‘หนู’ชี้หลายหน่วยทยอยตอบกลับ
ตรวจประวัติเข้ม
ยันยังไม่มีบุคคลใดถูกตีตกจากโผ
เปิดตัว‘รมว.ยุติธรรม’เร็วๆนี้
‘ศุภจี’เปิดใจนั่งรมว.พาณิชย์
ลุยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“หนู”เผยตรวจประวัติรมต.ต้องใช้เวลา หลายหน่วยทยอยตอบกลับยันยังไม่มีบุคคลใดถูกตีตก จ่อเปิดตัว‘รมว.ยุติธรรม’โควตาคนนอกเร็วๆนี้ ด้าน‘ประเสริฐ’ยันกำลังใจลูกพรรคพท.ยังดี จับมือกันแน่น ปรับตัวเข้าโหมดเลือกตั้ง โวพรรคใหญ่เก๋ากลยุทธ์อยู่แล้ว’ภูมิธรรม’ยันต้องรื้อระบบ-ปฏิรูปพรรคใหม่ หลังวุ่นบริหารประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ลั่นเป็นนักการเมือง ต้องพร้อมถูกตรวจสอบ ด้านมติศาลรธน.ชี้ ประชามติ3ครั้ง ร่างรธน.ใหม่ ห้ามไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างโดยตรง
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำสั่งบังคับโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้กลับไปจำคุก 1 ปี จะส่งผลกระทบต่อพรรค พท.หรือไม่ ว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ย. มีการประชุมพรรค พท. สมาชิกพรรคทุกคนยังมีกำลังใจดี และเข้าใจดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น พรรคไม่ท้อถอยและยังคงเดินหน้าทำงานให้กับประชาชนด้วยกำลังใจที่ยังมีอยู่ ซึ่งเป็นกำลังใจที่ทุกคนเข้าใจถึงสถานการณ์และพร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศต่อไป
พท.พร้อมเข้าสู่โหมดเตรียมเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เสถียรภาพของพรรค พท.ยังมั่นคงดีหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนยังมีความห่วงใยพรรคและจะเดินหน้ากิจกรรมของพรรค รวมไปถึงนโยบาย ซึ่งขณะนี้พรรคเตรียมเข้าสู่โหมดของการเลือกตั้งแล้ว ยืนยันว่า ขณะนี้ สส.ของพรรคเยังจับมือกันแน่น เมื่อถามว่า จะต้องปรับเปลี่ยนนโยบายอะไรหรือไม นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะได้หารือกับหัวหน้าพรรคเพื่อจะดำเนินการเรื่องต่างๆ เมื่อถามว่า การที่ นายทักษิณ ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะทำให้กระแสของพรรคดีขึ้นหรือไม่ในการเลือกตั้ง นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรค พท.มีกลยุทธ์หลายอย่างในการที่จะขับเคลื่อนและในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่อันดับหนึ่ง ซึ่งมีกลยุทธ์ต่างๆ และมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายปัจจัย ขอให้ดูว่าเวลาที่เหลืออยู่คงจะมีการเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง โดยที่หัวหน้าพรรคอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯก็ยังคงเป็นแกนหลักนำพรรคต่อไป เมื่อถามถึงหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ส่วนตัวมองอย่างไรบ้าง นายประเสริฐ ปฏิเสธที่จะวิจารณ์โดยระบุว่า เมื่อเราออกมาแล้วก็ต้องให้รัฐบาลใหม่ได้มีโอกาสแสดงฝีมือ ขอไม่วิจารณ์
‘อ้วน’ลั่นต้องรื้อระบบ-ปฏิรูปพรรค
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า จะไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนต และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะยังคงอยู่กับพรรคหากสมาชิกยังคิดว่า น.ส.แพทองธาร ยังทำงานได้ ซึ่งสมาชิกก็คิดเช่นนั้นอยู่ พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในหลายเรื่อง เพียงแต่ต้องทำให้เข้าระบบ ที่ผ่านมาตอนที่ไปบริหารประเทศ หลายคนก็ไม่มีโอกาสและไม่มีเวลาเข้าพรรค ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่เราสำนึกอยู่ว่า จะกลับไปทำงานชดเชย
คนใกล้ชิดหาประโยชน์ใช้กม.ตรวจสอบ
เมื่อถามว่าในที่ประชุมสส.พรรคเมื่อวานนี้(9 ก.ย.68) นางสาวแพทองธาร ได้การกำหนดทิศทางของพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเตรียมตัวปรับปรุงพรรคและปฏิรูปพรรค กลับไปสร้างระบบ ประสานงานต่างๆให้ดีและเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ส่วนกรณีเพจCSI LA ออกมาแฉเครือข่ายก๊วนเดียวกันของ น.ส.แพทองธาร ที่ใช้ การเมือง-ธุรกิจ-โปรเจกต์รัฐ หมุนหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงคนใกล้ชิด น.ส.แพทองธาร ที่ปรากฏชื่อ นายปิฎกสุขสวัสดิ์ สามี และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานของ น.ส.แพทองธาร นั้น นายภูมิธรรม ยอมรับว่า เรื่องนี้ก็พูดยาก ว่าใครใกล้ตัวขนาดไหน แต่เป็นสิ่งที่กระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการ ตนคิดว่า จะแจ้งชัดก็ต่อเมื่อ ทุกอย่างชัดเจน แต่ตนมองว่าไม่เป็นไร เพราะเราเป็นนักการเมือง เราพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ
‘ศุภจี’สวมสูทน้ำเงินเข้า’ภูมิใจไทย’
เวลา 13.20น.ที่พรรคภูมิใจไทย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ในฐานะว่าที่รมว.พาณิชย์ สวมชุดสูทสีน้ำเงินเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจ เพื่อหารือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดย นางศุภจี สวมชุดสีน้ำเงินทั้งชุดเข้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมยกมือไหว้ยิ้มทักทาย กลุ่มสื่อที่เข้ารุมถ่ายภาพ
‘หนู’เปิดตัว’ศุภจี’ว่าที่รมว.พาณิชย์
เวลา 14.65น.ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ว่าที่รองนายกรัฐมตรีและรมว.คลัง เดินทางเข้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อมาหารือกับ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่ รมว.พาณิชย์ หลังหารือ นางศุภจี กล่าวเปิดใจครั้งแรกถึงการรับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ว่า ตนตั้งใจเหมือนนายกฯพูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆเป็นระยะเวลาที่มีความท้าทายและมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกรัฐมนตรี คือทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ
พร้อมฟื้นศก.ให้ประเทศเดินหน้า
เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่งและจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯและนายเอกนิติ ในการทำเรื่องเศรษฐกิจประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ระยะเร่งด่วนอยากจะทำอะไรก่อน นางศุภจี กล่าวว่า ขออนุญาต เนื่องจากตนยังไม่ได้รับโปรดเกล้าฯและต้องรอนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของภาพใหญ่ด้วย ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนก็ต้องรอดู ว่านโยบายหลักภายใต้การนำของนายกฯ เป็นอะไรและเรามีหน้าที่เสริมในเป้าประสงค์เดียวกัน เพื่อทำประโยชน์สูงสุดให้ประเทศ ดังนั้นจึงขอยังไม่พูดว่าจะทำอะไรก่อนหลัง
‘หนู’ชื่นชมเสียสละมาช่วยฟื้นฟูศก.
นายอนุทิน กล่าวว่า จะมีมืออาชีพอีกท่านหนึ่งเข้ามาช่วยงานในด้านพาณิชย์ การค้าขาย การสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งนางศุภจี จะมาปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การกำกับดูแล นายเอกนิติ โดยนายเอกนิติจะควบในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า ทาบทามนางศุภจีมาร่วมงานได้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ตนใช้ความคาดหวังและผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติจีบท่าน และขอให้เห็นแก่เรื่องพวกนี้ และท่านประสบความสำเร็จมามากมายแล้ว มีประสบการณ์ มีความสามารถในการบริหารจัดการ กิจการและองค์กรระดับใหญ่มาแล้ว จึงขอให้ท่านช่วยเหลือบ้านเมืองด้วยกัน เมื่อถามว่า นางศุภจี เป็นนักธุรกิจ เวลา 4เดือนจะฟื้นฟูเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน นายอนุทิน ระบุว่า นางศุภจี ไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นนักบริหารมืออาชีพ เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้มากพอสมควร ฉะนั้นขอให้เชื่อมั่นว่า นางศุภจี มีความเสียสละอย่างมากที่ทิ้งเงินเดือนและรายได้จากการเป็นกรรมการหลายบริษัท ในหลายที่ แต่ก็ยอมมาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ก็ขอให้ให้โอกาส และขอให้เชื่อมั่นว่าพวกเราจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องห่วง รัฐบาลของตนมีอำนาจเต็ม
ชี้ตรวจสอบประวัติรมต.ต้องใช้เวลา
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจประวัติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้รับรายชื่อและส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการตอบกลับมาหลายคนแล้วและจะทยอยตอบกลับมา เมื่อถามว่า จะเสร็จสิ้นเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า บางที่มีความล่าช้าเนื่องจากต้องไปถามหน่วยงานทุกจังหวัด ซึ่งมีทั้งหมด 77จังหวัด สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นไปตามข้อปฏิบัติ จึงต้องให้ดำเนินการเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องดีเอาให้มันจบทั้งหมด เพราะพอบอกไม่มีปัญหา ตั้งไป 3 วันกลับมีปัญหา ก็ให้มันจบ เมื่อทุกอย่างส่งกลับมาเรียบร้อยจะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปให้มีความเห็นตรงกันอีกครั้งว่าข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์และจะเร่งนำขึ้น ทูลเกล้าฯต่อไป
เมื่อถามว่า ตอนนี้มีบุคคลที่ส่งชื่อไปแล้วถูกตีกลับมีปัญหา นายอนุทิน กล่าวยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มี ซึ่งเมื่อส่งกลับมา เลขาครม.ก็จะรวบรวมและสรุปให้ตนเองทราบ ซึ่งถ้าไม่ผ่านก็เสนอไม่ได้ เมื่อถามว่า จะสามารถสรุปรายชื่อนำขึ้นทุลเกล้าฯเมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ยังระบุไม่ได้ ต้องส่งไปยังองค์กรต่างๆ แต่ละองค์กรทราบอยู่แล้วว่า จะต้องเร่งอย่างเต็มที่ เพราะเป็นเรื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชื่อ รมว.ยุติธรรม ซึ่งเหลือเพียงตำแหน่งเดียว ล่าสุดได้ชื่อแล้ว ซึ่งจะเปิดตัวในเร็วๆนี้
ศาลแนะช่องทางทำรธน.ฉบับใหม่
วันเดียวกัน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารข่าวถึงการประชุมปรึกษาคดี เรื่องพิจารณาที่ 9/2568 กรณี ประธานรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา210วรรคหนึ่ง (2) กรณีที่ นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอให้รัฐสภาพิจารณามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา 1.ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุพ.ศ.2560 รัฐสภามีอำนาจริเริ่ม หรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติโดยเสียงข้างมาก 5ต่อ2เสียง วินิจฉัยว่า ภายได้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 รัฐสภามีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ แต่ต้องให้ประชาชนออกเสียงประชามติ ให้ความเห็นชอบว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน
ทั้งนี้ การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะต้องเป็นไปตามบทบัญญัติ หมวด15 ซึ่งรัฐสภามีอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมได้ แต่รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 5คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายอุดม สิทธิวิธีธรรม นายวิรุฬท์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์และนายนภดล เทพพิทักษ์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 2คน คือ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ เห็นว่า ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 รัฐสภาไม่มีอำนาจริเริ่มหรือแสดงความต้องการเพื่อจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เว้นแต่จัดให้มีการออกเสียงประชามติให้ความเห็นชอบว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
ร่างรธน.ฉบับใหม่ต้องทำประชามติ3ครั้ง
2.การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติกี่ครั้ง ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6ต่อ1เสียงวินิจฉัยว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติ 3ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่2 ให้ประชาชนออกเสียงประชามติเกี่ยวกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่ามีวิธีการและเนื้อหาที่สำคัญอย่างไร ครั้งที่3 หลังรัฐสภาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่าเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ อนึ่ง การออกเสียงประชามติครั้งที่1และครั้งที่2 อาจรวมเป็นครั้งเดียวกันได้
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 6คน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายวิรุฬห์ แสงเทียน นายจิรนิติ หะวานนท์ นายนภดล เทพพิทักษ์ นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย 1คน คือ นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม เห็นว่า การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ 2ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่1และครั้งที่3
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี