‘โรม’ขอโทษทำผิดหวัง โหวต‘อนุทิน’นั่งนายกฯ ชี้เป็นจุดที่ตัดสินใจยากที่สุด

‘โรม’ขอโทษทำผิดหวัง โหวต‘อนุทิน’นั่งนายกฯ ชี้เป็นจุดที่ตัดสินใจยากที่สุด

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.07 น.

"โรม"ขอโทษทำผิดหวัง โหวต"อนุทิน"นั่งนายกฯ ชี้เป็นจุดที่ตัดสินใจยากที่สุด ใจจริงไม่อยากเลือกใคร อยาก"ยุบสภา"แต่ประเทศต้องเดินหน้าต่อ ไม่เห็นด้วยใช้นิติสงคราม

เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.68) ว่า ตนเองยังไม่อยากให้การบ้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ขอให้ได้เป็นนายกฯ จริงก่อน เพราะตอนนี้มีสถานการณ์ที่ต้องยอมรับว่าสรุปเรื่องยุบสภาเป็นอย่างไร ตนเองเห็นตามหน้าข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยื่นยุบสภา แต่ปัญหาคือมีการตีตก ซึ่งหากมีตกจริง ตีตกด้วยสาเหตุอะไร ตนเองยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการเลื่อนยุบสภา เรื่องนี้มีการถกเถียงในข้อกฎหมาย บางฝ่ายมองว่ายุบได้ บางฝ่ายมองว่ายุบไม่ได้ ถ้ายุบไม่ได้ก็ต้องประกาศให้ชัด จะได้มีการเลือกนายกฯ


"วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ รับทราบเรื่องนี้แล้ว จึงบรรจุวาระเลือกนายกฯ คนใหม่ในวันพรุ่งนี้ แต่เรายังอยากได้ความชัดเจนว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้แล้วใช่หรือไม่" นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะเสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ แข่งกับพรรคภูมิใจไทย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อนายชัยเกษมเท่ากับว่ากระบวนการยุบสภาจบแล้วใช่หรือไม่ พรรคประชาชนอยากให้มีการตั้งหลักให้ชัดเจน เราเรียกร้องมาโดยตลอดว่าเราอยากเห็นการยุบสภา หากมีการยุบสภาตามข้อเรียกร้องของพรรคประชาชน ปัญหาหลายอย่างจะไม่เกิดขึ้น

"สิ่งที่เรากลัวที่สุดเรื่องที่ความพยายามในการสร้างสถานการณ์ให้บุคคลภายนอกเข้ามาอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ตนเองก็เป็นห่วง พรรคประชาชนจึงต้องหาทางออกและจะไม่ปล่อยให้ประเทศถึงทางตัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงในการโหวตเลือกนายกฯ ยังจะเลือกนายอนุทิน ตามที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ลงนามใน TOA แต่เราไม่เห็นด้วยกับการใช้นิติสงครามเช่นนี้ เพราะไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ส่วนที่เมื่อวานนี้พรรคภูมิใจไทยไม่อยู่เป็นองค์ประชุมให้ในร่างกฎหมายของภาคประชาชน เป็นเรื่องที่เราต้องคุยกัน เราคาดหวังว่าทุกฝ่ายจะช่วยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปได้ จึงรู้สึกผิดหวังที่ไม่มีการลงมติ"

เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์กับการที่พรรคประชาชนโหวตนายอนุทินเป็นนายกฯ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองเข้าใจในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองของมวลชน คงต้องยอมรับในข้อพิพากษ์วิจารณ์ เราอยากให้ประชาชนสนับสนุนต่อไป เราเข้าใจดีว่าประชาชนจำนวนมากมีจุดยืนของตนเอง และมีความคาดหวังต่อพรรคประชาชน จุดที่เรากำลังยืนอยู่ เป็นจุดที่เรากังวลว่ามันจะเกิดขึ้น เป็นจุดที่เราไม่อยากให้เป็น แต่เมื่อมันมาถึงก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เราไม่ได้อยากจะไปเลือกให้ใครเป็นนายกฯ อยากให้เลือกยุบสภา เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและคลี่คลายความขัดแย้งได้ แต่เมื่อเราไม่ใช่คนเดียวที่จะมีอำนาจตัดสินใจก็ต้องหาทางออกให้กับประเทศ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีบุคคลอื่นที่ใช้โอกาสนี้ในการเข้ามา อาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายกับประเทศชาติ จึงต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

"ขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ไม่ได้ตัดสินใจตามที่ทุกคนคาดหวัง ผมยืนยันว่าจุดนี้คือจุดที่เราลำบากที่สุดในการตัดสินใจ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ให้ได้เพื่อแก้ปัญหาที่มีความเสี่ยง เราต้องเดินหน้าจนกว่าจะมีเหตุเปลี่ยนแปลง"

นายรังสิมันต์ คาดหวังว่า การยุบสภาจะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับ น.ส.แพทองธาร มีการพูดมาโดยตลอด แม้กระทั่งตัวแทนของฝ่ายรัฐบาลเขาก็กังวลในเรื่องนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปแล้วก็มีโอกาสที่จะมีคนบางฝ่ายที่พยายามตีความว่านายภูมิธรรม ไม่มีอำนาจในการยื่นยุบสภา ถ้าเราเอาปัญหาของประเทศและความเสี่ยงเป็นที่ตั้ง จะไม่มาถึงจุดนี้เลย ถ้ามีการยุบสภาก่อนหน้านี้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่สุดท้ายทุกฝ่ายทำให้ประเทศมาถึงจุดนี้และเกิดความเสี่ยงใหม่ พรรคประชาชนอยากจะทำให้เกิดความชัดเจนก่อนเกี่ยวกับสถานการณ์การยุบสภา อยากให้พรรคเพื่อไทยสร้างความชัดเจน รวมถึง นายวันมูหะหมัดนอร์ ผู้มีอำนาจในการบรรจุวาระ เพื่อจะได้เดินหน้าหาทางออกให้กับประเทศต่อไป

นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ไม่มีใครอยากเป็นฝ่ายค้าน ทุกคนหาเสียงเพื่ออยากเป็นรัฐบาล เพียงแต่เราต้องยอมรับว่ากลไกนิติสงคราม รัฐธรรมนูญที่มีนักการเมืองแบบที่เราเห็น สุดท้าย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ได้รับการเลือกเป็นนายกฯ แต่เราก็แสดงจุดยืนมาโดยตลอดว่าจะไม่ขอร่วมรัฐบาล ตนเองเชื่อว่าการรักษาสัจจะเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้การเมืองนำไปสู่ความเลวร้าย เราไม่อยากเป็นพรรคการเมืองแบบนั้น เรารู้ดีว่ามีความปรารถนาดีที่จะให้เราไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ที่ผ่านมาเราแสดงจุดยืนที่ว่า จะไม่ขอรับตำแหน่งมาโดยตลอด เราจึงขอเลือกรักษาคำพูดที่ได้ให้ไว้กับประชาชน

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top