‘เพื่อไทย’ตั้งทีมศึกษาเสนอ‘แก้รธน.’ต่อสภา กังขา‘ประชามติ’ทันกรอบ 4 เดือนหรือไม่

‘เพื่อไทย’ตั้งทีมศึกษาเสนอ‘แก้รธน.’ต่อสภา กังขา‘ประชามติ’ทันกรอบ 4 เดือนหรือไม่

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 12.18 น.

‘ดนุพร’เผย‘เพื่อไทย’ตั้งคณะกรรมการศึกษา-วางแผนเสนอ‘แก้รัฐธรรมนูญ’ต่อสภา ย้อนถาม‘ปชน.’มั่นใจ‘ภท.’ทำประชามติทันกรอบ 4 เดือนที่ตกลงกันหรือไม่ จี้‘พรรคส้ม’คุย‘อนุทิน’ถามสว.น้ำเงินเห็นด้วยหรือไม่ เพิ่มมาตรา 15/1

14 กันยายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 หลังศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยกรณีกระบวนการขั้นตอนการทำประชามติเพื่อเปิดทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา หลายฝ่ายมีข้อกังวลไม่เพียงเป็นการวินิจฉัยถึงขั้นตอนกระบวนการจัดทำประชามติตามที่สมาชิกรัฐสภาได้เสนอไปแต่ยังมีการวินิจฉัยเพิ่มเติมถึงที่มาที่ไปของสมาชิกร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ว่าไม่สามารถได้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของพี่น้องประชาชน แม้ว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวจะไม่ใช้ประเด็นที่อยู่ในคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่คำวินิจฉัยดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นพรรคเพื่อไทยน้อมรับคำตัดสินของศาล และพรรคเพื่อไทยจึงเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยจะเสนอแนวทางการตั้ง ส.ส.ร. หรือกรรมาธิการที่มีความเกี่ยวข้องยึดโยงและสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประชาชนมากที่สุด ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุด ซึ่งเตรียมศึกษา และวางแผนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสภาต่อไป


นายดนุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะทำให้เร็วที่สุด ซึ่งเราทราบกันดีว่าข้อตกลงของพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยมีการตกลงกันว่าภายใน 4 เดือนเราจะพยายามเร่งเข้าคณะกรรมการชุดเล็กของพรรคเพื่อไทย และเสนอต่อรัฐสภาให้เร็วที่สุด แน่นอนว่า หลายฝ่ายกังวลว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนำไปสู่ทำประชามติจะทันตามกรอบเวลา MOA ของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เนื่องจากทางปฏิบัติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 เพื่อเพิ่มเติมหมวด 15/1 นั้นจะต้องทำโดยพิจารณาร่วมกันของรัฐสภา และจะต้องมีการผ่านการพิจารณาทั้ง 3 วาระ โดยต้องบรรลุเงื่อนไขการเห็นชอบโดย สว. ซึ่งการผ่านเสียงของ สว.นั้นเป็นบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ เมื่อกระบวนการนี้แล้วเสร็จ จะทำให้พี่น้องประชาชนออกเสียงประชามติอีกครั้งว่าเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ด้วยหรือไม่ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มเป็นกังวลว่าในระยะเวลา 4 เดือนตามกรอบเวลาที่ตกลงกันของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยนั้นจะทำได้หรือไม่

นายดนุพร กล่าวต่อว่า เมื่อมีคำถามแบบนี้เข้ามาในสังคม ต้องถามคำถามนี้ย้อนกลับไปที่พรรคประชาชนว่ายังมั่นใจอยู่หรือไม่ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และประชาชนจะได้ออกเสียงประชามติได้ทันในระยะเวลา 4 เดือนตามที่พวกท่านได้กำหนดไว้เอง และที่สำคัญสถานะของ MOA ทั้ง 5 ข้อที่ได้จัดทำร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยนั้นจะเป็นจริงได้กี่ข้อ ถึงแม้ว่าข้อประกาศว่า จะขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านโดยไม่ขอร่วมการจัดตั้งรัฐบาล เริ่มมีหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าเป็นฝ่ายค้านจริงหรือไม่ เพราะภารกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าพรรคประชาชนเป็นพรรคหลักที่จะคอยรักษาองค์ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแทนพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเปิดทางไปสู่การทำประชามติให้เป็นจริงได้มากที่สุดพรรคประชาชนควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการเดินเข้าไปพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และฝากนายอนุทินไปคุยกับสว.ที่หลายท่านเรียกว่า สว.สีน้ำเงินว่าวันนี้แนวทางที่พรรคเพื่อไทย ที่พรรคประชาชนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มมาตรา 15/1 นั้น สว.ของท่านเห็นด้วยหรือไม่

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top