เปิด32รายชื่อโผครม.‘อนุทิน1’

ส่งตรวจคุณสมบัติ

ยึดบรรทัดฐานศาลรธน.เข้ม

คาดสัปดาห์นี้นำขึ้นทูลเกล้าฯ

สะพัด‘สันติ’ขาดคุณสมบัติ

โผครม. “หนู 1” ใกล้สะเด็ดน้ำแล้ว “บิ๊กเล็ก”ผงาด“รมว.กลาโหม”โควตาคนนอก“ภท.”เคาะ“ศักดิ์ดา”นั่ง“มท.3” เลขาฯครม.เผย“อนุทิน”ส่งรายชื่อรมต.ตรวจคุณสมบัติครบแล้ว เร่งให้จบภายในสัปดาห์นี้ ยึดบรรทัดฐานศาลรธน.ตรวจเข้มทุกรมต. นายกฯเผยส่งรายชื่อว่าที่ครม.ตรวจประวัติครบแล้ว ลั่นใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้ แจงเหตุเลือก‘บวรศักดิ์’นั่งรองนายกฯเตรียมยกร่างรธน. รับทาบ‘ศุภจี’ นั่ง ‘รมว.พาณิชย์’ขออย่าเพิ่งระบุพุ่งเป้า หลัง ‘ธรรมนัส’ ถูกเข้มจับตา ยันไม่กดดัน มีเวลาทำงาน4เดือน บอกถนัดอยู่แล้ว แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ‘พริษฐ์’ย้ำ‘ปชน.’พร้อมทำงานสภาต่อ 3 บทบาท ‘ติดตามสัญญา ภท.-ตรวจสอบอำนาจรัฐ-ผลักดันกฎหมายก้าวหน้า’ ยันไม่ได้เป็นนั่งร้านให้ใคร ‘ภูมิธรรม’นำครม.ถกนัดสุดท้ายอำลา

เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการจัดทำโผคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีใกล้สะเด็ดน้ำแล้ว โดยเก้าอี้ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ลงตัว อย่างรมว.กลาโหม ล่าสุด ยืนยันแล้วว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ จะขยับจาก รมช.กลาโหม ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม ซึ่งถือเป็นโควตาคนนอกของพรรคภูมิใจไทย ไม่ใช่โควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ เหมือนอดีต

ส่วนตำแหน่ง รมช.กลาโหมที่ก่อนหน้านี้มีชื่อ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ในสัดส่วนโควตาพรรคพลังประชารัฐโผล่าสุดไม่ปรากฏชื่อดังกล่าวแล้วขณะที่โควตาในของกลุ่ม 8สส.พรรคเพื่อไทย ล่าสุด นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทยจะได้มานั่งในตำแหน่งรมช.มหาดไทย หรือ มท.3

‘บิ๊กเล็ก’รับถูกทาบทามนั่งรมว.กห.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีชื่ออยู่ในโผคณะรัฐมนตรี (ครม.)ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในตำแหน่งรมว.กลาโหม ว่ายอมรับว่าได้รับการติดต่อจากทางเลขานุการส่วนตัวของนายอนุทินให้ไปพบนายอนุทินในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้เพื่อหารือถึงแนวทางการทำงานว่าต้องมีการปรับอย่างไรบ้างเมื่อถามว่าพร้อมใช่หรือไม่พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าตนพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการจบภารกิจ หรือปฏิบัติหน้าที่ต่อ

เมื่อถามว่าการรับตำแหน่งครั้งนี้เป็นโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติหรือโควตาคนนอก พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่ามาในลักษณะคนนอก เมื่อถามว่าส่วนตัวอยากทำงานต่อไม่อยากเปลี่ยนมากลางศึกใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยิ้มและกล่าวว่ายังไม่มีความเห็น

มองแนวโน้มปัญหาชายแดนดีขึ้น

เมื่อถามว่า การทำงานหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการวางโรดแมป 4 ขั้นตอน สามารถปรับตามสถานการณ์และนโยบายของรัฐบาลใหม่ได้ แต่ไม่ได้มีการเผยแพร่ออกไป เนื่องจากไม่อยากให้ฝ่ายกัมพูชาทราบวิธีคิดเมื่อถามว่าจากที่ได้รับการติดต่อจะมี ตำแหน่งรมช.กลาโหมเพิ่มอีกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะได้รับการติดต่อเพียงคนเดียว

เมื่อถามว่าเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ จะทำให้สถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คิดว่าดีขึ้น เห็นจากการแสดงความยินดีของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งหากดูจากข้อความ ก็สามารถประเมินได้ว่าน่าจะดี

‘อนุทิน’ส่งรายชื่อรมต.ครบแล้ว

ด้าน นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีว่ายังไม่เสร็จ คืบหน้าไปไม่มาก ตอนนี้นายกฯส่งรายชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาทุกคนแล้ว กำลังดำเนินการตรวจอยู่ซึ่งตรวจโดย 6 หน่วยงาน เหมือนเดิมรวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย ถ้ามีปัญหา

ชี้ต้องใช้เวลารมต.ใหม่ตรวจเข้ม

ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ละหน่วยงานได้ส่งกลับมาบ้างหรือยัง นางณัฐฎ์จารีกล่าวว่า ยังเลย เขาใช้เวลา เพราะรอบนี้เป็นครม.ใหม่ทั้งคณะ เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีเก่า ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมาแล้วนางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า เพื่อความไม่มีปัญหา ก็ตรวจใหม่ทุกคน เพราะบางทีระหว่างทางอาจจะมีอะไรที่เราไม่ทราบ

เร่งตรวจสอบภายในสัปดาห์นี้

เมื่อถามว่ามีข่าวออกมาพบว่ามีบางคนคุณสมบัติไม่ผ่านแสดงว่ามีบางส่วนที่ตรวจสอบคุณสมบัติเสร็จแล้วใช่หรือไม่ นางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า ยังไม่เสร็จเลย ที่ไม่ผ่าน น่าจะเป็นในฝั่งของท่านมากกว่า แต่ฝั่งทางนี้ยังตรวจไม่เสร็จ เมื่อถามอีกว่าถ้ามีการเร่งตรวจสอบภายในสัปดาห์นี้จะสามารถตรวจสอบคุณสมบัติให้เสร็จได้หรือไม่ นางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า ตอนนี้ได้ขอความกรุณาหน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ว่าขอให้ทัน เราก็พยายามจะให้ทัน แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตน แต่ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่ตรวจสอบ

ยึดบรรทัดฐานศาลรธน.ตรวจเข้ม

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรัฐมนตรีบางคนที่เคยตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่าน ครั้งนี้มีการเสนอมาอีกมีโอกาสที่จะผ่านหรือไม่ หรือจะใช้มาตรฐานเดิม นางณัฐฎ์จารี กล่าวว่า ต้องใช้มาตรฐานเดิม บวกกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ได้คุยกับนายกฯ ได้กำชับอะไรหรือไม่ นางณัฐฎ์จารี ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว

ส่งชื่อครม.ตรวจคุณสมบัติครบแล้ว

ต่อมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้ส่งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอเป็นรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคุณสมบัติครบทุกคนแล้ว โดยยังไม่ได้ระบุตำแหน่ง ส่วน รมว.ยุติธรรมก็ส่งไปแล้ว พร้อมหัวเราะ และบอกว่า “ส่งเกินด้วย” ซึ่งคุณสมบัติของ รมว.ยุติธรรมก็ต้องเป็นคนยุติธรรม พร้อมยอมรับว่าได้ทาบทาม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์และได้เชิญมาพูดคุยที่พรรคภูมิใจไทยว่าท่านมีแนวทางดำเนินการอย่างไรเพราะวันพรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปประชุมจีบีซีที่กาะกง

ยันให้’บิ๊กเล็ก’เพื่อสานงานต่อไป

เมื่อถามภึงเหตุผลที่เลือกพล.อ.ณัฐพล นายอนุทิน กล่าวว่าเพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหม สืบเนื่องต่อไป เมื่อถามอีกว่าไม่เปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่นายอนุทินกล่าวว่ามีคำพังเพยอยู่ เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่านเพราะที่ผ่านมาเห็นท่านบ่นๆว่ามีข้อจำกัด หลายเรื่อง จึงต้องทลายข้อจำกัดก่อน จะได้ทำงานสะดวก และสิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนพลเอกณัฐพลนำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญในการประชุมวันพรุ่งนี้คือต้องหาทุกวิถีทางให้คนไทย หรือแม้กระทั่งคนกัมพูชา สามารถทำมาหากินค้าขาย ทำให้เศรษฐกิจของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ กลับมาเป็นเหมือนเดิม ส่วนการทหารก็ว่ากันไป

ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาชายแดนทุกมิติ

เมื่อถามว่าเมื่อมีคณะรัฐมนตรีแล้ว จะยกหูหา นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยตัวเองหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าจะดำเนินการทุกช่องทาง ทางการทหารก็จะไม่มีลดราวาศอก เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ เรื่องนี้ชัดเจน ส่วนเรื่องการทูตการเจรจา เพื่อหาข้อยุติให้ได้ เราก็ใช้กระทรวงการต่างประเทศ ทหารก็ทำหน้าที่ไป กระทรวงการต่างประเทศก็ทำหน้าที่ไป ใช้องคาพยพทุกด้านที่จะทำให้ความสัมพันธ์2ประเทศ สู่จุดที่เป็นปกติ เหมือนก่อนที่จะมีปัญหาความขัดแย้ง

ลั่นใครไม่ผ่านก็แต่งตั้งไม่ได้

เมื่อถามถึงเรื่องคุณสมบัติของว่าที่รัฐมนตรีหากใครไม่ผ่านจะต้องหลีกทางเลยหรือไม่นายอนุทิน หัวเราะก่อนที่จะบอกว่า ไม่ผ่าน ก็แต่งตั้งไม่ได้ เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อถามถึงกรณีที่มีการจับตาร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เป็นพิเศษ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าเพิ่งระบุว่าเป็นคนใด เราระบุชื่อไม่ได้ ต้องตรวจสอบก่อน ชื่อตนเอง ก็ต้องถูกส่งไปตรวจสอบเหมือนกัน

รับทาบ‘ศุภจี’นั่ง‘รมว.พาณิชย์’

เมื่อถามว่า ตอนนี้คนชมครม. เศรษฐกิจ นายอนุทิน กล่าวย้อนถามว่า แล้วชมคนตั้งด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ยอมรับว่าได้มีการทาบทาม นางศุภจี สุธรรมพันธ์ นั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ เนื่องจากเข้ามาในช่วงสุดท้าย เพิ่งส่งรายชื่อไปต้องรอการตรวจสอบ

ยึดหลักเลือกคนทำได้เร็วทำได้เลย

เมื่อถามว่าอายุไขรัฐบาล มีเพียง4เดือนจะยึดหลักอะไร ในการเลือกคนที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี นายอนุทินกล่าวว่า ทำได้เร็วทำได้เลย ถึงต้องเลือกคนที่มีประสบการณ์ และจะสังเกตได้ว่าตนไม่ได้เชิญคนที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่ได้เป็นนักการเมืองอาชีพ เข้ามาหลายตำแหน่ง แต่ต้องผสมทางการเมืองด้วย เพราะ การเกิดขึ้นของรัฐบาลนี้ก็เกิดจากพรรคการเมืองเพราะเราชัดเจนว่าเข้ามา4เดือนยุบสภา ดังนั้นต้องตอบโจทย์ทางการเมืองด้วยเช่นกัน พยายามหาคนที่มีความรู้ความสามารถ เฉพาะด้านให้มากที่สุด โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ

‘บวรศักดิ์’รองฯเตรียมยกร่างรธน

เมื่อถามว่ามีมือกฎหมายจำนวนมากเหตุใดจึงเลือกนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เข้ามาเป็น รองนายกรัฐมนตรีดูด้านกฎหมาย นายอนุทิน กล่าวว่า สมัยตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก นายบวรศักดิ์ เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้โทรมาแจ้ง ตนเองว่าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ ก็เคารพนับถือท่านมาตั้งแต่ตอนนั้น และจะให้มาทำเรื่องรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งนายบวรศักดิ์มีส่วนในการยกร่างรัฐธรรมนูญ

ไม่กดดันมีเวลาทำงาน4เดือน

เมื่อถามว่าการมีอายุเพียง 4 เดือนรู้สึกกดดันหรือไม่นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีอะไรกดดัน แต่กดดันตัวเองมากกว่า การทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบคือ แสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง ซึ่งเป็นความถนัดของตนอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาก็ได้ทำหลายอย่าง และได้ประสานทุกกระทรวงร่วมกัน

ตรวจประวัติเสร็จทูลเกล้าฯทันที

ส่วนรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นายอนุทินระบุว่า จะให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นั่งรองนายกฯควบ รมว.คลัง เพราะการเป็น รมว.คลังจะต้องไปพูดคุยในเวทีโลก การสวมบทบาทรองนายกรัฐมนตรีเพิ่มโอกาสมากกว่าเป็นรัฐมนตรีปกติ แล้วการจะได้รับความน่าเชื่อถือจากนานาชาติจะเพิ่มมาอีก ระดับหนึ่ง

เมื่อถามว่าจะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ทันทีที่ตรวจสอบประวัติเสร็จสิ้น ตอนนี้ก็พร้อมที่จะดำเนินการต่อ

‘ศักดิ์ดา’ไขก๊อกพ้นสส.รอนั่งรมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.)ที่ล่าสุดมีชื่อติดโผคณะรัฐมนตรีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งรมช.มหาดไทย หรือมท.3ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอลาออกจาก สส.โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้ การลาออกจาก สส.ของนายศักดิ์ดาคาดว่าเพื่อไปดำรงตำแหน่ง ครม.ในรัฐบาลนายอนุทิน

‘สันติ’ไม่พร้อมดันลูกชายนั่งแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะลงตัวแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่าในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ซึ่งมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ ติดอยู่ในโผ แต่จากการตรวจสอบประวัตินายสันติพบว่าขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีโดยนายสันติจะส่งนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ ลูกชาย มานั่งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข แทน

‘อ้วน’นำครม.‘เพื่อไทย’นัดสุดท้าย

เวลา10.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาลนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งสุดท้ายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมประชุมเท่านั้นโดยมีรัฐมนตรีแจ้งลาประชุม 5 คน คือ 1.นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 2.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ 3.นายอนุชา สะสมทรัพย์ รมช.สาธารณสุข 4.นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และ5.นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย

นฤมล-สุชาติ’ยิ้มแย้มเข้าร่วมอำลา

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าว่าที่รัฐมนตรีใหม่ในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯเข้าร่วมประชุมครม.นัดสุดท้ายด้วย อาทินางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว. ศึกษาธิการซึ่งมีชื่อนั่งตำแหน่งรมว.ศึกษาธิการ รวมถึงนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ซึ่งชื่อนั่งตำแหน่งรองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มเข้าร่วมประชุม เพื่ออำลานายภูมิธรรมและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน

‘อ้วน’นำครม.ทานมื้อเที่ยงกับสื่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าภายหลังเสร็จสิ้นประชุมครม.นายภูมิธรรมพร้อมครม.ได้ลงมาร่วมรับประทานอาหารกับสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ข้างรังนอกกระจอก 3 เพื่อเป็นการอำลาตำแหน่งอย่างเป็นทางการด้วย

นายภูมิธรรมกล่าวว่าวันนี้มีความตั้งใจที่จะมารับประทานอาหารกับสื่อมวลชน หลังได้ทำงานร่วมกันมาตลอด มีรักกันบ้าง กระทบกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่คิดว่าไม่เป็นปัญหา เป็นธรรมชาติของการทำงานร่วมกัน ตนรู้สึกเสียดายที่อาจจะเร็วไปนิดนึง ที่จะต้องจากกันไป แต่ไม่เป็นไร พวกเราเริ่มที่จะเก็บของ เพราะนายกฯใกล้ที่จะจัดตั้งรัฐบาลใกล้เสร็จแล้ว

เตรียมกลับพท.ลุยทำงานต่อไป

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล เรามีหน้าที่ เมื่อเรามีปัญหาเรื่องการฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องกลับไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ส่วนรัฐมนตรีที่ยังเป็น สส.ก็กลับไปทำหน้าที่ ส่วนตนไม่ได้เป็น สส.ก็กลับไปทำงานกับพรรคเพื่อไทย

“เมื่อได้พูดคุยกันทั้งหมดแล้ว พวกเราพร้อมที่จะทำพรรคต่อไป โดยยังยึดมั่นในอุดมการณ์ พรรคเพื่อไทยยังมีต้นทุนอยู่ อย่างน้อยประชาชน 10,000,000 คน ยังรักและผูกพัน เราจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทำงานต่อไป และคนในพรรคเพื่อไทยเข้มแข็ง พร้อมที่จะสู้ ส่วนใครจะทำอะไรต่อไป ถือว่าเป็นเอกสิทธิ์” นายภูมิธรรม ระบุ