คดีเขากระโดงจะหายไปตลอดกาล

‘อ้วน’เหน็บ‘หนู’

รฟท.เบี้ยวแล้วเลื่อนแจ้งDSIเอาผิด

DSIชี้เข้าข่ายละเลยปฏิบัติหน้าที่

ถ้าไม่แจ้งความเจอดำเนินคดีแน่

ร.ฟ.ท. ประสานดีเอสไอเลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ทั้งที่ฝ่ายกฎหมายนัดส่งมอบเอกสารและหลักฐาน ขณะที่ ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติฯ ชี้ ตรวจพบบุคคลและเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท.มีส่วนเกี่ยวข้องในการเข้าครอบครองที่ดิน และ ร.ฟ.ท. เป็นผู้เสียหาย หากไม่มาร้องทุกข์กล่าวโทษจะเข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่โดยจะทำหนังสือแจ้งให้เข้ามาร้องทุกข์อีกครั้งด้าน“ภูมิธรรม”ประชด หาก“อนุทิน”เป็นนายกฯ เรื่องนี้จะหายไปตลอดกาล

ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) มีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. เกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท. ) ติดต่อว่าจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในวันที่4 กันยายน เวลา 14.00 น.นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4กันยายน2568 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ร.ฟ.ท. ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด โดยกรณีนี้พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. เข้าไปเกี่ยวข้อง และ ร.ฟ.ท. เป็นผู้เสียหายจึงประสานร.ฟ.ท. ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากร.ฟ.ท. ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งร.ฟ.ท. อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหาร ร.ฟ.ท. เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

ทางด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีร.ฟ.ท. เลื่อนการแจ้งความคดีเขากระโดงต่อดีเอสไอ อย่างไม่มีกำหนด ว่า เขากระโดงไม่สำคัญเท่ากับการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนรัฐบาลจะเป็นอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ก็จะหายไปตลอดเวลา ตลอดกาลเมื่อถามย้ำว่า แบบนี้เราจะไม่ได้เขากระโดงกลับคืนเป็นที่ของหลวงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผมยืนยันว่าทำตามนี้แน่นอน