‘หนู’ส่งรายชื่อครม.ครบ100เปอร์เซ็นต์ รอตรวจคุณสมบัติ เชื่ออีกไม่นานเรียบร้อย

‘หนู’ส่งรายชื่อครม.ครบ100เปอร์เซ็นต์ รอตรวจคุณสมบัติ เชื่ออีกไม่นานเรียบร้อย

วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

หนู’ส่งรายชื่อครม.ครบ100เปอร์เซ็นต์

รอตรวจคุณสมบัต

เชื่ออีกไม่นานเรียบร้อย

เปรยได้พักงาน2เดือน

กลับมารับใช้บ้านเมือง

เฉลิมชัย’ลาออกหน.ปชป.

นายกฯย้ำครม. ใกล้เสร็จ รอขั้นตอนตรวจสอบคุณสมบัติ เชื่ออีกไม่นานรอทุกอย่างเรียบร้อยก่อน จึงจะเปิดตัว “รมว.ยุติธรรม” เปิดงานแรกปาฐกถา “สธ.” พักงาน 2 เดือน กลับมาพร้อมรับใช้บ้านเมือง อ้อนถ่านไฟเก่ายังอยู่ เชื่อใจกันแล้วทำงานกันง่าย ด้าน “ชูศักดิ์” ไม่มั่นใจส่งร่างแก้หมวด 15/1 ทันหรือไม่เผยนัดทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทยถก 15 กันยายน ขณะที่’กกต.’พร้อมจัดออกเสียงประชามติ ยกคำร้อง’แม้ว’ครอบงำ6พรรค

เมื่อเวลา 11.00น.วันที่12กันยายน2568 ที่เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการนำรายชื่อ ครม.ขึ้นทูลเกล้าฯ ว่า เกือบแล้ว เพราะขณะนี้ รายชื่อถือว่าร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วก็ได้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งนอกเหนือการควบคุมของตน เมื่อวันที่ 11 ก.ย.เรารอการตรวจสอบคุณสมบัติ เชื่อว่าอีกไม่นาน เมื่อถามย้ำว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ใกล้เสร็จแล้วรอแป๊บเดียว เมื่อถามว่าในส่วนของตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะมีการเปิดตัวเมื่อใด นายอนุทินกล่าวว่า รอทุกอย่างต้องเรียบร้อยก่อน


ศุภจี-อรรถพล’ลาออกกสิกรไทย

วันเดียวกัน บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ลงนามโดย นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง เลขานุการบริษัท แจ้งว่า บมจ.ธนาคารกสิกรไทย ขอเรียนว่า นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารและนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ กรรมการอิสระ มีหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการธนาคารและทุกตำแหน่งในธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 12กันยายน256668 รายงานข่าวแจ้งว่า การลาออกของทั้ง 2 คนเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โดย นางศุภจี รับตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ และนายอรรถพล รับตำแหน่ง รมว.พลังงาน

นายกฯเปิดงานแรกปาฐกถาสธ.

ที่อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ร่วมแสดงความยินดีแก่นักสาธารณสุขดีเด่น ผู้ได้รับพระราชทานรางวัล“ชัยนาทนเรนทร ปี2567และร่วมพิธีปิดการประชุมวิชาการสาธารณสุข2568 ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้รับรางวัลชัยนาทนเรนทร ประจำปี2567 นักการสาธารณสุขดีเด่น ประเภทบริหาร โดยมีผลงานสำคัญคือควบคุมโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับ 1 ต้นแบบการควบคุมโรคโควิด-19 โดยก่อนเริ่มงานผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดวันนี้อารมณ์ดีเป็นพิเศษ นายอนุทิน ยิ้มและกล่าวว่า “มาเจอแฟนเก่า คือนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข”

พักงาน2เดือนกลับมาพร้อมรับใช้ชาติ

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มงาน นพ.โอภาส นำทีมบริหารกระทรวงสาธารณสุข มอบพวงมาลัย อวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้านายอนุทินอายุครบ 59 ปี ในวันที่ 13 ก.ย.นี้ เวลา 10.10 น. นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “สาธารณสุขไทย สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า วันนี้มาพบกับท่านในบรรยากาศเช่นนี้ ทำให้รู้สึกคิดถึงเหมือนตัวเองได้กลับคืนสู่เหย้าอีกครั้ง เพราะตั้งแต่พ้นตำแหน่งรมว.สาธารณสุข เมื่อ2ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่า คิดถึงกระทรวงสาธารณสุขอยู่ตลอด ตนออกไปจากกระทรวงสาธารณสุข2ปี ไปมีบทบาทต่างๆที่กระทรวงอื่น พักร้อนไป 2 เดือน และกลับมารับใช้ชาติบ้านเมืองอีกครั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องบอกว่าสิ่งที่ตนจดจำ และประทับใจมากคือตอนที่ทำงานอยู่กระทรวงสาธารณสุข เพราะใช้เวลาทำงานที่นี่ตั้งแต่เป็นรมช.สาธารณสุข เมื่อ22ปีที่แล้วถือว่าใช้เวลาในกระทรวงสาธารณสุขเกือบ7ปี ที่ทำงานกับพวกท่าน พบกับสิ่งที่ท้าทายสิ่งที่เป็นปัญหา สิ่งดีงาม และสิ่งที่ต้องแก้ไข พบมาในทุกมิติ

ถ่านไฟเก่ายังอยู่-เชื่อใจทำงานกันง่าย

แต่สิ่งที่มั่นใจคือความร่วมมือที่ได้จากข้าราชการทุกระดับในกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ภารกิจต่างๆ บรรลุผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ได้รับการยอมรับประสบความสำเร็จ และสิ่งที่พวกเราต้องการมากที่สุดคือสุขภาพที่ดีของพี่น้องประชาชน เชื่อว่าวันนี้กระทรวงสาธารณสุข ดำรงสถานะเป็นผู้นำทางด้านการสาธารณสุขเป็นลำดับต้นๆของโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก กระทรวงสาธารณสุขคงต้องปรับตัว ซึ่งตนมั่นใจว่าถ้าเราทำงานกันด้วยความรัก ความเข้าใจ และความเชื่อมั่นจะไม่มีปัญหาใดๆ

“มาวันนี้ถ่านไฟเก่ายังอยู่ เชื่อว่าทุกท่านเข้าใจความผูกพันที่ผมมีกับกระทรวงสาธารณสุข รักกันไม่มีวันหมดอายุ ขอให้เรามั่นใจซึ่งกันและกัน จะเร่งสร้างสิ่งดีงามให้กับระบบสาธารณสุข ซึ่งจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เราเชื่อใจกันแล้วอย่างอื่นก็เป็นเรื่องง่าย” นายกฯ กล่าว

ขรก.-อสท.ตะโกนเชียร์’นายกฯสู้’

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ นายอนุทิน ลงจากเวทีข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขและอสม.เข้ามาขอถ่ายรูปเซลฟี่และมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจพร้อมตะโกนว่า“นายกฯสู้ๆ”

อ้วน’เชื่อเด็กพท.ไม่ย้ายจากพรรค

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของพรรคเพื่อไทย (พท.) จะผลักดันคนรุ่นใหม่ เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับคนทุกรุ่น คนรุ่นเก่าที่อยู่มานานมีประสบการณ์มาก คนรุ่นกลางกำลังเติบโตขึ้น ส่วนคนรุ่นใหม่ที่สนใจที่จะมาร่วมทำงานกับเราที่ประสบความสำเร็จในด้านอื่นมา ส่วนจะใหม่หรือเก่าไม่ได้วัดที่อายุ ดูที่มาก่อนมาหลัง มีความรู้และความคิด ตอนนี้ยังพูดไม่ได้มากเพราะยังไม่ได้เข้าพรรค แต่บางคนที่เสร็จสิ้นภารกิจจากรัฐมนตรีก็ได้เข้าพรรคไปบ้างแล้ว เมื่อเข้าพรรคจะมีการปรับปรุงโครงสร้างอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ต้องมาคุยกัน เพราะหากรัฐบาลดำเนินการตามที่ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า 4 เดือนจะยุบสภาจริง ถือว่ามีเวลาน้อยมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมาชิกพรรคยังอยู่กับเพื่อไทย ไม่ได้ไหลออกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอบไปหลายครั้งแล้ว ว่าส่วนใหญ่ยังอยู่ อาจมีที่ไปบ้างแล้ว แต่พรรคมั่นใจว่าสิ่งที่ทำทั้งหมดเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ยังรักยังอยู่กับพรรค เท่าที่คุยกับสมาชิกทุกคนอยากให้ปรับปรุง และเมื่อถึงจุดหนึ่งทุกคนมีสิทธิที่จะตัดสินใจและเลือกทางเดิน ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าเราจะไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เราเป็นฝ่ายค้านหลายปี เมื่อเรากลับไปอยู่ที่เดิมก็ยืนอยู่ในจุดยืนของเรา โดยปรับปรุงการทำงานให้เข้ากับสถานการณ์และประชาชน

ไม่มั่นใจส่งร่างแก้หมวด15ทันหรือไม่

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้นัดทีมงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ย. ที่พรรคเพื่อไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 15/1 เพื่อเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะต้องมีการหารือถึงคำถามทำประชามติ ที่จะต้องถาม 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ คำถามว่าเห็นควรว่าจะต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และคำถามที่สองเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะต้องพิจารณาอย่างละเอียด เป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องระบุรายละเอียดสาระสำคัญ ซึ่งจะเป็นเนื้อหาในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องมีการหารือกัน แต่ตนไม่ยืนยันว่า จะทำร่างแรกให้ทันต่อการนำเสนอกรรมาธิการพัฒนาการเมืองในสัปดาห์หน้าหรือไม่ ซึ่งตนไม่มั่นใจ เพราะจะต้องพิจารณาในคำถามข้อสองให้รอบคอบขณะเดียวกันจะต้องมีการหารือกับทีมกฎหมายเรื่องที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นั้น จะสามารถมาได้อย่างไร จะเป็นการแต่งตั้งโดยรัฐสภาหรือไม่

กกต.พร้อมจัดออกเสียงประชามติ

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 3พรรคการเมืองหลักมีการประชุม และมีมติว่าจะต้องเร่งส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำประชามติครั้งแรกทันภายในปลายเดือนมกราคม2569 ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ไปร่วมด้วยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่ไปร่วมประชุมกับพรรคการเมืองแล้ว ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่าสำนักงานมีความพร้อม ไม่ได้ติดขัดอะไร เมื่อถามว่า กกต.พร้อมในการจัดการเลือกตั้ง สส.หากมีการยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ต้องไปดูแผนประชามติการเมืองของทางฝ่ายการเมืองว่าตกลงกันอย่างไรก่อน เรายังไม่เห็นแผนของเขา จึงยังพูดไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่โดยหลักกฏหมายรัฐบาลจะต้องมาปรึกษาหารือกับ กกต.ก่อนแล้วนายกรัฐมนตรีจึงจะเป็นผู้ประกาศวัน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรเลย แล้วจะให้พูดไปก่อนคงไม่ได้ แต่ถ้าในเรื่องของความพร้อม เราก็บอกว่าเราพร้อม ถามว่าต้องกำหนดวันยุบสภาไว้ก่อนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นส่วนของเราๆพร้อม

ยกคำร้องปม’แม้วครอบงำ6พรรค

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องยุบ 6พรรคการเมืองเนื่องจากยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำการจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯโดยผู้ร้องอ้างเหตุที่แกนนำพรรคการเมืองเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารและมาม่ากับ นายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า นายทะเบียนพรรคการ เมือง ได้ยกคำร้อง ภายหลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาตามข้อเท็จจริงแล้ว เพราะจากการตรวจสอบและเชิญ6พรรคเข้าชี้แจงได้รับคำยืนยันว่า ไม่ได้ขาดความอิสระหรือสูญเสียการตัดสินใจ องค์ประกอบพฤติการณ์การครอบงำนั้น จะต้องทำให้พรรคขาดความเป็นอิสระ

เลขาธิการ กกต.ยอมรับว่า การครอบงำพรรคการเมือง เป็นประเด็นสังคมให้ความสนใจ และมีคำร้องระหว่างการพิจารณาอีกมาก ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนใหญ่เป็นการไปพูด ปราศรัย แต่การครอบงำจะต้องพิจารณากฎหมายอย่างละเอียด ซึ่งหากมองผ่านๆหรือความรู้สึกอาจเป็นการครอบงำ แต่ตามกฎหมายนั้นพรรคการเมืองจะต้องยินยอมและบุคคลนั้นได้ครอบงำ ชี้นำ รวมถึงการครอบงำชี้นำนั้นจะต้องทำให้กิจกรรมของพรรคขาดความเป็นอิสระ เมื่อพิจารณากฎหมายครบองค์ประกอบแล้ว ผลการครอบงำนั้น จะต้องทำให้พรรคหรือสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระด้วย ส่วนพฤติการณ์นายทักษิณออกมาพูดตามเวทีต่างๆไม่เข้าข่ายหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต.ชี้แจงว่า ไม่มีหลักฐานที่ฟังได้ว่า เป็นการครอบงำตามกฎหมายและไม่ใช่ตามความรู้สึก ซึ่งจะต้องนำไปพิจารณาตามมาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่ยังมีคำร้อง นายทักษิณ ครอบ งำพรรคเพื่อไทยที่รอการพิจารณาของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่

ปม’อิ๊งค์พ้นหัวหน้าเรื่องของ’พท.’

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์กรณีคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรคของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หลังถูกศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี กรณีผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงว่า หัวหน้าพรรคเป็นตำแหน่งกก.บห.เกิดจากการเป็นสมาชิกพรรคก่อน ซึ่งตอนนี้เรายังไม่เห็นคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่ทำให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคมี2เรื่อง 1.คณะกรรมการจริยธรรมพรรคขับออกจากหัวหน้า แต่ยังเป็นสมาชิกอยู่ 2.พ้นจากสมาชิกพรรค ซึ่งในส่วนของสมาชิกพรรคนั้นจะพ่วงไปที่รัฐธรรมนูญด้วย โดยสมาชิกพรรคจะพ้นต่อเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย แต่ถ้าเป็นศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นคนละอย่าง ซึ่งไม่ถือเข้าเกณฑ์ ดังนั้นจะต้องเป็นคำพิพากษาของศาลฎีกา ส่วนกรณีการพ้นจากกก.บห.เป็นเรื่องภายในพรรค ความรู้สึกของคนอาจจะมองว่าพ้นก็ได้ แต่กฎหมายมีวิธีปฏิบัติ ซึ่งเขาได้กำหนดเป็นเกณฑ์ไว้ เป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะต้องพิจารณาว่า จะมีมติให้พ้นหรือไม่ ซึ่งเราจะไปก้าวก่ายกิจกรรมภายในของพรรคไม่ได้

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top