‘ปชน.-ภท.’จับมือกันเมื่อไหร่ยุบสภาทันที ‘เพื่อไทย’ขู่ฟ่อ! ‘ภูมิธรรม’รอลุ้นมติทางการปชน.

‘ปชน.-ภท.’จับมือกันเมื่อไหร่ยุบสภาทันที ‘เพื่อไทย’ขู่ฟ่อ! ‘ภูมิธรรม’รอลุ้นมติทางการปชน.

วันพุธ ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปชน.-ภท.’จับมือกันเมื่อไหร่ยุบสภาทันที

เพื่อไทย’ขู่ฟ่อ!

ภูมิธรรม’รอลุ้นมติทางการปชน.

สรวงศ์’ยันยุบสภาอยู่ในแผน

ชัยเกษม’แบะท่าพร้อมเป็นนายกฯ

แม้ว’รับดูคนผิด-ไว้ใจ‘ธรรมนัส’

ฉลาด”นัดประชุมสภานัดพิเศษ 3 วัน เพื่อเคลียร์กฎหมายค้างสภาส่วนโหวตเลือกนายกฯอยู่ที่ฝ่ายการเมือง ขั้วไหนประสานมาพร้อมบรรจุวาระประชุมเร็วที่สุด 5 กันยายนนี้ หรืออาจเป็นสัปดาห์หน้า ด้านปชน.ประชุมไร้มตินัดเคาะโหวตนายกฯ 3 กันยายน หลังมีข่าวสะพัดโหวตให้“อนุทิน” นั่งนายกฯ นัดลงนามข้อตกลง 2 พรรคพรุ่งนี้ ที่รัฐสภา “ภูมิใจไทย”ถกวางตุ๊กตาไทม์ไลน์ 120 วัน สางสารพัดปัญหา “เปิดโรดแมปแก้รัฐธรรมนูญ - พ.ร.บ.กระจายอำนาจ- ชายแดนไทย-กัมพูชา” ตามเงื่อนไขคุย “พรรคส้ม” ก่อน‘ยุบสภา’ขณะที่‘อิ๊งค์-ทักษิณ-ชัยเกษม’เข้าเพื่อไทย’‘ทักษิณ’รับผิดไว้ใจ‘ธรรมนัส’มากเกินไป พี่ดูคนผิด ‘ชัยเกษม’ยัน‘พท.’ยังไม่ติดต่อมาให้เป็นนายกฯ แย้มอาจจะมี‘อัศวินม้าขาว’พุ่งพรวดเข้ามา‘ภูมิธรรม’ตอก’ไอติม’ท้ายุบสภา ไม่เข้าใจปชต.ย้ำยุบสภาอยู่ที่สถานการณ์‘หมอมิ้ง’แจงรบ.รักษาการยุบสภาได้ กฎหมายไม่ได้ห้าม ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่สองฝ่ายต่างเร่งจับมือพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแต่ขณะนี้ยังต้องรอผลการประชุม ส.ส.ของพรรคประชาชนว่าจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีระหว่าง นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงข่าวถึงการประชุมวิป3 ฝ่าย ว่าสัปดาห์นี้มีการประชุมสภาทั้งหมด 3 วันคือวันที่ 3-5 กันยายน 2568 เนื่องจากกฎหมายค้างอยู่ในวาระจำนวนมาก วิปทั้ง3ฝ่าย จึงเห็นว่า ควรกำหนดวาระพิเศษขึ้นมาในวัน3 กันยายนเพื่อพิจารณากฎหมายของรัฐบาลที่ยังค้างอยู่ซึ่งเป็นวาระการพิจารณานี้เป็นการตกลงกันมาก่อนแล้ว ไม่ใช่เป็นการเปิดสภาเพื่อกำหนดวาระการประชุมเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี


“แต่หากพรรคการเมืองใดรวมเสียงข้างมากให้ได้แล้ว และแจ้งมายังสภาเพื่อจะได้บรรจุระเบียบวาระดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ การโหวตเลือกนายกฯขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง ที่มีความพร้อมแล้วแจ้งมายังสภาฯซึ่งความเป็นได้เร็วที่สุดคือวันที่ 5 กันยายน แต่ถ้าไม่ใช่วันที่ 5 กันยายนก็น่าจะเป็นสัปดาห์หน้า “นายฉลาด กล่าว

ปชน.ประชุมเคาะโหวตเลือกนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหนที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการของพรรคประชาชน (ปชน.) ว่า ช่วงเช้าวันนี้ กรรมการบริหารพรรคทยอยเดินทางเข้ามาที่พรรคโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนเดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 09.30น. แต่วันนี้ไม่ได้เข้าประตูด้านหน้าพรรค ที่มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาเกาะติดความเคลื่อนไหวอยู่โดยนายณัฐพงษ์ได้เข้าบริเวณประตูด้านหลังและยิ้มทักทายสื่อมวลชนก่อนที่จะเข้าไปภายในอาคารทันที ขณะเดียวกันนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นแกนนำพรรคคนสำคัญอีกหนึ่งคนก็เดินทางมาถึงตั้งแต่ช่วงเช้า รวมถึงนายยศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค เข้าบริเวณประตูด้านหลังเช่นกัน

ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมสส.ของพรรคและกรรมการบริหารพรรคประจำสัปดาห์ ซึ่งวาระสำคัญคือ การมีมติเรื่องของการโหวตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของพรรคประชาชน ภายหลังจากเมื่อวานนี้ได้รับความคิดเห็นของสส.ภายในพรรคไปแล้ว แม้จะมีสส.เข้ามา 90 คนส่วนที่เหลือติดภารกิจได้ให้สส.แต่ละคนฝากข้อความไว้ถึงข้อกังวล และข้อสังเกต เพื่อให้กรรมการบริหารพรรคไปถกเถียงกันต่อรวมถึงทางพรรคประชาชนก็ได้ส่งข้อความผ่านบรอดแคสต์ ทั้งไลน์OA และ SMS เพื่อเปิดรับฟังเสียงสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ด้วย หลังจากรับฟังความคิดเห็นเมื่อวานนี้ กรรมการบริหารพรรคก็ได้นำความคิดเห็นต่างๆมาหารือกัน ก่อนจะนำมาประชุมในวันนี้

สะพัดโหวตให้‘ อนุทิน’นั่งนายกฯ

ทั้งนี้ ความคิดเห็นในที่ประชุมเมื่อวานนี้ค่อนข้างแตกต่างหลากหลาย เกี่ยวกับแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะต้องยอมรับเงื่อนไขของพรรคทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่โหวตใครเลย ภายใต้โจทย์ของประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน

มีรายงานว่า ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าจะโหวตเลือกไปทางพรรคภูมิใจไทยแต่จะยังไม่มีมติจนกว่าวิป2ฝ่าย กำหนดกรอบเวลาโหดเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32ได้ก่อนที่จะมีการประชุมสภาในวันที่ 3 กันยายนนี้

ล่าสุดช่วงเย็นวันเดียวกัน มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางพรรคประชาชน มีมติจะโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32โดย ในช่วงเช้าวันที่ 3 กันยายนนี้ ทางแกนนำของทั้ง 2 พรรคจะไปลงนามข้อตกลงร่วมกันของทั้ง 2พรรค ที่รัฐสภา

ปชน.ยันยังไม่มีมติ-นัดโหวต3ก.ย.

เวลา 17.30น.ที่พรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล แถลงหลังประชุมพรรค เพื่อตัดสินใจลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้ไม่มีมติต้องบอกว่า 2วันที่ผ่านมา เรารับฟังความเห็นสส.และเปิดรับฟังทุกองคาพยของพรรค 1แสนคน เพื่อให้ความเห็นต่อการเลือกนายกฯประชุมวันนี้เพิ่มเติม โดยมีสส.เห็นตรงกันว่ายังเปิดรับฟังความเห็นของพรรค ในวันพรุ่งนี้ประชุมผู้บริหารพรรคเพื่อตัดสินใจ ยืนยันยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ รอหัวหน้าพรรคนัดประชุมผู้บริหารพรรค โดยจะพยายามให้เร็วที่สุด วันนี้มีแต่การให้ความเห็น ไม่มีการยกมือ สะท้อนจากประชาชนในพื้นที่ เข้าใจตรงกันหมดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย ทุกคนเข้าใจตรงกันว่าไม่ใช่การเลือกนายกฯที่ดีที่สุด แต่เลือกนายกฯเพื่อนำไปสู่การยุบสภาและแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าพรรคมีมติโหวตให้นายอนุทิน นั้น ไม่ทราบว่าใครปล่อย ไม่ทราบเจตนา

นายพริษฐ์วัชรสินธุ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า ยืนยันว่าการตัดสินใจเรื่องนี้ไม่ได้ยึดที่ประชุมสส. และฟังจากทุกส่วน ยืนยันจุดยืน ยุบสภาคืนอำนาจโโยเร็ว หากรักษาการนายกฯ ไม่ยุบสภา เราต้องใช้กระบวนการเลือกนายกฯคนใหม่ เพื่อทำภารกิจเข้าไปยุบสภา เราเรียกร้องมา 2 เดือนแล้วจากรัฐบาลเพื่อไทย

“ตอนนี้ที่ประชุมสส.แสดงความเห็นครบถ้วนแล้ว ตอนนี้ให้ผู้บริหารพรรคตัดสินใจ เราไม่ไว้วางใจทั้งคู่ ถ้าจะพูดถึงความรู้สึกมีกันหมด ทั้งเพื่อไทยและภูมิใจไทย เราไม่เอาความรู้สึกเป็นตัวตั้ง แต่เราออกแบบการตัดสินใจให้รัดกุมที่สุด คุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ คุมให้รักษาสัญญาได้ ยืนยันหากไม่มีการยุบสภา เราพร้อมเดินหน้าเลือกนายกฯ ขอย้ำถึงเงื่อนไข 3 ข้อว่าเราทำหน้าที่แกนนำฝ่ายค้าน เราต้องการวางกระบวนการหากรักษาการนายกฯไม่ยุบสภา ต้องเลือกนายกฯที่จะไปยุบสภา”นายพริษฐ์ กล่าว

เวลา 17.20น.ที่พรรคประชาชน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุลและนายพริษฐ์วัชรสินธุ ร่วมแถลงผลการประชุมของพรรคประชาชน โดย นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า กำลังรอความเห็นจากสมาชิกพรรค และจะโหวตเลือกว่าจะตัดสินใจอย่างไรในวันที่ 3กันยายนนี้ โดยจะเป็นมติของคณะกรรมการบริหารพรรค โดยตอนนี้สมาชิกพรรคมี 1แสนคน มีคนเสนอมาแล้ว 2หมื่นคน ยังรออีก 8หมื่นคน

อิ๊งค์’เข้าพท.ร่วมประชุมสส.

ช่วงเวลา12.10 น.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทยซึ่งจะมีการประชุมประจำสัปดาห์โดยช่วงเวลา13.00น.เป็นการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในแต่ละภาค ส่วนเวลา 15.00 น. เป็นการประชุม สส.รวมทุกภาค โดยทันทีที่น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึง ได้เข้ามาด้านในตึกผู้สื่อข่าวจึงถามถึงการเดินทางมาที่พรรควันนี้ จะมีการพูดคุยในเรื่องใดบ้าง ซึ่งน.ส.แพทองธารไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่ยิ้มให้สื่อมวลชนและขึ้นลิฟต์ไปทันที

ทักษิณ-ชัยเกษม”เข้า‘เพื่อไทย’

เวลา 13.20 น.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.)โดยเลี่ยงสื่อมวลชนเข้าทางด้านหลังอาคาร แต่ก็ยังหันมายิ้มและโบกมือให้สื่อมวลชน โดยช่วงเวลาไล่เลี่ยกันบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยต่างทยอยเดินทางเข้ามายังที่ทำการพรรค อาทินายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรค เป็นต้น

จากนั้นเวลา 14.00 น.นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรคเพื่อเข้าร่วมประชุม สส.พรรคประจำสัปดาห์ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด

ทักษิณ”รับผิดไว้ใจ”ธรรมนัส”

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่าช่วงค่ำวันที่1 ก.ย.ที่ผ่านมา สส.พรรคเพื่อไทยประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สองเมื่อเรื่องรู้ถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายทักษิณจึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาดด้วย

โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณพูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นำพรรคกล้าธรรม (กธ.) ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส.ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่า นายทักษิณโดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวงต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก

พร้อมกันนี้ สส.ก็ได้ระบายถึงการทำงาน การบริหารภายในพรรค ที่พรรคไม่ค่อยดูแลคนที่สอบตก หรือ สส.อาวุโส ที่ถูกละเลยไป โดยนายทักษิณก็รับปากว่าจะช่วยดูให้ ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องรอดูพรรคประชาชน (ปชน.) ว่าจะเลือกอย่างไร

พท.จ่อถามศาลฯตุลาการหมดอายุฟันอิ๊งค์

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวงหารือยังได้พูดถึงกรณีที่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 1 คน พ้นหน้าที่ และมีตุลาการคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทน ในวันที่ 29 ส.ค.ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ พอดี แม้จะเป็นการทำความเห็นของตุลาการฯ ที่เข้ามาใหม่ แต่ก็ไม่มีผลทำให้ผลการตัดสินเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้พรรคเพื่อไทย ได้ให้ฝ่ายกฎหมายยืนเรื่องต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ โดยประเด็นนี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีเวลาแก้ปัญหาเรื่องการเลือกนายกฯ มีเวลาในการเจรจาเตรียมพร้อมมากขึ้น

ทักษิณ’ปิดปากอ้างแค่มาให้กำลังใจ

เวลา15.52น.นายทักษิณ เดินทางออกจากพรรคเพื่อไทยทางประตูหลัง โดยถามถึงสถานการณ์ตอนนี้ คิดว่ามีทางออกสำหรับการเมืองไทยหรือไม่ นายทักษิณตอบว่า “ไม่รู้ ผมมาให้กำลังใจ มาให้กำลังใจเฉยๆ”เมื่อถามว่าวันนี้พรรคเพื่อไทย ยังยืนยันที่จะส่งชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายทักษิณปฏิเสธตอบคำถาม และย้ำเพียงว่า ตนมาให้กำลังใจเฉยๆไม่มีอะไร

เมื่อถามถึงรายงานข่าวว่ายอมรับผิดที่ไว้ใจร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมนั้น นายทักษิณไม่ได้ตอบคำถาม เช่นเดียวกัน ก่อนจะขึ้นรถและเดินทางออกจากพรรคเพื่อไทยทันที

ชัยเกษม’ยังไม่ติดต่อให้เป็นนายกฯ

วันเดียวกัน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยกล่าวในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ ระบุว่าตอนนี้สุขภาพแข็งแรง ไม่มีปัญหาทุกอย่าง หมอยังบอกว่า โชคดีทุกอย่าง ตีกอล์ฟได้ แต่ก็อย่าเจออากาศร้อน

เมื่อถามว่าตั้งแต่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯถูกศาลสั่งขาดคุณสมบัติ มีใครติดต่อมาให้เป็นนายกฯหรือยัง นายชัยเกษม กล่าวว่า ต้องตอบตรงๆว่า ไม่มี อาจจะยังหารือกันอยู่ แต่ตนก็ไม่ว่าอะไร ถ้าให้ทำอะไรก็ติดต่อมา เขาอาจจะคิดว่า ยังไม่มีอะไร ก็ปล่อยให้ตามเส้นทาง ถ้าประกาศจริงจัง ก็อาจจะคุยก็ได้ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไม่อยากให้เป็นกระเหี้ยนกระหือรือ แต่หากทำอะไรได้ ก็พร้อมช่วยเหลือประเทศชาติ

ถามย้ำว่าตอนนี้นายภูมิธรรม นายสรวงค์ หรือน.ส.แพทองธารยังไม่ติดต่ออีกเหรอ นายชัยเกษม กล่าวว่า เขาเป็นแกนนำ แต่ไม่ได้รับผิดชอบตรงนี้ก็ต้องไปคุยกันจนตกผลึกแล้ว ก็ติดต่อมาแล้วกัน ถ้าบอกว่ามีปัญหาติดขัด ตนก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าถามว่า พร้อมไหม ตนก็ไม่มีอะไรขัดข้อง

แย้มอาจมี‘อัศวินม้าขาว’พุ่งพรวด

ถามว่าแต่ตอนนี้เป็นแคนดิเดตคนเดียวที่เหลืออยู่ นายชัยเกษม กล่าวว่าอาจจะมีอัศวินม้าขาว พุ่งพรวดมาก็ได้ ตนไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ใช้ชีวิต ก็มีความสุขกับครอบครัว แต่ถ้าทำประโยชน์กับบ้านเมืองได้ก็ยินดี ถ้าไม่ยุ่งกับผม ก็สบายๆเมื่อถามว่าถ้าจากระบบจะมีอัศวินขี่ม้าขาวได้อย่างไร นายชัยเกษม กล่าวว่าตามหลักการเป็นอย่างนั้น แต่ก็มีแคนดิเดตคนอื่นอีก เอาเป็นว่าถ้าใช้ผม ผมก็ไม่เคยเกี่ยง ถ้าไม่ใช้ ผมก็อยู่เฉยๆ ดูเขาต่อสู้กันไป

ยันต้องคุยทุกดีลต้องร่วมรับรู้ด้วย

เมื่อถามว่าข้อเสนอยุบสภา 4 เดือน แก้รัฐธรรมนูญ จะตอบว่ายังไง นายชัยเกษม กล่าวว่าก็ต้องดูว่าใครไปรับปาก แล้วเกิดจากอะไร ไม่ใช่ว่านาย ก. นาย ข.ไปรับปากแล้วผูกพันพรรค แต่ถ้าพรรคมีมติก็ต้องเป็นไปตามที่รับปาก ไม่งั้นก็เสีย ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องชี้แจงให้ชัดเจน แต่ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในพรรค แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค

“ถ้าพรรคมีมติ คุยกันแล้ว ก็ต้องมาคุยกับผมว่ามีเหตุผลอะไร มีทางอื่นไหม ถ้าทุกคนเห็นพ้องต้องกันเป็นมติพรรค ผมก็ต้องเห็นชอบมันก็เป็นไปตามนั้น ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าผมจะรับปากกับใคร ต้องทำอะไรก็ต้องรู้ให้ชัดเจนก่อน ไม่เช่นนั้น ก็ไม่ถูกต้อง ทำงานด้วยกันก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อน”นายชัยเกษม ระบุ

เมื่อถามต่อว่าก็ต้องเอาข้อตกลงมาบอกก่อน นายชัยเกษมกล่าวว่าก็ควรเป็นอย่างนั้น เอามาบอกกันก่อน ไม่อย่างนั้น รับปากซี้ซั้วก็มีผลเสียหาย ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ต้องดูให้รอบคอบก่อน แล้วพรรคตัดสินใจอย่างที่มีข่าวจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ได้ยินว่าจะมีประชุมพรรควันนี้ ถ้ามีมติเขาก็คงต้องบอก

”ถ้าจะให้ผมรับผิดชอบอะไรก็ต้องให้ผมรับรู้ด้วย ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ไม่เช่นนั้นมีอะไรออกมาไม่ใช่กระทบแค่พรรค แต่ก็กระทบผมด้วย ยืนยันว่า เป็นเนื้อเดียวกัน ผมก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรคเพื่อไทยแต่ก็ต้องคุยกัน มีเหตุผลกัน ผมจะไปอะไรกับเขา”นายชัยเกษม กล่าว

รัฐบาลแตกยับ‘ภูมิธรรม’นำถกครม.

ช่วงที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีลาประชุม 6 คนได้แก่ 1.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ 2.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ 3.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ 4.นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ 5.นายอนุชา สะสมทรัพย์ รมช.สาธารณสุช และ6.นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ทั้งนี้ รัฐมนตรีส่วนใหญ่ที่ลา จากพรรคกล้าธรรม (กธ.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ในส่วนของกลุ่ม 18 ที่ก่อนหน้านี้มีความเคลื่อนไหวชัดเจนว่าให้การสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี

กฤษฎีกายันรบ.รักษาการยุบสภาไม่ได้

ที่ทำเนียบรัฐบาลนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงอำนาจการยุบสภาของรักษาการนายกรัฐมนตรีว่าตอนนี้มีคนพูดกันเยอะไปหมด จนสับสนกันไปหมดแล้ว รอดูแล้วกันว่า จะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ให้ความเห็นไปแล้ว ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนเมื่อถามย้ำว่าแต่คณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล นายปกรณ์กล่าวว่าตนได้ให้ความเห็นไปแล้วยังยืนยันความเห็นเดิม

ภูมิธรรม’ลั่นครม.ไม่คุยยุบสภา

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึง การประชุมครม.วันนี้ จะหารือเรื่องการยุบสภาหรือไม่ว่า ยังไม่มีการหารือ เพราะตอนนี้ขั้นตอนยังอยู่ช่วงการจัดตั้งรัฐบาล จับมือกัน จนกว่าจะมีการประกาศอย่างชัดเจน หรือ เข้าสภาจนได้นายกฯเมื่อถามว่าเรื่องยุบสภายังมีเวลาตัดสินใจใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ตอบว่า อยู่ในกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน อยู่ที่ว่าบทสรุปการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นเช่นไร ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ตอนนี้แม้แต่พรรคประชาชนก็ยังไม่บอกว่าไม่ได้เอาพรรคเพื่อไทยและก็ไม่ได้บอกไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เขายังไม่ได้ข้อสรุปก็ต้องรอเขา

“ถ้าบ้านเมืองไม่มีทางออก กลไกประชาธิปไตยก็จะมีขั้นตอนหนึ่งสองสามสี่ให้ทำ ก็เลือกตรงไหนให้ได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่บรรลุการเจรจาจนได้ข้อยุติว่าจะเสนอใครโหวตและโหวตแล้วจะได้ใคร ยังไม่รู้ เพราะที่ประชุมของปชน.ก็แตกละเอียดไปหลายส่วน วันนี้จึงไม่มีประโยชน์อะไร จนกว่าการตกลงร่วมกันมีความชัดเจน เสนอชื่อเข้าสภา และโหวตจนสำเร็จ คำถามต่างๆจึงค่อยมาถามต่อได้”นายภูมิธรรม ย้ำ

ตอก‘ไอติม’ท้ายุบสภา ไม่เข้าใจปชต.

เมื่อถามว่ามองว่าพรรคปชน.เดินเกมให้ยุบหรือไม่นายภูมิธรรมกล่าวว่ามองอย่างนั้นก็มองปชน.ร้ายเกินไป ตนไม่คิดถึงขนาดว่าปชน.จะเอาเกมส่วนตัวมาแก้ปัญหาหรือสร้างผลกระทบให้ประเทศ

ถามว่านายพริษฐวัชรสินธุ โฆษกปชน.บอกว่ายุบสภาได้เลยไม่ต้องรอพรรคปชน.ตัดสินใจเลือกใครนายภูมิธรรมกล่าวว่า”คุณพริษฐ์ไม่เข้าใจกระบวนการประชาธิปไตย เพราะยังอยู่ในช่วงหารือจัดตั้งรัฐบาล อยู่จะมาเรียกให้ยุบสภา แสดงว่าเอาความต้องการส่วนตัวเป็นหลัก วันนี้ต้องบอกว่ายังไม่ใช่เรื่องที่ต้องตัดสินใจ ในกระบวนการประชาธิปไตยอื่นๆ ตอนนี้รายชื่อจำนวนเสียงที่ภูมิใจไทยบอกมาว่ามี280 เสียง แสดงว่านับพรรคประชาชนไปด้วยซึ่งแสดงว่าภูมิใจไทยตกลงกับพรรคประชาชนแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นการเล่นละครหรือ ถ้าเชื่ออย่างนั้นพรรคประชาชนต้องรับผิดชอบ

ตอกย้ำยุบสภาอยู่ที่สถานการณ์

เมื่อถามย้ำว่า อะไรคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะยุบสภา นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ที่สถานการณ์การเมือง อะไรที่ทำสถานการณ์เมืองถึงทางตันไปไม่ได้ ตนยังไม่คิดถึงเรื่องการยุบสภาอยู่ในหัว เพราะการตัดสินใจเรื่องประชาธิปไตยนั้นมีหลายทาง อย่าคิดไปไกลกว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เมื่อถามว่าพรรค พท.เหมือนจริงใจไม่สุด เหมือนต้องการดึงเสียงสส.ที่ไหลออกไปกลับมา เพื่อดึงสถานการณ์ประเทศไปสู่การรัฐประหารหรือยุบสภา นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นคำถามที่ไม่สร้างสรรค์ อย่าโยนความผิดให้พรรคพท.ทำไม่ไม่คิดกลับกันว่าการดึงเวลาอย่างนี้ เป็นการดึงสส.พท.ให้ออกไป เพราะสามารถคิดได้ทั้งสองอย่าง

หมอมิ้ง’ชี้รบ.รักษาการยุบสภาได้

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการพูดคุยเรื่องยุบสภาหรือไม่ ว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องที่พิจารณาใน ครม. เมื่อถามว่า อำนาจรักษาการนายกฯ สามารถยุบสภาได้หรือไม่ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ไม่มีข้อห้าม ต้องถามนักวิชาการที่ศึกษา แต่หากไปดูให้ดี ตนยังไม่เจอข้อห้ามในกฎหมายเมื่อถามถึงกรณีนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่าทำไม่ได้ นพ.พรหมินทร์ กล่าวว่า ไม่เป็นอะไร งั้นก็ต้องไปถาม ตนไม่ใช่นักกฎหมาย

สรวงค์’ย้ำรอมติปชน.ชัดเจน

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเจรจาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน (ปชน.) ได้มีการประสานถึงความคืบหน้ามาบ้างหรือไม่ หรือต้องมติจากพรรคประชาชนเท่านั้น ว่า ช่วงนี้ต้องรอให้พรรคประชาชนได้มีการประชุม ซึ่งเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน พรรคการเมืองแต่ละพรรคจะมีกระบวนการของแต่ละพรรคแตกต่างกัน ที่ตนทราบพรรคประชาชน มีการเปิดรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค ไม่ใช่แค่ สส. เป็นสิ่งที่เราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งยังไม่ได้มีความคืบหน้ามาเพิ่มเติม

ชี้’ยุบสภา’ทางเลือกหนึ่งปัดกดดัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากสุดท้ายแล้วยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจจะมองไปถึงการยุบสภา นายสรวงศ์ กล่าวว่าการยุบสภานั้น เป็นไปได้อยู่แล้ว ตนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าถ้าพรรคประชาชนไปเลือกอีกฝั่งหนึ่งแล้วเราจะยุบสภา แต่ตนให้สัมภาษณ์ว่าการยุบสภานั้นมีโอกาสเป็นไปได้เสมอ คือการเมืองมีโอกาสเป็นไปได้ตลอดและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่รัฐบาลรักษาการสามารถทำได้ ทั้งหมดไม่ใช่เป็นการต่อรองหรือกดดันใดๆทั้งสิ้น

เมื่อถามย้ำว่าการยุบสภาถือเป็นไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยแล้วใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไพ่ใบสุดท้าย แต่ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ตามกฎหมายแล้วเราสามารถทำได้ แต่จะทำหรือไม่นั้นก็เป็นอำนาจของผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี

เพื่อไทย’ทูลเกล้าฯให้ยุบสภาแล้ว

เย็นวันเดียวกัน นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระบวนการดำเนินไป สิ่งที่เราพยายามจะทำคือ อยากให้เป็นทางออกของประเทศให้ดีที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นอำนาจของปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเป็นรัฐมนตรีรักษาการ ส่วนในเรื่องกระบวนการต่างๆ ต้องใช้เวลา ผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการต่างๆ รอขึ้นทูลเกล้าฯ หรือไม่ นายสรวงค์ กล่าวว่า นายภูมิธรรม ปฏิบัติหน้าที่แทนนายก ได้มีการวางแผน และดำเนินการอยู่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าขั้นตอนอยู่ตรงไหนผู้สื่อข่าวถามว่า ดำเนินการที่ว่า คือ ทูลเกล้าฯยุบสภา นายสรวงค์ กล่าวว่า “ครับ ใช่ครับ”

เป็นสิ่งที่เราดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ได้ออกมาขู่ เพราะเรามองอยู่แล้วว่าทางออกของประเทศคือ คืออำนาจให้กับพี่น้องประชาชาชน แต่ต้องทำอย่างรอบคอบและระมัดระวังที่สุด

รายงานข่าวแจ้งว่า นายภูมิธรรม รองนายกฯ รักษาการนายกฯ ได้ยื่นทูลเกล้าพระราชกฎษฎีกายุบสภาแล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top