ทบ.ยึดมั่นหยุดยิง! เขมรสร้างภาพลอบวางบอมบ์ จับตา'บ้านหนองจาน'ใช้โล่มนุษย์ป่วน

ทบ.ยึดมั่นหยุดยิง! เขมรสร้างภาพลอบวางบอมบ์ จับตา'บ้านหนองจาน'ใช้โล่มนุษย์ป่วน

วันจันทร์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.25 น.

ทบ.ลั่นไทยยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง โต้กลับกัมพูชา สร้างภาพแต่ลอบวางทุนระเบิดเขตไทย แนะจับตาบ้านหนองจานใช้โล่มนุษย์ ป่วนไทย

1 กันยายน 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก จากกรณีเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม นายชุม ซอนรี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ได้แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชา–ไทย โดยสรุปว่า


กัมพูชายืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรนานาชาติ และกล่าวหาว่าฝ่ายไทยละเมิดข้อตกลงดังกล่าว จนสร้างความเสี่ยงต่อทั้งกำลังพลและพลเรือน อีกทั้งยังก่อให้ประชากรกลุ่มเปราะบางต้องพลัดถิ่นมากยิ่งขึ้น

ฝ่ายกัมพูชา ย้ำว่า การปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงจะช่วยคุ้มครองประชาชน และเปิดโอกาสให้หน่วยงานด้านมนุษยธรรม อาทิ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) องค์การสหประชาชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) สามารถเข้ามาให้การช่วยเหลือที่จำเป็นต่อการดำรงชีพแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังอ้างว่ากัมพูชายึดมั่นในหลักการกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเฉพาะการห้ามใช้กำลัง และพร้อมเดินหน้าการเจรจาเพื่อหาทางออกอย่างสันติ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจัง ยุติการกระทำที่บ่อนทำลายข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียแก่พลเรือนในอนาคต รวมถึงทำงานร่วมกับกัมพูชาและกลไกของอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

ต่อประเด็นดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่าประเทศไทยยึดมั่นและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด พร้อมดำเนินการให้เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ไทยเปิดกว้างให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (IOT) คณะจาก ICRC และพันธมิตรนานาประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทุกจุดโดยเสรี ไม่เคยมีการปิดกั้นข้อมูล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความบริสุทธิ์ใจของฝ่ายไทย ที่ดำเนินการทุกอย่างแบบตรงไปตรงมา

อย่างไรก็ตาม กลับพบว่าฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอ้างว่ายึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง อาจเป็นเพียงภาพการสื่อสารเพื่อสร้างผลเชิงภาพลักษณ์เท่านั้น เพราะในความเป็นจริง ฝ่ายกัมพูชายังมีการลักลอบวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทยอยู่ตลอด จนส่งผลให้กำลังพลไทยได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง อีกทั้งยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แม้ฝ่ายไทยจะได้เสนอผ่านเวทีการประชุม GBC และ RBC มาโดยตลอด

นอกจากนี้ กัมพูชายังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนกล่าวหาไทย เช่น เรื่องการใช้อาวุธเคมี หรือบิดเบือนว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นของเก่าตกค้างจากสงครามในอดีต ทั้งที่ฝ่ายไทยมีหลักฐานพิสูจน์ยืนยันได้ชัดเจน สำหรับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงผ่านการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา ถือเป็นการบ่อนทำลายความพยายามแก้ปัญหาในระดับทวิภาคีของกัมพูชาเอง

โฆษกกองทัพบก ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันฝ่ายไทยให้ความสำคัญในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน โรงพยาบาล หรือระบบสาธารณูปโภค พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และนานาชาติ ที่ร่วมมือและแสดงน้ำใจช่วยเหลือกันอย่างเข้มแข็ง

ในขณะเดียวกัน ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือเหตุการณ์ที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งชัดเจนว่าฝ่ายกัมพูชาสนับสนุนให้ประชาชนรุกล้ำเข้ามาอาศัยในเขตพื้นที่ประเทศไทย รวมถึงในเขตพื้นที่อ้างสิทธิของประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลง MOU 43 แม้ฝ่ายไทยประท้วงอย่างสันติมาอย่างยาวนาน แต่กัมพูชากลับเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหา

โฆษกกองทัพบก ย้ำว่า สังคมและนานาชาติควรตระหนักและรับรู้ว่า ที่ผ่านมา กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าว อีกทั้งยังพยายามใช้กลุ่มประชาชนออกหน้าแทนด้วยท่าทีที่แข็งกร้าว จึงควรจับตาดูว่าจากนี้ไป กัมพูชาจะใช้วิธีการในลักษณะ “โล่มนุษย์” มาแก้ปัญหาเหมือนในช่วงที่ผ่านมาอีกหรือไม่.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top