เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า #ประเทศไทยต้องมาก่อน #นิติสงคราม #สามก๊ก
นายกคนที่32 นายอนุทิน ผู้นำรัฐบาลเฉพาะกิจ มีเวลาน้อยและมากด้วยข้อจำกัด
ต้องเร่งแก้ปัญหาบ้านเมือง ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง
การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่มีมีปัญหารรุมเร้า ทั้งปัญหาข้อพพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา ปัญหาความมั่นคงทางภูมิภาครัฐศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก ปัญหาเศรษฐกิจชาติ และเศรษฐิจปากท้องของพี่น้องประชาชน ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นทุกระดับชั้น เงื่อนไข ต้องทำประชามติ เพื่อล้มรัฐธรรมนูญ2560 เพื่อร่างใหม่ทั้งหมดโดยสสร ที่มาจากการเลือกตั้ง และให้ยุบสภาภายใน4เดือนข้างหน้า เป็นเงื่อนไขบังคับจากพรรคประชาชนที่มีเสียงข้างมากและพร้อมล้มรัฐบาลได้ตลอดเวลา
ปัญหาที่ถูกตั้งธงทำนิติสงครามจากพรรคเพื่อไทยตั้งแต่วันแรกและจะมีเพิ่มขึ้นอีกมากมายตามนั้นนับว่า ไม่ง่ายต่อการนำพารัฐนาวาผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจึงมีเวลาจำกัดและข้อจำกัดมากในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองยามนี้
ผมจึงมีข้อเสนอแนะบางประการ มายังท่านอนุทิน นายกรัฐมนตรีคนที่32
เพื่อเป็นประโยชน์ในการพิจารณาดังนี้ครับ
1)ควรจัดตำแหน่งรัฐมนตรีคนนอก1ใน3 หรือกึ่งหนึ่งของครม เท่ากับโควต้า จำนวน สส ที่พรรคประชาชนไม่รับตำแหน่งใดๆในรัฐบาล โดยนำบุคลากรที่มีศักยภาพ ทั้งอดีตผู้บริหารราชการแผ่นดิน ผู้บริหารองค์กรเอกชน นักวิชาการ ที่มีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต มาช่วยทำหน้าที่รัฐมนตรีในการบริหารบ้านเมืองในครมเฉพาะกิจนี้ เช่นที่นายกได้ทาบทาม บุคคล3ท่าน ที่เป็นคนนอก เข้ามาเป็น รมต ต่างประเทศ รมต คลัง รมต พลังงาน สังคมหลายภาคส่วนได้ให้การยอมรับ จึงขอเสนอให้พิจารณาบุคคลภายนอก ที่สังคมเชื่อถือ มาช่วยในครมเพิ่มอีก อาทิ รมต ยุติธรรม รมต กลาโหม รมต พาณิชย์ ฯลฯ
2)นายกรัฐมนตรีต้องคัดเลือกและตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีทุกท่านอย่างเข้มงวดก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ รวมถึงตรวจสอบบรรดารัฐมนตรีโควต้าที่มาจากทุกพรรคการเมือง มิให้ผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามโดยเฉพาะประเด็นที่อาจเป็นผู้ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และอาจประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยต้องยึดหลักตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่เคยให้2อดีตนายกพ้นตำแหน่ง มาแล้ว คือ คดี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ที่สวปัจจุบันยื่น และคดีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ผมและอดีต40สว ยื่น โดยต้องพิจารณาประกอบกับสาระของหนังสือที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่นร 0508/2564 เรื่องขอซักซ้อมแนวทางปฏิบัติในการเสนอเรื่องที่ต้องนำความกราบบังคมทูลขพระราชทานพระมหากรุณา ไม่มีข้อยกเว้นในเรื่องนี้ให้กับคุณสมบัติรัฐมนตรีคนใดได้ เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร และมีพรรคการเมืองบางพรรคและภาคสังคมที่ทำหน้าที่ตรวจสอบต่างรอยื่นดำเนินคดีอยู่แน่นอน
3)นายกฯ ต้องเป็นผู้นำปลุกจิตสำนึกความเป็นชาติ โดยยึดผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญโดยมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา สนับสนุนกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ให้มีการดำเนินนโยบายการต่างประเทศอย่างถูกต้องและมีความเป็นมืออาชีพในเวทีโลกและสหประชาชาติ รวมถึงการเร่งเจรจา JBC GBC RBC เรื่องการให้กัมพูชาถอนกำลังออกจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามแผนที่1:50,000 ให้ได้ข้อยุติในเวลาอันใกล้โดยหากเจรจาไม่มีข้อยุติต้องยกเลิก MOU43และMOU44 ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชามาแบ่งเคลมแหล่งพลังงานมูลค่ามหาศาลมากกว่า 10 ล้านล้านบาทในอ่าวไทยได้อีกต่อไป
4)รัฐบาล ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องและปัญหาความเหลื่อมล้ำของพี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน ยกเลิกโครงการแจกเงินที่สร้างภาระหนี้ประชาชาติ ปรับเปลี่ยนเป็นการเร่งพัฒนาคนและส่งเสริมเสริมศักยภาพแทน ปรับแก้กฎหมาย กฎระเบียบที่ล้าสมัย เพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจในการแข่งขันการค้าให้กับคนไทยและภาคธุรกิจไทยฯลฯ
5)รัฐบาลต้องเร่งขจัดปัญหาทุจริตคอรัปชั่นที่ฝังรากลึกและเกิดขึ้นในทุกระดับทั้งส่วนกลางและภูมิภาค อย่างจริงจัง
6)รัฐบาล ต้องเร่งสนับสนุนกระบวนการยุติธรรมให้เดินหน้า ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบี้ยว กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย บังคับใช้กับคนไทยทุกคนอย่างเสมอภาค ยึดมั่นในหลักนิติรัฐนิติธรรม
7)รัฐบาลต้องเร่งขจัดปัญหายาเสพติดทุกประเภท รวมถึงการออกกฎหมายควบคุมกัญชาที่ปล่อยปละละเลยมาจนกลายเป็นกัญชาเสรี เกิดปัญหาบานปลายขึ้นในสังคมและกระทบการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติในปัจจุบัน
เห็นใจครับว่า นายกและรัฐมนตรีชุดใหม่ ไม่มี honeymoon period หรือมีเวลามากพอเช่นรัฐบาลอื่นก่อนหน้านี้ เพราะประเทศไทยกำลังป่วยเรื้อรัง เป็นความท้าทายระดับวิกฤต (Critical Challenge) แต่เชื่อมั่นว่า ถ้ารัฐบาล สภา และประชาชนร่วมมือกัน เราจะช่วยกันพลิกฟื้นประเทศไทยได้ครับ แต่ถ้ายังปล่อยให้พรรคการเมือง กลุ่มธุรกิจการเมืองครอบงำ ยังคงทุจริตและทำกันแบบเดิมๆ
ประเทศไทย คงไม่พ้นวิกฤต“ปากเหว” กลายเป็น”failed state หรือ รัฐล้มเหลว”ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้ ครับ
จึงขอเสนอแนะมาด้วยความหวังดีจากใจครับ
ดร.สมชาย แสวงการ
อดีตสมาชิกวุฒิสภา
#รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย
7กย 2568
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี