"อำนวย นิ่มมะโน" ชี้ชัด "ทักษิณ" เป็นผู้สนับสนุนความผิด มาตรา 157 จากคำสั่งศาลฎีกาฯ ชี้เหตุผลชัด!
11 ก.ย.68 พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "เป็นผู้ร่วมกระทำผิดในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต"
ฟังแล้วอาจจะรู้สึกแปลกๆ ตกลงจะเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด หรือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดกันแน่!!!
จากการที่ความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต" ผู้กระทำความผิดจะต้องมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานเท่านั้น ดังนั้น โอกาสที่บุคคลธรรมดา(ไม่มีสถานะเป็นเจ้าพนักงาน) จะกระทำความผิดในข้อหาดังกล่าวในฐานะตัวการก็จะไม่มีโอกาสเกิดขึ้นได้!!!
อย่างไรก็ตาม ประมวลกฎหมายอาญามีบทบัญญัตินอกจากตัวการแล้ว ยังมีผู้สนับสนุนการกระทำความผิดที่จะต้องรับโทษสองในสามของตัวการ(เจ้าพนักงาน) กล่าวคือ เป็นผู้สนับสนุนมีบทบาทในการอำนวยความสะดวก หรือช่วยเหลือในการกระทำความผิดของเจ้าพนักงาน
มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากข่าวแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับที่ 17 วันอังคารที่ 9 กันยายน 2568 ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งกรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่าการบังคับโทษ พันตำรวจโท หรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด หรือไม่???
เนื้อข่าวหน้าที่ 3 บรรทัดที่ 4 ความว่า "...เชื่อได้ว่า ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 จำเลยไม่ได้มีอาการแน่นหน้าอก แต่อ้างว่ามีอาการแน่นหน้าอก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครใช้เหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการส่งตัวจำเลยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ…"
หน้าที่ 3 ย่อหน้าที่ 2 ความว่า "ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า การบังคับโทษจำคุกจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และตามพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้นบ่งชี้ให้เห็นว่า จำเลยทราบข้อเท็จจริงหรือรับรู้เหตุการณ์ได้ว่าตนไม่ได้ป่วยวิกฤตฉุกเฉิน แต่จำเลยมีเพียงโรคประจำตัวซึ่งเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาตัวแบบผู้ป่วยนอกได้โดยไม่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและสภาวะร่างกายของจำเลยเอง นอกจากนั้นยังได้ความว่า จำเลยเข้าไปมีส่วนตัดสินใจในกระบวนการรักษาของแพทย์ โดยปฏิเสธการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจและโรคกระดูกคอกดทับไขสันหลังและเส้นประสาท แต่ให้แพทย์รักษาโดยการรับประทานยาตามอาการและเลือกรับการผ่าตัดนิ้วล็อคและเอ็นหัวไหล่ขวาซึ่งไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และเป็นผลทำให้การรักษาตัวจำเลยในโรงพยาบาลตำรวจขยายระยะเวลาออกไป จำเลยจึงได้รับประโยชน์จากการอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ต้องกลับไปถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจนได้รับการปล่อยตัว และไม่อาจอ้างว่าเป็นการดำเนินการของแพทย์และเจ้าหน้าที่มิได้เกิดจากการกระทำของจำเลยเพื่อถือเอาประโยชน์จากระยะเวลาที่พักอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจมาหักวันคุมขังโทษตามคำพิพากษา
จากข้อเท็จจริงในคำสั่งไต่สวนของศาลในวันนี้ (9 กันยายน 2568) คงจะไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากจะต้องนำไปใช้ในคดีอาญาที่มีการกล่าวหาเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ที่อยู่ระหว่างดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งหากมีเพียงพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ แพทย์ พยาบาลทั้งโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจจะจำนวนสิบหรือยี่สิบคนก็ตาม คดีจะอยู่ในอำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง แต่ถ้าหากมีการดำเนินคดีกับฝ่ายการเมืองร่วมด้วย เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คดีจะอยู่ในอำนาจศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทันที แต่ไม่ว่าจะอยู่ในอำนาจศาลใด จากคำสั่งไต่สวนในวันนี้ข้อเท็จจริงน่าจะเป็นที่ยุติว่าจะต้องมีผู้อื่นซึ่งมิใช่เป็นเจ้าพนักงานจะต้องถูกดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดดังกล่าวแล้วข้างต้นด้วย
เหตุที่กระผมเขียนเรื่องนี้ขึ้น เนื่องจากได้ติดตามนักวิชาการหลายท่านวิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้กันในหลากหลายมิติ แต่ไม่เห็นการพูดในประเด็นนี้ จึงเกรงว่าจะมีปัญหาติดตามมาอีก...
ด้วยความเคารพในความคิดเห็นโดยสุจริต
พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน
อดีตกรรมการปฏิรูปประเทศ
ด้านกระบวนการยุติธรรม
9 กันยายน 2568
12 ต.ค.68
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี