‘โฆษกศบ.ทก’.ยันแม้เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ศบ.ทก.ยังอยู่  ‘กองทัพ-หน่วยงานมั่นคง’ร่วมทำงานต่อเนื่อง

‘โฆษกศบ.ทก’.ยันแม้เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ศบ.ทก.ยังอยู่ ‘กองทัพ-หน่วยงานมั่นคง’ร่วมทำงานต่อเนื่อง

วันศุกร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.35 น.

‘โฆษกศบ.ทก’.ยันแม้เปลี่ยนผ่านรัฐบาล ศบ.ทก.ยังอยู่  ‘กองทัพ-หน่วยงานความมั่นคง’ร่วมกันทำงานต่อเนื่อง ด้าน‘กต.’ประนามใช้ปชช.เป็นแนวหน้า ยันพื้นที่หนองจานเขตอธิปไตยไทย ซัดเขมรเบี่ยงเบนประเด็น ไม่เคารพข้อตกลง ยันไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ เรียกร้องหยุดปลุกระดม จัดฉาก ยันไทยไม่ตอบโต้ด้วยข่าวปลอม ขณะที่ศศิกานต์’ย้ำเยียวยาผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชาไม่มีสะดุด ขอภาคธุรกิจ-นักลงทุน มั่นใจ ระบบ ทำงานเดินหน้าปกติ 

เมื่อวันที่ 5 ก.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุมศบ.ทก.เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปในห้วงเวลาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังในที่ตั้ง โดยสถานการณ์ในภาพรวมยังอยู่ในความสงบเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์สำคัญในห้วงเวลาที่ผ่านมา สำหรับประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) สมัยวิสามัญครั้งที่ 2/ 2568ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7-10 ก.ย.นี้ ที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามพันธะกรณีและเพื่อความต่อเนื่องจากการประชุมจีบีซี เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา  โดยวาระและเนื้อหาในการประชุม ขึ้นอยู่กับการตกลง และการพิจารณาของสมช.ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้  ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าในการประชุมจีบีซี เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความตึงเครียดในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยสันติวิธีเพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ 


พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนมีความห่วงใย บทบาทหน้าที่ของศบ.ทก.จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลนั้น ตนขอให้ความมั่นใจและความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า ความมั่นคงการปฎิบัติด้านความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องเรามีกฎหมายรับรอง และรองรับอยู่แล้ว โดยได้มีการมอบอำนาจให้ผู้บังคับบัญชาหน่วย ในทุกระดับไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) ตลอดจนผู้บัญชาการเหล่าทัพ แม่ทัพภาค ผู้บัญชาการกองกำลังต่างๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศ สามารถดำเนินการได้ตามตัวบทกฎหมาย โดยมีกฎการใช้กำลังที่มีขั้นตอนการปฎิบัติที่ชัดเจน และมีกฎหมายรองรับตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ศบ.ทก. ก็ยังยืนยันดำเนินการ ถึงแม้ว่าจะมีบทบาทน้อยลง แต่การปฎิบัติของกระทรวงกลาโหม กองทัพและหน่วยงานความมั่นคงต่างๆที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการ อย่างต่อเนื่อง โดยมีกลไกรองรับในทุกสถานการณ์ทุกกรณี

ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ในเรื่องการใช้พลเรือนสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวการประท้วงของประชาชนกัมพูชา ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ประท้วงรัฐบาลไทย ซึ่งสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้นำข้อความดังกล่าวโพสต์ในโซเชียลมีเดียของตน อ้างว่าการดำเนินกาารของฝ่ายไทยสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชนกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นพื้นที่อยู่ในเขตไทย กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงตอบโต้ในเรื่องนี้แล้ว และขอเรียนย้ำว่ามาตรการและการดำเนินการต่างๆของรัฐบาลอยู่ในเขตอธิปไตยของไทยโดยสมบูรณ์ โดยดำเนินการตามกฏหมายไทยที่สอดคล้องกับหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งกระบวนการทุกขั้นตอนทำอย่างรอบคอบผ่านการพิจารณาจาก ศบ.ทก. และผ่านความเห็นชอบจาก สมช.แล้ว ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกัมพูชาพยายามเบี่ยงเบนประเด็นโดยการกล่าวอ้างซ้ำๆว่าประชาชนของตนอยู่ในพื้นที่มายาวนานโดยไม่เคารพข้อตกลงและพันธกรณีระหว่างประเทศใดๆทั้งสิ้น โดยเฉพาะพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนและเขตอธิปไตยของไทย ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้นำพลเรือนออกมาอยู่แนวหน้า โดยบางส่วนได้มีการถืออาวุธพร้อมใช้คำยั่วยุ และพยายามขับไล่ทหารไทยที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ดังนั้นการดำเนินการของไทยทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นสิทธิ์ที่ชอบธรรมของไทยในการปกป้องอธิปไตย 

นางมาระตี กล่าวว่า ยิ่งไปกว่านั้นกัมพูชาไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิง และกรอบข้อตกลงคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ถือว่าไม่ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่สร้างสรรค์และเป็นการบั่นทอนบรรยากาศสันติภาพอย่างร้ายแรง ไทยขอประนามพฤติกรรมเหล่านี้ และขอย้ำอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลไทยไม่มีนโยบายทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างที่กัมพูชากระทำอยู่ และกองทัพไทยยังตรึงกำลังอย่างอดทนอดกลั้นตามมาตรการที่ได้เตรียมไว้ พร้อมแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีเพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย และปกป้องอธิปไตยบนพื้นฐานข้อเท็จจริงและตามกฎหมายของประเทศ ไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการปลุกระดม การจัดฉาก ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดในขณะนี้และการสร้างสันติภาพที่แท้จริง อยากให้กัมพูชาเลือกเส้นทางที่จริงใจและมีความรับผิดชอบเพื่อให้ประชาชนสองประเทศอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน 

นางมาระตี กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้กัมพูชายังคงมีการเผยแพร่ข่าวปลอมบิดเบือนข้อมูลต่อเนื่อง ทั้งจากสื่อภาครัฐและออนไลน์ และการปิดกั้นไม่ให้ประชาชนกัมพูชาเข้าถึงข้อมูลเว็บไซต์ฝ่ายไทย ซึ่งน่าเป็นห่วง แต่ฝ่ายไทยจะไม่ตอบโต้ด้วยกันบิดเบือนหรือแสดงละครเพื่อหลอกลวงนานาประเทศ แต่จะยืนยันข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานที่พิสูจน์ได้ และหลักการระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกยอมรับตามความจริงและความถูกต้องเพื่อนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน หวังว่าในการประชุม GBC ที่จะถึงนี้กัมพูชาจะมีความจริงใจ และความตั้งใจที่จะพูดคุยแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสันติภาพระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศอย่างจริงจัง

ขณะที่น.ส.ศศิกานต์ วัฒนจันทร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลขอยืนยันว่าแม้จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชาครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ทุกกระทรวงทบวง กรม ได้ทำงานประสานกันอย่างใกล้ชิดพร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณผู้เยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบทุกท่าน รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติทุกท่านอย่างดีที่สุด 

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า และถึงแม้จะเป็นช่วงรอยต่อทางการเมืองของรัฐบาล ขอให้ประชาชนทุกคนมั่นใจว่าการช่วยเหลือและการเยียวยาจะไม่สะดุดรัฐบาลจะเดินหน้าภารกิจนี้อย่างเต็มกำลังเพื่อปกป้องดูแลและฟื้นฟูจนกว่าประชาชนทุกคนจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์  ขณะเดียวกัน รัฐบาลขอให้ภาคธุรกิจภาคอุตสาหกรรมภาคแรงงานและนักลงทุนมั่นใจได้ว่าระบบการทำงานของเราจะยังดำเนินการไปอย่างตามปกติทั้งทางด้านเศรษฐกิจสังคมและความมั่นคง สำหรับประชาคมระหว่างประเทศ รัฐบาลขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าอธิปไตยของชาติจะได้รับการปกป้อง ประชาชนของเราจะได้รับการคุ้มครองและประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมเพื่อธำรงค์ไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค 

น.ส.ศศิกานต์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือพลังเอกภาพของคนไทย เพราะเมื่อประชาชนเข้มแข็ง บ้านเมืองมีเอกภาพ ประเทศชาติจะมั่นคงและสามารถป้องกันภัยคุกคามต่างๆได้ ท้ายที่สุดรัฐบาลขอยืนยันเจตนารมณ์ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ดูแลประชาชนทุกคนด้วยความทุ่มเทอย่างเต็มที่ และความรักชาติ และพลังความสามัคคีของไทย คือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ประเทศก้าวผ่านทุกวิกฤต ภายใต้พระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ และหลักชัยแห่งความมั่นคงของชาติไทย 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top