‘บิ๊กเล็ก’ประชุม‘ศบ.ทก.’ครั้งสุดท้าย ถกประเด็นนำเข้าประชุม GBC ระบุเห็นชอบสร้างรั้ว‘หนองจาน’ แต่ต้องคุยต่อเหตุเขตแดนเป็นคลอง หวั่นอนาคต‘กัมพูชา’อ้างสิทธิ์ เพราะไปสร้างริมตลิ่ง
5 กันยายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า จะพิจารณาเรื่องที่จะนำไปประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (GBC) ที่จะมีการประชุมในช่วงระหว่างวันที่ 10 ก.ย. และเรื่องที่จะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนการสร้างรั้วบริเวณบ้านหนองจาน ศบ.ทก. เห็นชอบในหลักการโดยให้ สมช. พิจารณาในรายละเอียด ซึ่งการสร้างรั้วไม่ใช่เรื่องง่าย ทีมที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่าเขตแดนอยู่ลำคลอง การสร้างรั้วบนตลิ่ง ทีมที่ปรึกษาได้ขอให้พิจารณาในรายละเอียด
ทั้งนี้ เพราะอนาคตกัมพูชาอาจจะทึกทักเอาว่าเขตแดนของไทยอยู่ที่แนวรั้ว ซึ่งข้อเท็จจริงฝ่ายความมั่นคงบอกว่ารั้วไม่ได้หมายถึงเขตแดน แต่หมายถึงเครื่องกีดขวางทางด้านความมั่นคง สกัดกั้นอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งที่ปรึกษามีความเป็นห่วง เพราะกัมพูชาไม่ได้สนใจในรายละเอียด ดังนั้น สิ่งที่ที่ปรึกษาได้ให้ข้อสังเกตไว้ควรจะมีข้อตกลงให้ชัดเจนทั้งสองฝ่ายก่อนจะดำเนินการ พร้อมให้คำแนะนำว่าไทยต้องขอสงวนสิทธิ์ในการใช้พื้นที่กลางลำคลองด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วกัมพูชาจะยึดทั้งหมดเป็นเขตแดนของเขา จึงอยากจะขอให้สื่อช่วยทำความเข้าใจ กับสังคมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจะไปประชุม GBC ขณะที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลสามารถดำเนินการได้หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นเรื่องที่หนักใจพอสมควรซึ่งตนได้ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ คงต้องไป ถ้าไม่ไปประเทศชาติจะเสียประโยชน์ ขณะที่กัมพูชาแล้วแต่ประเทศไทยว่าจะไปหรือไม่ไป ซึ่งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศได้ให้คำแนะนำว่าประเด็นใดที่จะผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ก็ขอให้หลีกเลี่ยง ให้ประชุมเฉพาะประเด็นที่ประเทศชาติได้ประโยชน์
เมื่อถามว่า การประชุมในวันที่ 10 ก.ย.นี้จะไม่มีข้อสรุปเงื่อนไขเดิมที่เคยคุยไว้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า จะเป็นการพูดคุยเรื่องเดิมที่ยังไม่มีความคืบหน้าคือ การเก็บกู้ทุนระเบิด ปราบปรามอาชญากรรมช้ามชาติ สแกมเมอร์ และประเด็นบ้านหนองจาน เดิมจะนำประเด็นเรื่องบ้านหนองจานไปหารือในที่ประชุม GBC แล้วนำกลับมาให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชาคุยจัดทำรายละเอียด ถ้าไม่มีความคืบหน้าจึงจะดำเนินการในแง่ของกฎหมาย แต่เมื่อวันพุธที่ 3 ก.ยที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วขอนำเรื่องเข้าที่ประชุม ศบ.ทก.พร้อมขอความเห็นใจ ประชาชนไปกดดันถ้าไม่ดำเนินการใดๆ จะแจ้งความเอาผิดมาตรา 157 ขั้นตอนเลยต้องสลับกัน ซึ่งที่ประชุมเห็นใจผู้ว่าฯ และให้ดำเนินการไปก่อน โดยให้คุยกับผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ซึ่งจะมีการคุยกันในวันที่ 8 ก.ย.นี้ คาบเกี่ยวกับการที่จะมีการประชุม GBC
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า บางครั้ง ศบ.ทก. และรัฐบาลไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ต้องการ หรือวางแผนไว้ต้องฟังเสียงประชาชนด้วย เมื่อประชาชนบอกว่ารอการประชุม GBC ในวันที่ 10 ก.ย.ไม่ได้ จึงขอให้ผู้ว่าฯสระแก้วอนุมัติดำเนินการก่อน โดย ศบ.ทก. เห็นชอบในเบื้องต้น จึงจะนำเข้าที่ประชุม สมช.วันนี้ เพราะไม่ทราบว่า จะมีการประชุม ศบ.ทก.อีกหรือไม่ เพราะคำสั่งใดที่รัฐบาลเดิมแต่งตั้งไว้ เมื่อรัฐบาลสิ้นสุดก็จะหมดไปด้วย ยืนยันเราไม่ได้ยุบ ศบ.ทก. แต่จะสิ้นสุดไปตามรัฐบาล และวันนี้อาจเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย จึงอยากจะขอโอกาสนี้ขอบคุณสื่อ ที่ผ่านมาช่วยทำความเข้าใจกับสังคมจนมั่นใจว่าสื่อช่วยได้เยอะ การทำงานในห้วงเวลาที่ผ่านมา ตนเป็นรมช.กลาโหม ขณะที่อีกหน้าที่เป็น ผอ.ศบ.ทก. เพราะฉะนั้นเวลาที่พูดหรือคิดอะไร จะคิดในกรอบ ผอ.ศบ.ทก. ไม่ได้คิดเรื่องทหารอย่างเดียว บางครั้งสื่ออาจไม่เข้าใจว่าทำไม รมช.กลาโหมไปคิดเรื่องอื่น ขอความกรุณา ทำความเข้าใจกับสังคมว่ากรอบที่ตนคิดคือ การใช้พลังอำนาจของชาติ ผลประโยชน์ของชาติทั้ง 6 ด้าน ทั้งการเมืองในและต่างประเทศ การทหาร เศรษฐกิจ ซึ่งเวลาประชุมกับกัมพูชาก็พยายามบอกว่าภัยจริงๆ คือ ด้านเศรษฐกิจ แต่เรื่องอธิปไตยเราก็ถือเป็นลำดับแรก นอกนั้นยังคำนึงถึงสังคมจิตวิทยา
ทั้งนี้ ประชาชนตามแนวชายแดนด้วยกันก็อาศัยซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ชาวกัมพูชามาซื้อของกินของใช้ในบ้านเรา คนไทยก็ซื้อของป่า ซึ่งเขาอยู่กันมาแบบนั้น รวมถึงด้านต่างประเทศ บทบาทของเราและทัศนคติของนานาชาติที่มีต่อเรา และคิดถึงด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยตนเคยพูดไว้ พลังอำนาจอีกอย่างที่สำคัญคือ พลังอำนาจข้อมูลข่าวสาร สื่อมวลชนประเทศไทยมีอิสรเสรี และมีจำนวนมากหลากหลาย แต่สื่อมวลชนกัมพูชาถูกจำกัด ตนจึงมั่นใจในพลังอำนาจ ของสื่อไทย แต่บางครั้งตนคิดว่าทำไมบางครั้งการสื่อสารของเราเป็นรองเขาในบางเรื่อง ในฐานะที่ตนจะพ้นหน้าที่ไป อยากจะฝากสื่อมวลชนไทยใช้พลังอำนาจด้านนี้ให้เต็มที่ในการสู้กับพลังข้อมูลข่าวสารกับฝ่ายกัมพูชา
เมื่อถามว่า ได้รับการติดต่อทาบทามจากว่าที่รัฐบาลใหม่ ให้ทำหน้าที่รัฐมนตรีอีกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่มีเลย เมื่อถามย้ำว่า ถ้าได้รับการติดต่อสนใจสนใจที่จะมาช่วยงานต่อหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า น่าจะมีคนที่มีความสามารถ ตนคิดว่าอย่างนั้น ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาทาบทาม คิดอย่างเดียวว่าน่าจะมีคนทำได้ดีกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี