"เสธ.เบิร์ด"ยัน กัมพูชาต้องสิ้นสภาพภัยคุกคามต่อไทยก่อน ค่อยเจรจา"เปิดด่าน" บอกประเทศที่สามควรกดดันกัมพูชา ย้ำไทยต้องรักษาผลประโยชน์ โดยคำนึงถึงทหาร-ประชาชน ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณี การเปิดด่านเนื่องจากถูกกดดันจากประเทศที่สาม ว่า เข้าใจได้ว่าเพราะประเทศที่สาม ก็ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศตนเอง แต่เราก็ต้องทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศเราเช่นกัน วันนี้เราคิดถึงครอบครัวผู้บริสุทธิ์ ที่เสียชีวิต รวมถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ครอบคลุมไปถึงทหาร แนวหน้าที่บาดเจ็บและเสียชีวิตเช่นกัน
"ประเทศที่สามที่กดดันเราเข้าใจว่าเขาทำเพื่อประเทศเขา แต่เราก็ทำเพื่อประเทศเรา อยากให้คิดถึงครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งประชาชนและทหาร กัมพูชาต้องสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามกับไทย ถึงจะเริ่มเจรจา และควรที่จะไปกดดันกัมพูชา เพราะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ขนกำลังมาประชิดชายแดน และหากกัมพูชามีการถอนกำลังออก ไทยมีความเป็นสุภาพบุรุษเพียงพอ ไม่มีการตลบหลังแน่นอน และพร้อมที่จะถอนกำลังเช่นเดียวกัน" พล.ต.วันชนะ กล่าวและว่า สิ่งที่จะจบปัญหานี้ได้ทางกัมพูชา จะต้องสิ้นสภาพภัยคุกคามต่อประเทศไทย เราถึงค่อยเจรจา และตนก็ไม่เห็นด้วย ที่มาบอกว่าพื้นที่ที่ไม่มีการปะทะให้เปิดด่านก่อน เพราะฝ่ายตรงข้ามก็ยังเป็นกัมพูชาอยู่วันยังค่ำ ดังนั้น ต้องทำทุกวิถีทางให้กัมพูชาสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามต่อไทย จึงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะมาเปิดด่านตรงจุดที่ไม่ปะทะ และในวันนี้กัมพูชายังไม่มีความจริงใจ แต่ก็ให้โอกาส ที่กัมพูชาระบุว่าจะทำตามข้อตกลง การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC)
พล.ต.วันชนะ กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในกรอบทวิภาคี จะโยนไปมาระหว่าง GBC , RBC และJBC ซึ่งหากปล่อยเอาไว้แบบนี้ ก็จะยื้อกันต่อไปเรื่อยๆ ปัญหาไม่จบ วันนี้ให้ไปสอบถามประชาชนที่อยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทุกคนอยากให้ปัญหาชายแดนจบเร็ว คำว่ากัมพูชาสิ้นสภาพต่อภัยคุกคามต่อไทย ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำลายจนสิ้นซาก เพียงแต่จะต้องทำให้กัมพูชา ได้รับผลกระทบ ทั้งกำลังทหาร เศรษฐกิจ และความน่าเชื่อถือ เพื่อลดทอนการเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยต่อไปในอนาคตได้
พล.ต.วันชนะ ยังระบุต่อว่า วันนี้ถอนเพียงอาวุธหนักออกจากพื้นที่ยังไม่เพียงพอ เพราะกำลังทหารยังคงอยู่ในพื้นที่ เช่นเดียวกับทางกัมพูชาเรียกร้องให้เราส่งเชลยศึกกลับไป แต่ในขณะเดียวกันยังมีกำลังเผชิญหน้าพร้อมที่จะปะทะกันอยู่ หากทางกัมพูชา ต้องการตัวเฉลยศึกเขาต้องถอนกำลังทหารกลับไป
พล.ต.วันชนะ ยังระบุต่อว่า ตนไม่ทราบว่าการเปิดด่านเป็นนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ แต่อยากให้คิดถึงประชาชนและทหารที่เสียชีวิต และบาดเจ็บรวมถึงครอบครัวของเขา
"การเปิดด่านในจุดที่ไม่ปะทะ ผมไม่เห็นด้วย เพราะว่าจะปะทะหรือไม่ปะทะ ฝั่งตรงข้ามก็คือกัมพูชา ดังนั้นเราจะต้องทำให้เขาสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทยก่อน" พล.ต.วันชนะ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี