‘จาตุรนต์’เตือน‘ปชน.’ เทโหวตหนุน‘อนุทิน’ ระวังเจอใช้บารมีล้น ลามฉุดการเมืองตกต่ำ

‘จาตุรนต์’เตือน‘ปชน.’ เทโหวตหนุน‘อนุทิน’ ระวังเจอใช้บารมีล้น ลามฉุดการเมืองตกต่ำ

วันศุกร์ ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.05 น.

อยู่ 2 สถานะแบบนี้จะน่าเชื่อถืออย่างไร?! "จาตุรนต์"เตือน"ปชน." ยังเป็น"ฝ่ายค้าน"แต่เทโหวตหนุน"อนุทิน"นั่ง"นายกฯ" ระวังเจอใช้บารมีล้น ลามฉุดการเมืองตกต่ำ กล่อมโปรฯสุดท้าย จิ้ม"ชัยเกษม"ยุบสภาได้ก่อน 20 วัน

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากที่ 2 ฝ่ายได้เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย เสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย จากนั้นได้มีการเปิดให้สมาชิกทั้ง 2 ฝ่าย อภิปรายแสดงเหตุผลในการเสนอชื่อนายกฯ


โดยเมื่อเวลา 12.45 น.นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายแสดงเหตุผลที่สนับสนุนนายชัยเกษม ตอนหนึ่งว่า นายอนุทินมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมในการเป็นนายกฯ เพราะไปตกลง 5 เงื่อนไขกับพรรคประชาชน โดยเฉพาะการห้ามพรรคภูมิใจไทยรวมเสียงข้างมากในสภาฯ เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ต้องการให้รัฐบาลเป็นลูกไก่อยู่ในกำมือของพรรคประชาชน อาจจะลืมไปว่าอาจมีเหตุการณ์เหมือนในเพลงลูกทุ่งที่ว่า หนูเปล่านะเขามาเอง การตกลงแบบนี้ เป็นการขัดหลักการระบบรัฐสภาในระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง ส่วนที่พรรคประชาชน บอกว่าจะสนับสนุนนายอนุทิน เป็นนายกฯ โดยไม่ร่วมเป็นรัฐบาล เป็นฝ่ายค้านเหมือนเดิม จะทำได้จริงหรือ เพราะอยู่ใน 2 สถานะแบบนี้ จะเป็นฝ่ายค้านที่น่าเชื่อถือได้อย่างไร เพราะไม่มีส่วนรับรู้นโยบาย นโยบายอาจจะไม่ดี 4 เดือนต่อจากนี้อาจเกิดอะไรไม่รู้ จะทำให้พรรคประชาชนตกอยู่สภาพอิหลักอิเหลื่อ ต่อจากนี้หากนายอนุทิน ได้เป็นนายกฯ หากองค์ประชุมสภาฯ ไม่ครบ แต่พรรคประชาชนยืนยันว่าจะสนับสนุนองค์ประชุม เพื่อผ่านกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน พฤติกรรมแบบนี้คือพฤติกรรมของการเป็นฝ่ายรัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายค้าน อยู่ในสภาพที่ต้องประคับประคองรัฐบาล เราจะเชื่อได้อย่างไรว่าพรรคประชาชน จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่างหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะแบ่งเวลาอย่างไร เราจะยอมให้ผู้นำฝ่ายค้านสรุปการอภิปรายไม่ไหววางใจได้อย่างไร ในเมื่อท่านเป็นผู้ร่วมเลือกรัฐบาลนี้มา

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ฉะนั้น พรรคประชาชนจึงไม่สามารถทำหน้าที่ถ่วงดุลรัฐบาลได้ ไม่สามารถอยู่ในสถานะที่ทัดทานได้ รัฐบาลออกนโยบายอะไรมา ไม่สามารถคัดค้านได้ นายอนุทินขาดคุณสมบัติเนื่องจากมีบารมีมากไป หรือเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอานุภาพมาก ขนาดยังไม่ได้เป็นนายกฯ คนก็คาดการณ์ว่าจะได้เป็นนายกฯ การรถไฟแห่งประเทศไทยยังขอเลื่อนการร้องทุกข์คดีเขากระโดงออกไปอย่างไม่มีกำหนด ด้วยเหตุผลว่ารอรัฐมนตรีคนใหม่เสียก่อน หากเป็นอย่างนี้ภาพพจน์นักการเมืองที่เสียหายตกต่ำอยู่แล้วก็จะยิ่งตกต่ำต่อไป เป็นปัญหาของประเทศและระบอบประชาธิปไตย

"คนในพรรคท่านจะได้เป็นรัฐมนตรี จะมีบารมีมาก และมีบารมีย้อนหลัง เคยแต่งตั้งใครเป็นข้าราชการระดับ 10 ไว้คนนั้นไปสมัครองค์กรอิสระหรือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถเอาชนะนักกฎหมายชั้นนำของประเทศได้ บารมีเช่นนี้น่าเป็นห่วง หากใช้มากๆ จะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่พรรคของท่านไปพัวพันกับคดีฮั้ว สว.เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบารมีของท่านจะทำให้คนผิดลอยนวลในคดีฮั้ว สว.ซึ่ง สว.มีอำนาจในการเลือกองค์กรอิสระ เราจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นเช่นนี้หรือ หากนายอนุทินเป็นนายกฯ มีความเสี่ยงมากว่าบ้านเมืองจะพัฒนาไปเป็นเช่นนี้" นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้พรรคประชาชน เสียงแข็งให้ยุบสภาทันที แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นให้เวลา 4 เดือน เพื่อทำประชามตินำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดย สสร.ที่ผ่านมามีการพิจารณากฎหมายประชามติโดยพรรคภูมิใจไทย ที่เห็นไม่ตรงต้องการให้กฎหมายประชามติมีผลไปในทางขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับ สว.หาก สว.ได้อำนาจเต็มที่โดยบารมีหรือของวิเศษจะเดินไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญได้อย่างไรหากลงมติในสภาแล้ว สว.ไม่โหวตให้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาคือระบบองค์กรอิสระ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะถูกครอบงำโดยอำนาจพิเศษ ซึ่งเป็นสิ่งตรงข้ามกับที่พรรคประชาชนเสนอต่อประชาชน

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า ตอนที่พรรคเพื่อไทยข้ามขั้ว ตนเคยวิจารณ์ไว้ว่าการข้ามขั้วจะนำไปสู่ความอ่อนแอของประชาธิปไตยซึ่งเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้พรรคเพื่อไทย อย่าว่าแต่เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายอนุรักษ์ จะขอไปเป็นฝ่ายอนุรักษ์เขาคงไม่รับแล้ว จึงต้องมาปรับตัว พรรคเพื่อไทยถ้าเป็นฝ่ายค้านก็มาเจอกับพรรคประชาชา อาจจะได้ร่วมมือกับพรรคประชาชน ในฐานะพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน แต่กลับพบว่าพรรคประชาชนข้ามขั้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่มาก

"พรรคประชาชนที่พูดมาตลอดว่ามีลุงไม่มีเรา ต้องประชาธิปไตย 4 เดือนต่อไปนี้การตรวจสอบรัฐบาลจะไม่เข้มแข็งนโยบายจะออกมาผิดที่ผิดทาง พรรคฝ่ายค้าน มีพรรคประชาชนที่ครึ่งๆ กลางๆ ทำให้ตรวจสอบรัฐบาลอ่อนแอ ผลที่ตามมาอาจเกิดการแทรกแซง ทำให้ระบบนี้ถูกครอบงำไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างมั่นคง การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน จากนี้จึงเป็นระยะเวลาที่พรรคประชาชนจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับฝ่ายอนุรักษ์ มวลชนของพรรคประชาชนจะรู้สึกอย่างไรหากพรรคของท่านได้กลายเป็นพรรคที่ข้ามขั้ว สนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมอย่างเต็มตัว" นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า หากให้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ ปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เพราะท่านจะตั้ง ครม.แถลงนโยบาย คล้ายกันกับยุค นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำไว้เมื่อปี 2535 เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ สุดท้ายมีการยุบสภาภายใน 20 วัน ซึ่งนายชัยเกษมจะยุบสภาได้เร็วกว่านั้น ความเสียหายที่จะเกิดต่อระบอบประชาธิปไตยจะไม่เกิดขึ้นเหมือนกับที่จะเกิดขึ้นหากนายอนุทินเป็นนายกฯ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top