ผู้ชนะในความรู้สึก! ฉายภาพการเมือง โชคดี'บิ๊กตู่'ไม่กลับมาท่ามกลาง'สภาสวนสัตว์'
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2568 นายปฏิพล อภิญญาณกุล นักเขียนชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ในขณะที่สิ่งมีชีวิตในสภาฯ .. กำลังยื้อแย่ง กัดแข้ง กัดขา ฟัดกันจนขนหางปลิวว่อน เพื่อแย่งตำแหน่งนายกฯ และตำแหน่งรัฐมนตรี
นับว่า พลเอก ประยุทธ์ ได้หลุดจากวงจรอุบาทว์ อย่างโชคช่วย .
การแพ้เลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2566 ของลุงตู่ . เป็นการแพ้เพื่อชนะ แพ้เลือกตั้งก็จริง แต่ต่อมาเมื่อวงจรอุบาทว์ของนักการเมืองเผยโฉมหน้า .. กลับทำให้พลเอก.ประยุทธ์ กลายเป็น "ผู้ชนะในความรู้สึก"
○ ชนะด้วยความคิดถึง ชนะด้วยความจริงใจ และชนะด้วยผลงาน
เดี๋ยวก็มีพวกด้อมชนิดหนึ่ง เข้ามาถาม ไหนล่ะผลงานอะไร ? ใจเย็น ๆ ครับ . เดี๋ยวบอกให้ฟัง
ก่อนหน้านี้ มีประชากรชาวโซเซียลมากมาย อยากให้ลุงตู่กลับมา
ผมสงวนปากสงวนคำไม่เขียน ไม่พิมพ์ เพราะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้แสดงทักษะขวางทางน้ำ
ด้วยว่า ถ้าสมมติพลเอก.ประยุทธ์ กลับมา ในสภาพที่ไม่สามารถกุมเสียงได้เกินครึ่ง มันเป็นการเสี่ยงที่กลับมาเพื่อถูกทำลาย .
○ ใครจะทำงานท่ามกลางเสียงด่า และวางตะปูเรือใบได้ตลอดเวลา
โชคดีจริง ๆ ที่ลุงตู่ไม่ได้กลับมา ท่ามกลาง "สภาสวนสัตว์" ชุดนี้
กลับมาชั่วคราว 5-6 เดือน อย่ามาเลยครับ
ถ้าจะมาต้องอยู่ 3-4 ปี ถึงน่ามา
...
ยาวนิดนะครับ .. เพราะถ้าเขียนสรุปสั้น ก็จะมีพวกด้อมบางส่วน จะถามคำถามที่โง่เง่า เพื่อทำลายความรู้สึก
เช่นชอบถามว่า ไหนละหลักฐาน . เผด็จการนิ จะทำอะไรก็ได้ซิ , โถ!ทหารบ้าอำนาจ ฯลฯ
เอาละค่อย ๆ อ่าน .. ค่อย ๆ คิดนะครับ มันเป็นการย้อนเวลาไปนิดหน่อย
...
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนานถึง 8 ปี (จริง ๆ คือ 8 ปี 11 เดือน) - ขอเขียนสั้น ๆ ว่า 8 ปี ก็แล้วกัน
เป็น 8 ปี ที่แบ่งเป็น 2 ภาค ในตำแหน่งเดิม . เหมือนหนังซีรี่ย์ที่มีภาค 1 และภาค 2
แม้นสิ่งที่พลเอก.ประยุทธ์ ทำในตอนนั้น ไม่อาจถูกใจใครทั้งหมด แต่ก็เพื่อประโยชน์กับคนไทยทุก ๆ คน
จะเห็นผลมากหรือเห็นผลน้อย ก็ขึ้นอยู่คนที่ได้ประโยชน์ ซึ่งสัมผัสมันได้ , ส่วนคนที่ไม่ได้ผลประโยชน์ก็ไม่เปิดรับมัน
...
ภาคแรก .
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี จากการรัฐประหารในปี 2557 ในนามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ท่ามกลางเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นสงครามกลางเมือง ของ 2 กลุ่มหลัก คือ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มคนเสื้อแดง ในชื่อสวยหรูว่า แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ
- โดยเบื้องหลังมีพรรคเพื่อไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กุมอำนาจ อาศัยอำนาจนั้นเตรียมออกกฎหมายนิรโทษกรรม
กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มกกปส ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำคนอื่น ๆ
- เกิดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ มีประชาชนจำนวนมาก มากจนคาดไม่ถึง
(โดยเฉพาะในวันที่ 22 ธันวาคม 2556 ประเมินกันว่า มีประชาชนทั่วประเทศเดินทางเข้ากรุงเทพ มาร่วมชุมชุมกันประมาณ 3.5 ล้านคน)
การรัฐประหารเพื่อระงับเหตุในครั้งนี้ ทำให้พลเอกประยุทธ์ ถูกมองเป็นเผด็จการทหาร
เวลานั้น สหรัฐอเมริกา และ อียู ได้ออกมาตำหนิ กดดัน ไม่ยอมรับประเทศไทย
รวมถึงระงับความตกลงความร่วมมือและหุ้นส่วนระหว่างอียูกับไทย (Partnership and Cooperation Agreement - PCA)
แต่นั้นเป็นเพียง "กระบวนท่าชั่วคราว" ของสหรัฐกับเท่านั้น
เพราะไทยยังสามารถค้าขายแลกเปลี่ยนในกลุ่มอาเซียน จีน อินเดีย และอื่น ๆ ,
มันจึงเป็นกระบวนท่าที่แสดงออกเพื่อให้ฝ่ายไทย โน้มตัวเข้าหาสหรัฐ ..
การรัฐประหารปี 2557 แม้นจะเป็นจุดด่างของประวัติศาสตร์ไทย ..
แต่ประเทศไทยก็มีจุดด่างนี้มาโดยตลอด มิใช่หรือ ?
และอย่ามองเพียงว่าเป็นจุดด่างดำเท่านั้น อีกมุมหนึ่งมันยังเป็นจุดขาว จุดสว่างที่ดี
☆ สายตาคนเรามักจะเลือกมองเฉพาะสิ่งที่ชอบ โดยมองข้ามในสิ่งที่จริง ..
การรัฐประหารของพลเอก.ประยุทธ์ ส่งผลให้เกิด "การสลายกลุ่มขัดแย้งให้ออกจากถนน" แม้จะมีคนออกมาต่อต้านประปรายบ้างแต่ก็เข้าระงับเหตุได้
☆ จุดสำคัญหลัก ที่จะบอกก็คือ ไม่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น
ทั้ง ๆ ในเวลานั้นสถานการณ์สุกงอม หลายฝ่ายเตรียมรับมือ ประชาชนเตรียมลุกขึ้นต่อสู้กันแล้ว
☆ ถ้าไม่มีการระงับเหตุด้วยการยึดอำนาจ กรุงเทพมหานครอาจจะเป็นเมืองแห่งเพลิงความโกรธแค้น
จากนั้นก็เข้าสู่ยุครัฐบาล คสช. โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในภาคแรก
....
บทบาทของนายกรัฐมนตรีในภาคแรก ยังไม่ใช่ภาคนักการเมือง
เราจึงเห็นท่าทีอันแข็งกร้าวของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องควบคุมสถานการณ์ความขัดแย้งต่าง ๆ ให้ออกจากถนน ให้เกิดน้อยลงให้ได้
ภาพใบหน้าขึงขัง เสียงห้วน ๆ ขมวดคิ้ว และดุ ๆ เกิดขึ้นในภาคแรกนี้ อยู่เป็นนิจ
ผลงานใน 4 ปีภาคแรกนี้ กล่าวได้ว่าเป็นผลงานในยุค คสช. มีคร่าว ๆ คือ
- ทวงคืนผืนป่าชุมชน จากนายทุนและคนอื่น ๆ บุกรุก เอากลับคืนมา , ในปี 2559 สามารถทวงคืนได้ 1.4 แสนไร่ , ในปี 2560 ได้คืนมา 1.07 แสนไร่
- มีการจัดระเบียบสังคมเกิดขึ้น ห้ามแผงลอยร้านค้าริมทาง รุกล้ำที่สาธารณะ , ตามชายหาดริมทะเล ห้ามมีเก้าอี้เช่า เสื่อเช่า หรือร้านค้าริมชายหาด
- แก้ปัญหาการประมงของไทยที่ทำผิดกฎหมาย ตอนนั้นไทยได้รับใบเหลืองจากอียู พร้อม ๆ กับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์
- แก้ปัญหาข้าวที่ค้างสต๊อกมาจากรัฐบาลเดิม (รัฐบาลยิ่งลักษณ์) ซึ่งค้างอยู่ประมาณ 17.76 ล้านตัน
- เริ่มต้นลงทุนเมกะโปรเจก คือ โครงการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (ECC) / พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาท่าเรือ แหลมฉบัง ระยะที่ 3 / โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุด ระยะที่ 3
- ตอนนั้น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ติดธงแดงให้ประเทศไทย ด้วยเหตุผลว่าไม่มีความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน
รัฐบาลคสช. จึงต้องออกมาตรการเข้มงวดแก้ปัญหา จนสามารถปลดธงแดงออกได้
ในภาคแรกเอาคร่าว ๆ แค่นี้ก่อน ไม่งั้นยาวไป
ข้ามมาในภาคที่ 2
ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งในปี 2562
....
ภาคที่ 2
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มต้นบทบาทของ "นักการเมือง" เริ่มมีลีลาคำพูดลูกเล่นที่ตลกขึ้นมาบ้าง
ระยะต้น ๆ คนยังไม่เคยชิน จึงกลายเป็นมุขที่ฝืด
ด้วยคนไทยและนักข่าวคุ้นเคยกับสีหน้านิ่ง ๆ คุ้นเคยกับน้ำเสียงไม่หวานหู จากในยุครัฐบาล คสช. อยู่เดิมมาก่อน
สีหน้าแววตาของลุงตู่ในภาคนักการเมือง มีการปรับประกายตาให้อ่อนลง แววตาขี้เล่นขึ้น
การตอบคำถามชี้แจงในสภาฯ ใหม่ ๆ ก็กระตุกกระตัก . จนคนกลัวจะกลายเป็นหมูในสนามสภา
แต่ไม่ใช่หมู ดังที่คิด
พลเอกประยุทธ์ เริ่มคล่องแคล่วในลีลาการโต้ตอบขึ้นมาได้ เพราะถูกฝ่ายค้านอันมีพรรคอนาคตใหม่ (เป็นก้าวไกลในเวลาต่อมา ปัจจุบันคือ พรรคประชาชน) บีบบังคับให้ต้องพูดในสภา
☆ คนบางคน ยิ่งถูกบีบ ยิ่งไล่ต้อน ยิ่งกดดัน จะยิ่งเตรียมตัวเตรียมข้อมูลให้พร้อม
จนถึงก้าวข้ามขั้นจากมือกระบี่สามัญ มาเป็นมือกระบี่ติดอันดับในยุทธจักร
ผลงานในภาคที่ 2 นี้ เกิดจากต่อยอดจากในยุคคสช. อย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง
.. แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนจะเขียนผลงานอื่น ๆ ต้องขอเขียนถึง ผลงาน "การควบคุมโรคระบาดโควิด" อันโด่งดัง ก่อน
พลเอกประยุทธ์ ด้วยความเป็นข้าราชการเก่า .. ไม่ใช่ไม่ดี > หลายคนมักตำหนิว่า ระบบราชการนั้นไม่ดี ขั้นตอนมาก ล่าช้าโบราณ แต่กรณีการแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด ระบบราชการ กลับส่งผลดีให้เห็นชัด
มีการประชุมจากคณะกรรมการแก้ปัญหาส่วนกลาง แล้วมอบหมายลงไปในระดับภูมิภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล จนถึงหมู่บ้าน
- ซึ่งต่างล้วนเป็นบุคลากรทางราชการ ทั้งผู้ว่าฯ สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ หมอ อสม.
นี้ถ้าเป็นนักการเมืองมาบริหาร หรือนั่งเป็นนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ที่ยากจะแยกแยะตัดสินใจแบบนี้ เพราะไม่เคยมีตัวอย่างให้เห็นการแก้ปัญหามาก่อน
เชื่อทั้ง 100% เลยว่า .. นักการเมืองจะแก้ปัญหาแบบการเมือง
คือผ่านระบบตัวแทน ส.ส. หรือหัวคะแนนของแต่ละท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้ากากอนามัย หรือการติดตามผู้ป่วย การสร้างสนามเตียงฉุกเฉิน งบฉุกเฉิน /
กลุ่มตัวแทน ส.ส. หรือตัว ส.ส เอง รวมถึงหัวคะแนนเยอะแยะ จะเข้าทำหน้าที่ควบคุมฝ่ายหมอ ฝ่ายอสม. จนวุ่นวายไปหมด
อย่าคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นแน่นอน ..
เพราะมันเป็น "ช่องว่างให้เกิดโอกาสสร้างคะแนนนิยม" และ "ช่องว่างให้ใช้งบประมาณฉุกเฉินได้อย่างสะดวก"
นี้จึงนับว่าเป็นความโชคดี ที่เราไม่ได้นักการเมืองมาแก้ปัญหาวิกฤตแบบนี้
ประเทศไทย ถูกยกย่องจากประชาคมโลก ต่อการดูแลแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด จนเป็นประเทศตัวอย่างยอดเยี่ยม
...
เอาละ ตัดมาดูผลงานที่เป็นรูปธรรมต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ ปรากฎออกมาให้เห็นในสมัยที่ 2 อาทิ
- โครงการรถไฟฟ้าหลายสาย , โครงการรถไฟความเร็วสูงทางคู่ , การยกระดับคมนาคม ถนน ทางแยก , การปรับปรุงทางน้ำ ฯลฯ
ซึ่งล้วนแต่ปรับปรุงและสร้างโครงสร้างพื้นฐานเอาไว้ เพื่อให้รัฐบาลใหม่ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ต่อไป
- ผลงานบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย .. / โครงการคนละครึ่ง
โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่งนี้แหละ ที่ "พลิกโฉม" ให้คนไทยรู้จักใช้เงินในมือถือ สแกนจ่าย โดยไม่ต้องใช้เงินสด
แม่ค้าขายผักขายปลาในตลาด จากที่ไม่เคยใช้มือถืออะไร ๆ มากไปกว่าคุยกับลูก ก็เริ่มคุ้นเคยกับระบบจ่ายเงินผ่านมือถือ
อันเป็นพื้นฐานที่ทุกวันนี้ พวกเขาพวกเธอ สามารถใช้เงินสแกนซื้อลอตเตอรี่จากแอปกระเป๋าตังค์ จ่ายค่าอาหาร จ่ายค่ารถไฟ จ่ายอะไร ๆ จากมือถือเป็น
เขียนเพลินยาวไปไหม ? เดี๋ยวจะหาวก่อนอ่านจบ งั้นขอรวบรัดเรื่องเด่น ๆ ที่เหลือเลยแล้วกัน
คือ ..
มีการฟื้นความสัมพันธ์กับทางซาอุดิอาระเบีย จนนำไปสู่การขยายงาน การค้าระหว่างกัน และการลงทุนของซาอุฯที่จะเข้ามาลงทุนประเทศไทย
-มีการส่งเสริมให้เกิดการผลิตรถยนต์ พลังงาน EV , รวมถึงวางไทยให้เป็น Hub EV แห่งอาเซียน รถไฟฟ้าพลังงานใหม่ต่าง ๆ มีมากขึ้นบนท้องถนน
เกิดการขยายสถานีการชาร์จในปั้มน้ำมัน ในต่างจังหวัดมากมาย
☆ ลองดูรถไฟฟ้าบนถนนทุกวันนี้ซิครับ และดูตู้ชาร์จไฟในสถานที่ต่าง ๆ ซิครับ . มันมาจากผลงานในสมัยลุงตู่
ต้นไม้ที่ปลูกในวันวาน . และได้ออกผลในวันนี้
คนปลูกในวันวาน จะมีคนจำได้กี่คนกัน ?
...
8 ปีกว่า ๆ ของคนชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา .. เป็น 8 ปีที่ถูกชี้หน้าว่าเป็น "เผด็จการ" อยู่ตลอดเวลา
เผด็จการที่ทำงานเป็นรูปธรรมได้จริง .
ส่วนประชาธิปไตย แค่เก็บกองขี้หมา ก็ต้องยกมือเถียงกันว่า จะเป็นผลงานของใคร
ถึงถูกต่อว่าชี้หน้าว่า เป็นเผด็จการ , แต่กลับไม่มีใครกล่าวหาว่า "เป็นรัฐบาลแห่งการคอรับชั่น" ขี้โกง หรือรอเงินทอนจากโครงการต่าง ๆ ..
นับว่าเป็นรัฐบาลมือสะอาดรัฐบาลหนึ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อน ๆ ที่ผ่านมาบางรัฐบาล
สิ่งที่จะใช้ลดค่า ทำลายความน่าเชื่อถือลงได้ในทางการเมือง ก็คือคำว่า "เผด็จการ" เท่านั้น
....
ดังนั้น คำตอบของผลงาน จึงไม่ใช่คำตอบทางการเมือง
....
ความเชื่อ คือการสร้างคำพูดให้เชื่อ :
ให้เชื่อว่าเผด็จการประยุทธ์ ไม่ได้สร้างอะไรให้ประเทศไทยเลย .
มีคนจำนวนหนึ่งกล้าที่จะหลับหู หลับตา .. ใส่ไคล้ว่าเป็น 8 ปี ที่ว่างเปล่า
ถึงจะสร้างอะไรก็ตาม ก็ยังมีคนบอกว่า เผด็จการยังไงก็ไม่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเท่าประชาธิปไตย
ในโลกของความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้น
ทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยที่ "ซ่อมเพียงไม้สะพานหักแผ่นเดียว" กลับมีคุณค่ามากกว่ารถไฟฟ้าทั้งขบวน
ในวาระที่ประเทศไทยกำลังโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และแต่ละพรรคที่วุ่นวายเล่นเกมชิงอำนาจ ชิงผลประโยชน์ของฝ่ายตัวเอง
การเดินถอยฉากออกไปของอดีตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา . นับว่าท่านไม่ต้องลงมาเปื้อนโคลนนี้แล้ว
ข้อเขียนนี้ จึงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของความเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 ภาค
...
ขอขอบคุณ ผลงานต่าง ๆ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ ได้ทำไปแล้ว และได้ริเริ่มสร้างเอาไว้
เขียนบันทึกนี้ในเฟสบุ๊ก เพื่อ ..
วันหนึ่งเมื่อสิ่งที่ท่านได้ทำไว้ และมันออกดอกออกผล ผู้คนจะได้รู้ว่าใครคือผู้เริ่มต้น
ตอนนี้ท่านคงได้รับรู้กระแสสังคมแล้ว ว่าประชาชนคิดถึงท่าน
นับจากนี้คือเวลาพักผ่อนของท่าน
ขอให้ท่านปฏิบัติภารกิจในตำแหน่งองคมนตรี แบ่งเบาภาระของในหลวง อย่างมีควาสุข และสุขภาพแข็งแรง นะครับ"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี