม่ว่าจะไปค้างที่ สว. นายดนุพร กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะเราคิดว่า สว.ก็เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนเหมือนกัน หาก สว.เห็นร่างที่ผ่านการพิจารณาของ สส.ไปแล้ว ก็จะได้เห็นว่าผู้ที่ได้รับประโยชน์จากกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ คือประชาชน ฉะนั้น จึงคิดว่า สว.น่าจะผ่านให้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี