‘กล้าธรรม’ประเดิมแจงเหตุผลหนุน‘อนุทิน’ ขอสมาชิกลองเปิดใจให้ได้แสดงฝีมือ‘นายกฯ’ ชี้พรรคการเมืองไม่ควรยึดติดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนเจอทางตัน

5 กันยายน 2568 เวลา 12.20 น. ที่รัฐสภา ในการปะชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่2ฝ่ายได้เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย

จากนั้นได้มีการเปิดให้สมาชิกทั้ง2ฝ่าย อภิปรายแสดงเหตุผลในการเสนอชื่อนายกฯ  2 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายละ 1 ชั่วโมง เริ่มที่นายอัครแสนคีรี  โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม กล่าวอภิปรายว่า กล้าธรรม ที่ผ่านมาพรรคกล้าธรรมทำหน้าที่สนับสนุนรัฐบาลเพื่อไทยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน และยุคน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร เพราะเชื่อว่าประเทศชาติต้องการเสถียรภาพและประชาชนต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการตามนโยบายที่ประกาศไว้กับประชาชน วันนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ การเมืองไม่นิ่ง และพรรคการเมืองก็ไม่ควรยึดติดอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าหากสิ่งนั้นทำให้ประเทศของเราเดินหน้าไปสู่ทางตัน

“พรรคกล้าธรรมจำเป็นต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะพาประเทศชาติไปสู่ทางออกของความไม่มีเสถียรภาพทางด้านการเมือง ทางด้านนโยบายสำคัญที่สุดเราไม่อาจปฏิเสธความต้องการของประชาชนที่คาดหวังว่าสภา ณ แห่งนี้จะรีบคืนอำนาจให้กับประชาชนให้เร็วที่สุดให้ได้นายกรัฐมนตรีท่านใหม่ การสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเลือกบุคคลหนึ่งขึ้นมาบริหารบ้านเมือง แต่คือการเลือกที่จะพาประเทศก้าวข้ามความไม่แน่นอนที่สะสมในช่วงที่ผ่านมา สิ่งที่พรรคกล้าธรรมทำคือให้ความสำคัญกับการเปิดประตูไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญและคืนอำนาจให้กับประชาชนให้เร็วที่สุด”นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวว่า เหนือสิ่งอื่นใดเราก็ตระหนักว่าประเทศไทย เรายืนหยัดได้ด้วยรากฐานสำคัญคือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาเอกราช และความมั่นคงของชาติ การดำรงคุณค่าทางศาสนาและการปกครองสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นหลักชัย และศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งแผ่นดิน ดังนั้นการโหวตในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเลือกนายกรัฐมนตรี แต่คือการเลือกทางออกของประเทศไทย ทางออกสู่ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“พรรคกล้าธรรมทำจึงประกาศชัดเจนว่า เราพร้อมสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยความหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการคืนสิทธิ์คืนเสียงคืนอนาคตให้กับคนไทยทั้งแผ่นดินธำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ ที่ทำให้บ้านเมืองมั่นคงแข็งแรงรอดพ้นจากภัยทั้งภายในและภายนอก สุดท้ายนี้ขอเชิญชวนสส.ลองเปิดใจและให้โอกาสนายอนุทินให้ได้ลองแสดงฝีมือในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่32 ของประเทศไทย” นายอัครแสนคีรี กล่าว

-005