‘หมอวรงค์-สมชัย’ฟันธงหนีชัวร์
‘แม้ว’ระรื่นที่ดูไบ
เจ้าตัวยืนกรานกลับไทยแน่
ยัวะอัดจนท.ตม.เตะถ่วงเวลา
พลาดเป้าไม่ได้แวะ‘สิงคโปร์’
พท.ปัดพัลวันพรรคไม่เกี่ยว
เทวดา “แม้ว” บอกถึง “ดูไบ” แล้ว แจงตม.ไทยถ่วงเวลาทำ Private Jet พลาดเป้าลงสิงคโปร์ ยันกลับไทยขึ้นศาลคดีชั้น 14 แน่วันที่ 9 กันยายน ด้าน
อดีตกกต.สมชัย-หมอวรงค์ ฟันธงหนีชัวร์ ขณะที่ “เพื่อไทย” ปัดแม้วไปนอกไม่เกี่ยวกับพรรค
เมื่อเวลา 02.40 น. วันที่ 5 กันยายน 2568 นายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย โพสต์ X หลังเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัวลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ว่า “วันนี้ผมตั้งใจเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อไปตรวจสุขภาพ กับหมอที่เคยดูแลระหว่างอยู่ต่างประเทศ ตม.ที่ไทย ถ่วงเวลาผมไว้เกือบ 2ชั่วโมง ทั้งๆ ที่ผมได้ชนะคดี ที่ถูกห้ามออกเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว มีสิทธิเดินทางเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป”
ระหว่างเส้นทางบิน นักบินแจ้งว่า การที่โดน ตม.ถ่วงเวลาผมไว้นาน ทำให้เครื่องจะไปลงสนามบิน Seletar ซึ่งใช้สำหรับเครื่อง Private Jet ลงที่สิงคโปร์ไม่ทัน เพราะสนามบินเปิดให้บริการ ถึงแค่ 4ทุ่ม เท่านั้น (เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1ชม.)
เมื่อไม่สามารถไปลงที่สิงคโปร์ได้ ผมจึงตัดสินใจให้นักบินเปลี่ยนแผนไปลงดูไบ เพราะที่ดูไบผมมีหมอกระดูก และหมอปอดที่ผมใช้ประจำมานาน และยังมีโอกาสได้เยี่ยมเพื่อนที่ดูไบ ซึ่งไม่ได้เจอกันมา 2ปีกว่าแล้วระหว่างรอขออนุญาตจากสนามบินดูไบ นักบินต้องบินวนรออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับอนุญาตจึงได้หันหัวบินต่อไปยังดูไบ ผมตั้งใจจะกลับไปไทยไม่เกินวันที่ 8 เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง วันที่ 9 กันยายนนี้ ครับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ใช้เวลาเดินทางครั้งนี้ 7 ชั่วโมง 23 นาที โดยถือเป็นการเดินทางไปยังดูไบ ในรอบ 2 ปี หลังจากกลับมาถึงประเทศไทย
เปิดชื่อ5ผู้โดยสารร่วมทางแม้ว
จากกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวจากสนามบินดอนเมือง ในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 4 ก.ย. โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ ตม.ว่ามีจุดหมายปลายทางที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อไปพบแพทย์ และทำธุระส่วนตัว จะเดินทางกลับประเทศไทยภายใน 2 วัน แต่เมื่อเครื่องบินลำดังกล่าวบินเข้าน่านฟ้ามาเลเซีย กลับหักหัวบินข้ามแหลมมลายูผ่านช่องแคบมะละกาออกไปทางทะเลอันดามัน มหาสมุทรอินเดีย และมุ่งไปที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เปิดเผยชื่อผู้โดยสารบนเครื่องบินลำดังกล่าวจำนวน 5 คน ตามที่ได้รับการยืนยันข้อมูลจากแหล่งข่าวในท่าอากาศยานดอนเมือง ดังนี้ 1. SIMALA CHARATPHAEO 2. TAWATCHAI KLEBMEK 3. PRATUEANG MONCHAIPUM 4. THAKSIN SHINAWATRA 5. KAEWJAI SINGTHONG
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า TAWATCHAI KLEBMEK หรือ ร.ท.ธวัชชัย กลีบเมฆ เป็นอดีตนายทหารหน่วยซีลแห่งกองทัพเรือ ผู้ทำหน้าที่อารักขานายทักษิณมายาวนานกว่า 20 ปี ทั้งช่วงเป็นนายกรัฐมนตรีและตลอดเวลา 17 ปีที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ
ส่วน SIMALA CHARATPHAEO หรือ สิมลา จรัสแผ้ว ในฐานข้อมูลออนไลน์ระบุมีคนชื่อนี้ทำงานอยู่ที่บริษัทเอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset
ขณะที่ PRATUEANG MONCHAIPUM หรือ ประเทือง มอญชัยภูมิ ข้อมูลในเฟซบุ๊กเคยลงภาพถ่ายคู่กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร วันที่ 19 สิงหาคม 2567 หลังวันเข้ารับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี วันที่ 18 สิงหาคม 2567
บิ๊กอ้วนไม่รู้แม้วจะกลับหรือไม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฎิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ เดินทางออกนอกประเทศว่า นายทักษิณได้แจ้งว่าจะไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการติดตามเรดาร์พบว่านายทักษิณไปที่ดูไบแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้นายทักษิณได้ชี้แจงในเพจของนายทักษิณเรียบร้อยแล้ว เป็นเรื่องของท่าน ตนไม่อาจไปรู้กว้างขวางอย่างนั้นได้
เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าในวันที่ 9 ก.ย.นายทักษิณ จะเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเองหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำคำเดิมว่าให้ไปอ่านเพจของนายทักษิณ
อ้าง‘แม้ว’ไม่เกี่ยวเพื่อไทย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รักษาการ เลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงขวัญกำลังใจของสส.พรรคเพื่อไทย หลังจากที่นายทักษิณ เดินทางออกจากประเทศไทย โดยนายสรวงศ์หัวเราะพร้อมกับกล่าวว่า อย่างแรกนายทักษิณไม่ได้เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย การเดินทางของท่านเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งเมื่อวานนี้ตนเองก็รับโทรศัพท์สายไหม้เหมือนกัน แต่ยืนยันว่า ทางพรรคไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง นายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศไม่ได้ผิดกฎหมาย
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นแกนนำพรรคเชื่อมั่นหรือไม่ว่านายทักษิณจะเดินทางกลับประเทศไทย นายสรวงศ์กล่าวว่า ขอพูดตรงๆ ไม่ทราบจริงๆ ด้วยความสัตย์จริง แต่ทั้งหมดทั้งมวลอย่างที่เรียนให้ทราบยืนยันเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ท่านจะไปไหนมาไหน อย่างที่เมื่อวานสื่อมวลชนก็โทรมาถามว่า เกิดอะไรขึ้นตนในฐานะที่เคยถูกปฏิวัติมาก่อนและถูกมีรายชื่ออยู่ในตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ที่ห้ามออกนอกประเทศบางทีระบบยังไม่ได้รื้อออก หรือลบชื่อออก เวลานำพาสปอร์ตไปแตะก็จะขึ้นว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ แต่จริงๆ แล้วทั้งหมดทั้งมวลถูกเคลียร์หมดแล้ว ด้วยความขัดเจนไม่ทราบจริงๆ และไม่มีเหตุผลใดที่ท่านจะไม่
ในประเด็นดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวตัดบทว่า “ไม่ทราบ”
คงไปตั้งวอร์รูมที่เมืองนอก
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศว่า ก็ติดตามข่าวอยู่ตกลงไปสิงคโปร์หรือดูไบ ผู้สื่อข่าวกล่าวตอบว่า ไปดูไบ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตกลงไปซื้อช็อกโกแลตที่ดูไบ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า ไปหาหมอ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนเห็นว่าตั้งแต่กลับมาประเทศไทยก็อ้างหมอตลอด วันนี้จะออกจากประเทศก็อ้างหมอ ตนดูแล้วคงไม่เป็นความจริง น่าจะเป็นประเด็นการเมือง เพราะวันนี้มีการโหวตนายกฯ ก็เลยคิดว่าดูแล้วไม่น่าจะประสบความสำเร็จตามคาด เพื่อความปลอดภัยจึงไปดูสถานการณ์นอกประเทศดีกว่า
เมื่อถามว่า คิดว่านายทักษิณจะกลับมาทันวันที่ 9 ก.ย. ที่ศาลฎีกานัดฟังคำสั่ง คดีบังคับโทษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ก็ดูแล้วกัน ตนว่าถามสื่อมวลชนดีกว่า เพราะน่าจะรู้ดีว่านายทักษิณจะกลับหรือไม่กลับ
เมื่อถามว่า ส่วนตัวคิดว่ามีแนวโน้มน่าจะกลับหรือความเสี่ยงที่ไม่กลับมากกว่ากัน นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตนไม่ขอพูดประเด็นนี้ เพราะเป็นการคาดเดา ขอติดตามดูแล้วกัน
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ และหัวหน้าพรรค มีความเห็นกรณีนายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ให้ความเห็นอะไร เพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญ วันนี้เรื่องที่สำคัญ คือเราต้องโหวตนายกฯ คนใหม่ เดินหน้าทำงานตามข้อตกลงที่มีกับพรรคประชาชนรวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆของประเทศในช่วงนี้ที่อยากให้คลี่คลาย เช่นปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหาเศรษฐกิจที่กระทบกับประชาชน เรื่องนี้เป็นเรื่องหลักๆ ที่เราต้องเร่งแก้ รวมถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไปเข้มข้นแน่นอน
“ชาญชัย” แนะกลับมารับกรรม
ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ได้เดินทางมายื่นคำร้อง ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (อม.)ออกข้อกำหนดห้าม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางออกนอกราชอาณาจักรจนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา หรือคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี ก่อนไปรักษาตัวนอกเรือนจำที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
โดยนาชชาญชัยระบุว่าแม้นายทักษิณจะเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วก็มีความห่วงใย เนื่องจากตนเองได้ยื่นคำร้องขอให้มีการพิจารณาบังคับโทษคดีชั้น 14 ว่านายทักษิณได้ถูกจำคุกจริงหรือไม่ แม้ศาลฎีกาจะยกคำร้องโดยให้เหตุผลว่า ตนนั้นไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย แต่ก็นำพยานหลักฐานที่ตนเองได้ยื่นไปมาพิจารณา ซึ่งวันที่ 9 กันยายน จะมีการพิพากษาตัดสินคดีนี้ จึงมีความห่วงใยและข้อเสนอแนะฝากถึงนายทักษิณให้กลับมารับฟังคำพิพากษาของศาลฯ แม้จะถูกพิพากษาจำคุก1 ปีก็ไม่คุ้มกับการที่ทำให้ประเทศเสียหาย แต่ยอมรับว่าการที่นายทักษิณเดินทางออกนอกประเทศสามารถทำได้ เนื่องจากศาลอาญาพิพากษายกฟ้องคดี มาตรา112 และไม่ได้ขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ รวมทั้งไม่มีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ก็สามารถทำได้
ส่วนตัวแม้ก่อนหน้านี้เคยยื่นคำร้อง แล้วศาลฎีกา มีคำสั่งยกคำร้องไปหลายครั้ง และหากวันนี้จะถูกศาลฎีกายกคำร้องอีด ก็ไม่ได้กลัวหน้าแตกเพราะก่อนหน้านี้ศาลได้นำพยานหลักฐานของตนไปพิจารณาด้วย
เมื่อถามว่าที่มายื่นร้องในวันนี้มีอคติส่วนตัวกับนายทักษิณหรือไม่นั้น ตนขอยืนยันว่ามาทำหน้าที่ในฐานะคนไทยเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อให้กระบวนการถูกทำลาย แต่ส่วนตัวไม่ขอออกความคิดเห็นว่านายทักษิณจะกลับมาหรือไม่ แต่อยากให้กลับมาใช้กรรมในสิ่งที่เคยทำกับประเทศไทยไว้.
“สมชาย”ไม่ชื่อแม้วกลับ
นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กหลังนายทักษิณ ขึ้นเครื่องบินส่วนตัวไปนครดูไบว่า วันที่ ใครเชื่อ? ผมไม่เชื่อ 1)ทำไมทักษิณต้องอ้างจะบินไปตรวจโรคที่สิงคโปร์ ทั้งที่ไทยมีแพทย์เก่งๆมากมาย ทั้งที่ทักษิณเคยให้อดีตแพทย์รพตำรวจ เคยผ่าตัดแก้นิ้วล้อคและผ่าตัดไหล่ให้จนหายดี ส่วนอาการป่วยอื่นแพทย์ให้การในศาล ว่า บางโรคหายดีแล้ว บางโรคแค่กินยารักษาตามอาการ บางโรคคนไข้ปฏิเสธการรักษา ฯลฯ จึงต้องสงสัยว่า เหตุใดนายทักษิณไม่ให้แพทย์รพพระรามเก้า ที่ครอบครัวเป็นหุ้นส่วนเจ้าของ หรือ ให้แพทย์รพ ตำรวจที่เคยตรวจรักษา ทั้งที่ทำได้ง่ายกว่ามาก
2)ข้ออ้างว่า สนามบินสิงคโปร์ปิดเวลา4ทุ่ม ลงจอดไม่ได้ ฟังไม่ขึ้นเพราะสนามบินสิงคโปร์เปิดให้บริการ24ชั่วโมง ก่อนขึ้นบินนักบินต้องแจ้งและผุ้ว่าสนามบินพร้อมเปิดให้เครื่องลงจอดหรือไม่ ถ้าปิดต้องปรับแผนสนามบินสำรองก่อนขึ้นบิน
3)การเปลี่ยนเส้นทางบินไป ดูไบ สหรัฐอาหรับอามิเรต ซึ่งต้องบินไกลถึง4,910กม บินเพิ่มขึ้นอีก3-4เท่า โดยบินอ้อมมาเลเซียก่อนบินวกกลับขึ้นไปทางอินเดีย เป็นการบินเพิ่มขึ้นอีกกว่าพันกิโลเมตร เป็นตรรกะประหลาด ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
4)การมีคณะผู้ร่วมเดินทางประกอบด้วย บอดี้การ์ด เลขาและแม่บ้านแม่ครัว น่าจะมีเหตุผลอื่นอยู่ยาวมากกว่า การไปแค่พบแพทย์ระยะสั้นมั้ย
5) วันที่9กันยายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง จะนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ บค1/2568 เพื่อพิพากษาว่า นายทักษิณ ที่ได้รับหมายขังหลังคดีมีคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้วรวม8ปี และได้ขอรับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ1ปี แต่ออกจากเรือนจำในคืนวันแรกที่เข้า(22สค2566) โดยไปอยู่ที่ห้องพักvvip รพตำรวจ ชั้น14 ตลอด180 วัน ไม่ได้กลับเข้าเรือนจำเลยแม้แต่วันเดียว จนได้รับการพักโทษนั้น ได้รับการบังคับโทษแล้วจริงหรือไม่ หากศาลมีคำพิพากษาให้บังคับโทษ ต้องกลับไปรับโทษในเรือนจำอีก นายทักษิณกล้าจะกลับไทยมาฟังคำพิพากษา ในวันที่ 8 ก.ย จริงหรือ สังคมไทยคงได้รู้กันครับว่า ใครโกหก
"หมอวรงค์" ทุบเปรี้ยง! หนีชัวร์
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก “วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom” ระบุว่า...#การหนีครั้งสุดท้ายของทักษิณ การต่อสู้ของนายทักษิณ ซึ่งเป็นคนไม่สนใจถูกผิด ขอให้ตนเองชนะ โดยไม่มีสำนึกของความชั่วดี ความถูกต้อง มีลักษณะตลบตะแลง แค่ดูเกมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อฝ่ายตนเองจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ให้ชิงยุบสภา ทั้งๆที่รักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น กฤษฎีกาบอกแล้วว่ายุบสภาไม่ได้
เมื่อการทูลเกล้ายุบสภาถูกตีกลับ ก็ยังกล้าจัดโปรโมชั่น ให้นายชัยเกษมแถลงว่าเลือกเขาเป็นนายกเสร็จ จะยุบสภาทันที แค่นี่ยิ่งกว่าเด็กอยากได้ของ สุดท้ายเมื่อตนเอง ไม่สามารถคุมอำนาจรัฐได้ ก็ถือโอกาสอ้างเดินทาง ไปตรวจสุขภาพที่สิงคโปร์ แต่เส้นทางการบิน ก็ไปจบที่ดูไบ
จุดที่ตลกสิ้นดี ทักษิณ ยังกล้าโพสต์ลงโซเชียลว่าถูก ตม.ไทย ถ่วงเวลา บินไปลงสิงคโปร์ไม่ทัน จึงปรับทิศทางไปดูไบ แถมยังตบท้ายว่า ตั้งใจจะกลับไทยไม่เกินวันที่ 8 กันยายน เพื่อไปศาลด้วยตนเองวันที่ 9 กันยายนนี้ นี่คือพฤติกรรมนักการเมือง อย่างนายทักษิณ ที่ไม่มีความจริงใจต่อชาติบ้านเมือง ต่อให้มีลูกเล่นแพรวพราว คนตามไม่ทัน ชีวิตสุดท้ายก็ต้องหนีอีกรอบ พฤติกรรมแบบนี้ จุดจบแบบนี้น่าจะเป็น อุทาหรณ์ให้นักการเมืองที่คิดไม่ดีต่อชาติ ต่อสภาบัน ได้เรียนรู้เป็นบทเรียนว่าอยากจะจบชีวิตแบบนายทักษิณหรือไม่
ผมเชื่อว่าการหนีครั้งนี้ของทักษิณ น่าจะเป็นการหนีครั้งสุดท้าย และจะไม่มีโอกาสได้หนีอีก เพราะคิดว่าการที่เขาบอกว่า จะมาขึ้นศาลด้วยตนเองในวันที่ 9 กันยายนนี้ ไม่คิดว่าเขาจะกลับมาตามนั้น
ถอดเกราะหนีเอาตัวรอด
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (อดีต กกต.) โพสต์ข้อความต่อเนื่องผ่านเฟซบุ๊ก “ปั่นไปไหน – สมชัย ศรีสุทธิยากร” กรณีนายทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศไปยังดูไบ อ้างว่าเพื่อรักษาอาการป่วย ระบุว่า...เสียดาย ปั่นมาไม่ทันส่ง 5 กันยายน 2568 การเลือกนายก ฝั่งเพื่อไทย อาจจะระส่ำยิ่งกว่าเดิม ผู้นำจิตวิญญาณเผ่นไปเสียแล้ว เปรียบเสมือนแม่ทัพทิ้งหอกถอดเกราะหนีเอาตัวรอด ไพร่พล ย่อมขาดกำลังใจในการรบ ดีไม่ดี อาจพร้อมใจวางอาวุธ ยกธงขาวตั้งแต่ยังไม่รบ ถึงดูไบ 02.30 น. เดินทาง 6 ชั่วโมง 22 นาที จะไปหาหมอที ลำบากกับชีวิตเหลือเกิน ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกัน ดูแลสุขภาพด้วยครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี