เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา (ตำรับหมอเดชา) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก Deycha Siripatra ระบุว่า วันขอเขียนถึงว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 (คุณอนุทิน ชาญวีรกูล) สักนิดหน่อย
เป็นเรื่องเมื่อครั้งปี 2562 เมื่อคุณอนุทินฯ รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงสาธารณสุขใหม่ๆ
รมว.กระทรวงสาธารณสุขคนเก่า ได้ออกกฏกระทรวง ที่เป็นปัญหา (ทิ้งทวน) เอาไว้
คือประกาศใช้ระเบียบการแต่งตั้ง "หมอพื้นบ้าน" ขึ้นใหม่ และปลดหมอพื้นบ้านเก่าออก
แทนที่จะให้ดำรงตำแหน่งต่อจนครบวาระ (5 ปี) กลับปลดออก แล้วให้กลับมาสมัครใหม่
ผมในฐานะหมอพื้นบ้านคนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นตัวแทนฯ ขอเข้าพบคุณอนุทินฯ เพื่อปรึกษา
มีคุณปานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ และคุณรสนา โตสิตระกูล ร่วมช่วยเจรจาหาทางออกด้วย
ในที่สุด คุณอนุทินฯได้เซ็นต์เอกสารต่ออายุหมอพื้นบ้านที่เป็นอยู่เดิมให้ (ภาพบน)
มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ซ้ายสุด) และอธิบดีกรมแพทย์แผนไทยฯ (ขวาสุด) ร่วมด้วย
เสร็จงานทางการแล้ว มีการพูดคุยไม่เป็นทางการต่อ แล้วถ่ายภาพร่วมกัน (ภาพล่าง)
จำได้ว่า เป็นฝีมือการถ่ายเซลฟี่ ของคุณปานเทพฯ ในบรรยากาศที่เป็นกันเองมาก
หลังจากนั้น ผมมีเรื่องขอเข้าพบคุณอนุทินฯอีกหลายครั้ง แต่ไม่เคยไปโดยลำพังคนเดียว
ผมจะขอให้ผู้อื่นเป็นผู้นัดหมาย ขอพบที่กระทรวงฯในเวลาราชการ พร้อมกับคนที่ไปด้วย
ทุกครั้ง คุณอนุทินฯ จะนัดข้าราชการที่เกี่ยวข้อง มาร่วมปรึกษาหาทางออกร่วมกันเสมอ
เช่น ปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมแพทย์แผนไทยฯ และเลขาธิการ อ.ย. เป็นต้น
คุณอนุทินฯ เป๊นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดียิ่ง ให้เกียรติผู้เกี่ยวข้องในที่สาธารณะอยู่เสมอ
ในการประชุมครั้งหนึ่ง ผมกับคณะ ขอพบที่กระทรวงฯ มีข้าราชการเข้าร่วมด้วยหลายคน
ก่อนเริ่มประชุม คุณอนุทินฯได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมผมจึงไม่ติดต่อนัดพบโดยตรงสักครั้ง
ทั้งๆที่ให้เบอร์ติดต่อโดยตรงแล้ว แต่ผมก็ยังให้คนอื่นติดต่อแทนตลอดมา
เมื่อผมไม่ตอบว่าอะไร คุณอนุทินฯ ก็พูดต่อ (ขยายความ) อีกว่า ไม่ต้องเกรงใจมากเกินไป
เพราะเรา (คุณอนุทินฯกับผม) เป็น "กากี่นั้ง" กัน (จึงไม่ต้องเกรงใจแล้ว)
คำว่า "กากี่นั้ง" (ภาษาจีนแต้จิ๋ว) ซึ่งแปลว่า "คนกันเอง" นั้น ถือเป็นการให้เกียรติอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณ คุณอนุทินฯ เป็นอย่างสูง ที่ให้เกียรติผมด้วยคำ "กากี่นั้ง" ในที่สาธารณะ
วันนี้ คุณอนุทินฯ ได้เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีแล้ว ขอให้ทำหน้าที่ได้ดี เหมือนมนุษยสัมพันธ์
คนที่พูดแบบคุณอนุทินฯ นี้ คนไทยสมัยก่อน เรียกว่า "คนปากหวาน"
ท่านมหากวี "สุนทรภู่" เคยเขียนเอาไว้ว่า....
"อันอ้อยตาล หวานลิ้น แล้วสิ้นซาก
แต่ลมปาก หวานหู ไม่รู้หาย..."
ถึงวันนี้ "ลมปาก" ของคุณอนุทินฯ (กากี่นั้ง) ก็ยัง "หวานหู" ของผมอยู่เลย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี