'ทักษิณ'ตั้งตารอ! คาดจันทร์นี้'ครอบครัว-คนเพื่อไทย'ทยอยเยี่ยม

'ทักษิณ'ตั้งตารอ! คาดจันทร์นี้'ครอบครัว-คนเพื่อไทย'ทยอยเยี่ยม

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 15.24 น.

"ทักษิณ"ตั้งตารอ! คาดจันทร์นี้"ครอบครัว-คนเพื่อไทย"ทยอยเยี่ยม พร้อมเปิดขั้นตอนเยี่ยมญาติ-ข้อห้ามระหว่างเยี่ยม ด้าน"โฆษกราชทัณฑ์"เผยเรือนจำเตรียมความพร้อม แย้ม"ทักษิณ"ตั้งตารอพบครอบครัว เยี่ยมผ่านกระจกใส

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลา 5 วัน ภายในแดนแรกรับ เรือนจำกลางคลองเปรม นับแต่วันที่ 9 ก.ย.และจะพ้นการกักโรคในวันที่ 13 ก.ย.เพื่อเตรียมเข้าสู่กระบวนการเยี่ยมญาติในวันจันทร์ที่ 15 ก.ย.นี้ โดยระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการเยี่ยม การติดต่อของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขังและการเข้าดูแลกิจการหรือติดต่อการงานกับเรือนจำ พ.ศ.2561 พบว่าบุคคลภายนอกจะเข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขังได้ มีดังนี้


1.เมื่อได้รับอนุญาตจากผู้บัญชาการเรือนจำ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการเรือนจำในการเข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขัง ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยทางราชการที่ปรากฏภาพถ่ายไปแสดงต่อเจ้าพนักงานเรือนจำ และให้เจ้าพนักงานเรือนจำจดบันทึกข้อมูลบุคคลภายนอกผู้เข้าเยี่ยมหรือติดต่อไว้เป็นหลักฐาน โดยเฉพาะความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขัง กิจธุระ หรือประโยชน์ในการเข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขังนั้น

2.เฉพาะผู้ต้องขังที่ได้รับโอกาสให้ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อจากบุคคลภายนอก 3.ต้องเข้าเยี่ยมหรือติดต่อในวันและเวลาตามที่เรือนจำได้กำหนดไว้ หากมีเหตุพิเศษจำเป็นต้องพบผู้ต้องขังนอกวันและเวลาที่กำหนด ให้ขออนุญาตต่อผู้บัญชาการเรือนจำ แต่ต้องไม่ใช่ระหว่างเวลาที่เรือนจำได้นำผู้ต้องขังเข้าห้องขังแล้วและยังมิได้นำออกจากห้องขัง เว้นแต่ผู้บัญชาการเรือนจำเห็นเป็นการจำเป็นที่สมควรจะอนุญาต

ทั้งนี้ ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการเยี่ยม การติดต่อของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขัง และการเข้าดูแลกิจการหรือติดต่อการงานกับเรือนจำ พ.ศ.2561 ยังระบุอีกว่า เพื่อประโยชน์ด้านการควบคุมหรือความมั่นคงของเรือนจำ ให้ผู้บัญชาการเรือนจำกำหนดให้ผู้ต้องขังแจ้งรายชื่อบุคคลภายนอกที่จะให้เข้ามาพบหรือติดต่อกับตนภายในเรือนจำไว้ล่วงหน้า รายชื่อบุคคลภายนอกนั้นให้มีจำนวนไม่เกิน 10 คน และหากจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงก็ให้สามารถดำเนินการได้โดยต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ในกรณีมีเหตุพิเศษ ผู้บัญชาการเรือนจำอาจพิจารณาอนุญาตให้บุคคลภายนอกนอกเหนือจากที่ได้แจ้งไว้ตามวรรคก่อน เข้าเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขังก็ได้ อย่างไรก็ดี ในการเข้าเยี่ยมนั้น จะเข้าได้ครั้งละ 1 คน คนละไม่เกิน 30 - 40 นาที และ 1 คนสามารถเข้าเยี่ยมได้วันละครั้งเท่านั้น

นอกจากนี้ การยื่นคำร้องขอเข้าเยี่ยมทุกครั้ง ญาติต้องแสดงบัตรที่ออกโดยทางราชการต่อเจ้าพนักงานเรือนจำ โดยมีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้ 1.บุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขัง ต้องอยู่ในเขตที่เรือนจำกำหนดให้เป็นที่เยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขัง 2.ไม่นำสิ่งของใดๆ เข้ามาหรือนำออกจากเรือนจำ หรือส่งมอบให้ หรือรับจากผู้ต้องขังโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมถึงกรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ ในขณะเยี่ยมหรือติดต่อกับผู้ต้องขัง และไม่รับฝากสิ่งของจากบุคคลภายนอกให้แก่ผู้ต้องขัง

สำหรับรอบการเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำกลางคลองเปรม แบ่งเป็นรอบเช้าและรอบบ่าย โดยรอบเช้า ประกอบด้วย รอบที่ 1 เวลา 08.30-09.00 น. รอบที่ 2 เวลา 09.00-09.30 น. รอบที่ 3 เวลา 09.30-10.00 น. รอบที่ 4 เวลา 10.00-10.30 น.
รอบที่ 5 เวลา 10.30-11.00 น. ขณะที่รอบบ่าย ประกอบด้วย รอบที่ 6 เวลา 12.00-12.30 น. รอบที่ 7 เวลา 12.30-13.00 น. รอบที่ 8 เวลา 13.00-13.30 น. รอบที่ 9 เวลา 13.30-14.00 น. รอบที่ 10 เวลา 14.00-14.30 น.

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ในกรณีการเยี่ยมญาติของนายทักษิณ หรือการติดต่อของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขัง คาดว่าอาจจะมีกลุ่มครอบครัวหรือญาติ เพื่อน องค์กรสิทธิต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ประสงค์เดินทางเข้าเยี่ยมจำนวนมาก ดังนั้น ราชทัณฑ์จึงต้องวางแผนบริหารจัดการ แต่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้บัญชาการเรือนจำฯ พิจารณาตามความเหมาะสม

ขณะที่ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีการคุมขังนายทักษิณ ที่วันนี้ครบ 5 วัน กำหนดการกักตัวเฝ้าระวังโรค ซึ่งอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนจะจำแนกแยกแดนไปอยู่แดนใดนั้น ขึ้นอยู่กับวงรอบของแต่ละเรือนจำ ซึ่งทราบว่าเรือนจำจะมีการประชุมทุกหนึ่งเดือน ขณะนี้ยังไม่มีการแยกแดน ทำให้นายทักษิณจะไปอยู่ในแดนของผู้สูงอายุก่อน เนื่องจากเข้าหลักเกณฑ์เป็นผู้ต้องขังสูงอายุเกิน 65 ปี

พ.ต.ท.เชน ระบุอีกว่า สำหรับวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ที่จะอนุญาตให้ญาติและทนายความเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ทางเรือนจำฯ มีความพร้อม แต่ไม่ได้จัดสถานที่ให้เยี่ยมเป็นพิเศษ ทุกอย่างจะดำเนินการเหมือนผู้คุมขังทั่วไป พร้อมบอกว่า นายทักษิณตั้งตารอวันนี้ เพราะจะได้เจอครอบครัวที่เป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต เบื้องต้นตนรับรายงานว่าจะมีญาติเข้าเยี่ยม แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพราะยังไม่เป็นการเยี่ยมญาติแบบใกล้ชิดที่สัมผัสกันได้ ส่วนการรักษาความปลอดภัยหากมีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาให้กำลังใจ ก็จะประสานตำรวจท้องที่เข้ามาดูแลอำนวยความสะดวก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อตรวจสอบไปยัง 10 รายชื่อบุคคล ที่สามารถเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ได้ตามที่นายทักษิณระบุไว้กับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อครั้งถูกส่งตัวออกรักษาพยาบาลภายนอกเรือนจำ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ประกอบด้วย 1.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ 2.นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีของ น.ส.แพทองธาร 3.น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือ เอม บุตรสาวคนกลางของนายทักษิณ 4.นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ น.ส.พินทองทา 5.นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือ โอ๊ค บุตรชายคนโตของนายทักษิณ 6.น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ภรรยาของนายพานทองแท้ (สะใภ้) ส่วนอีก 4 คนที่เหลือ คือ บรรดาหลานๆ ของนายทักษิณ จึงเป็นที่จับตาว่า ในการเยี่ยมญาติครั้งนี้ที่เรือนจำกลางคลองเปรม ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ บังคับโทษ 1 ปี จะมีบุคคลใดในครอบครัวทยอยเดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณภายในเรือนจำตามวันที่เวลาใดบ้าง รวมถึงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และคนใกล้ชิด

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top