อิ๊งค์-เอม’ควง‘พจมาน’เยือนคุก
เยี่ยม‘เทวดาแม้ว’
หลังผ่านกักโรคครบ5วัน
สนทนาผ่านกระจก30นาที
‘อิ๊งค์’เผยพ่อตัดผมแล้ว
แข็งแรงดีแต่ยังมีความดัน
ครอบครัวอบอุ่น! “อิ๊งค์-เอม” ควงมารดาเยือนเรือนจำกลางคลองเปรม เยี่ยมเทวดาทักษิณ หลังกักโรคครบ 5 วัน “อิ๊งค์” เผยไม่ได้กอดพ่อ เพราะสนทนาผ่านกระจก 30 นาที ย้ำ ทักษิณสบายดีจิตใจเข้มแข็งแต่ความดันขึ้นๆ ลงๆ เครียดประปราย ด้านทนายปัดแผนยื่นเรื่องคุกขังนอกเรือนจำ บอกยังไม่ถึงเวลา ขู่ฟ้องกลับพวกที่จ้องใส่ร้ายนายใหญ่
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 15 ก.ย.68 ที่ เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน เเขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม โดยปรากฏว่าครอบครัวของนายทักษิณ โดยเฉพาะในส่วนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้เดินทางมาโดยขบวนรถตู้ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Lexus สีดำ ทะเบียน 9 กษ 195 กรุงเทพมหานคร ส่วนคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม เดินทางมาโดยรถตู้ส่วนบุคคลยี่ห้อ Mercedes-benz สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮว 36 กรุงเทพมหา นคร
โดย น.ส.แพทองธาร สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวทับในสูทสีครีมแขนยาว กลัดกระดุมสีทองกางเกงขายาวสีกรมท่า พร้อมถือกระเป๋าสีดำ มัดรวบผมหางม้าด้วยความเรียบร้อย ส่วน น.ส.พินทองทา หรือเอม สวมใส่เสื้อสูทแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ปล่อยผมสลวยยาว ขณะที่ คุณหญิงพจมาน สวมชุดกระโปรงยาวสีฟ้าสลับม่วง สีสันสดใส และเมื่อทั้งหมดจอดรถที่บริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ก็ได้เดินเคียงคู่กัน ก่อนยิ้มทักทายสื่อมวลชนที่มาปักหลักติดตามรายงานข่าว
ครอบครัวยิ้มแย้มแจ่มใส
ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า เมื่อสวัสดีทักทาย น.ส.แพทองธาร น.ส.พินทองทา และคุณหญิงพจมาน พร้อมถามความรู้สึกของวันนี้ พบว่าทั้งหมดมีสีหน้าใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มให้สื่อมวลชน ไม่เครียด ก่อนที่เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางคลองเปรมจะได้นำทั้งหมดเข้าบริเวณพื้นที่ด้านในเรือนจำเพื่อเตรียมเยี่ยมญาตินายทักษิณ ชินวัตร ตามลำดับต่อไป
ทั้งนี้ การเดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณภายในเรือนจำ ครอบครัวของนายทักษิณได้เข้าผ่านประตูหน้าของเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นประตูสำหรับเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ และสำหรับบุคคลภายนอกที่มีกิจกรรมจะต้องประสานกับเรือนจำฯ อย่างเช่นกรณีนำสื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวภายในเรือนจำ เพราะโดยปกติแล้วหากเป็นการเยี่ยมญาติทั่วไป ญาติของผู้ต้องขังทุกคนจะต้องเข้าผ่านประตูเยี่ยมญาติบริเวณส่วนเยี่ยมญาติผู้ต้องขัง ซึ่งจะอยู่อาคารด้านข้าง
“อิ๊งค์”เผยพ่อแม้วกำลังใจดี
ต่อมาเวลา 10.50น. น.ส.แพทองธาร ออกมาเปิดเผยภาพรวมภายหลังเยี่ยมญาติ นายทักษิณ ว่า ตนได้เจอคุณพ่อแล้ว พบว่าคุณพ่อตัดผมสั้นแล้ว โดยวันนี้เป็นการเยี่ยมผ่านกระจก วันนี้ไม่ได้เจอตัว ไม่ได้สัมผัสคุณพ่อ แต่ก็ได้พูดคุยกัน มีการส่งกำลังใจให้คุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อก็ได้เล่าว่า มีผู้คุมเล่าให้ฟังว่ามีประชาชนที่มาให้กำลังใจคุณพ่อ มาทานก๋วยเตี๋ยวแถวนี้ บอกว่า ทานพร้อมท่าน ท่านก็ฝากขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามา ก็ได้รับข่าวสารมีผู้มาเล่าให้ฟัง
นอกจากนี้ ในเรื่องของความเครียดหรือความวิตกกังวลนั้น สุขภาพจะมีเรื่องความดัน คงจะจะมีเรื่องความเครียดบ้าง โดยมีความดันขึ้น ๆ ลง ๆ แต่คุณพ่อก็จิตใจเข้มแข็ง เข้มแข็งกว่าเราอีก คุณพ่อก็ให้กำลังใจเรา ส่วนสิ่งที่คุณพ่ออยากฝากบอกถึงคนข้างนอกที่คอยให้กำลังใจ คือ สุขภาพแข็งแรงดี อาจมีเรื่องของความดันบ้าง แน่นอนก็มีความเครียดเพราะต้องเข้าไปอยู่ เป็นเรื่องปกติที่จะมีความเครียดอยู่แล้ว ส่วนใหญ่คุณพ่อก็พูดเรื่องขอบคุณกำลังใจมากกว่า ขอบคุณทุกคนที่ส่งผ่านกำลังใจให้ และเวลาพวกเราเวลาไปที่ไหนก็มีคนให้กำลังใจ จึงขอขอบคุณมาก ๆ
บอกชีวิตมีหลายรสชาด
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลาย ๆ ปี คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เจอกัน แต่เป็นการไม่ได้เจอกันมา 17 ปี รอบนี้ก็มาเจอผ่านกระจก ชีวิตครอบครัวเราก็มี หลายรสชาติ ก็ให้กำลังใจกันไปในทุกเรื่องทุกหัวข้อ ซึ่งการได้เจอกันเมื่อสักครู่นี้ก็ประมาณ 30 นาที
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาว่าด้วยความที่นายทักษิณมีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ อาจจะได้รับบทบาทให้เป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานเรือนจำนั้น น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ตอนนี้เพิ่งผ่านการกักตัวมา 5 วัน ยังไม่มีอะไร เมื่อสักครู่นี้ก็ยังพูดอยู่ว่า เห็นมีผู้ต้องขังอื่น ๆ ที่อายุน้อย ก็บอกว่าจริง ๆ คุณพ่ออายุเยอะ อายุ 76 ปีแล้ว และมีประสบการณ์เยอะ ก็คงมีประสบการณ์ที่สามารถแชร์ได้ อาจจะไม่ใช่เรื่องของภาษาอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงมุมมองต่าง ๆ เพราะคุณพ่ออาจจะชอบเป็นอาจารย์ ชอบอ่านหนังสือ
เมื่อถามถึงเรื่องการยื่นบริหารโทษเนื่องจากเป็นผู้ต้องขังสูงวัย และมีโรคประจำตัว ได้มีการยื่นหรือยังนั้น น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เรื่องกฎหมายทั้งหมดจะให้ทนายความเป็นคนตอบคำถาม จะได้ถูกต้องตามระเบียบต่าง ๆ ส่วนกรณีการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย ซึ่งพรรคเพื่อไทยชนะมานั้น ทางคุณพ่อบอกว่าดีใจด้วย และตนก็ได้คุยกับทางจังหวัดเชียงรายเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณทุก ๆ กำลังใจ ทั้งนี้ คุณพ่อยังไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษ และแน่นอนว่าตนจะมาเยี่ยมคุณพ่อบ่อย ๆ ก่อนที่ทั้ง น.ส.แพทองธาร และ น.ส.พินทองทา ยกมือไหว้ขอบคุณสื่อยุติการให้สัมภาษณ์และเดินทางกลับทันที อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การให้สัมภาษณ์ของบุตรสาวนายทักษิณครั้งนี้ภายหลังการเข้าเยี่ยมนั้น คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ไม่ได้ลงมายืนให้สื่อบันทึกภาพด้วย
“ทักษิณ”ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ
ด้าน ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ทางเรือนจำ โดยผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรมได้อนุญาตให้ทนายความญาติเข้าเยี่ยมหลังจากที่มีการกักโรค 5 วัน วันนี้ถือเป็นวันแรก ซึ่งท่านได้ถูกคุมขังมาแล้วทั้งหมด 7 วัน ดังนั้น การดำเนินการอะไรต่าง ๆ ที่เป็นพิเศษ ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน ก็เป็นผู้ต้องขังที่ปกติเหมือนทุกคน ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร และตอนนี้ท่านอยู่ในแดนพยาบาล ในส่วนของผู้สูงอายุ เนื่องจากท่านมีโรคประจำตัว สวนสุขภาพอาการในตอนนี้เท่าที่เห็นนั้น เรื่องความดันความเครียดเคยมี ท่านพยายามดูแลตัวเองให้ความดันลดลง ก่อนหน้านี้ที่เป็นข่าวก็เป็นเรื่องจริง อย่างที่บอกท่านมีโรคประจำตัว คนอื่นจะไม่เชื่อก็เรื่องของท่าน แต่ความจริงคือท่านมีโรคประจำตัว ส่วนความดันความเครียดเป็นเรื่องของผู้สูงอายุ และโรคประจำตัวที่เกิดขึ้นก็พยายามควบคุมไม่ให้มีอาการกำเริบขึ้นมา จำนวนโรคว่าตอนนี้มีกี่โรคนั้น ตนขอไม่พูดถึงเรื่องโรคอีกต่อไป เพราะโรคท่านมีแน่นอน และเราพูดไปบ่อยแล้วแต่ก่อนมีการไต่สวนบังคับโทษ
ยังไม่ได้เรื่องขังนอกคุก
เมื่อถามว่าการยื่นขอคุมขังนอกเรือนจำมีกระบวนการอย่างไรบ้างนั้น ทนายวิญญัติ ระบุว่า การขอคุมขังนอกเรือนจำคงยังไม่ถึงเวลา และคิดว่าเป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์ที่จะเป็นผู้พิจารณา เรายังไม่ทันทำอยู่แล้ว เนื่องจากการคุมขังต้องมีระยะเวลาที่เกิดขึ้นตามมาตรฐานขั้นต่ำก่อน คือต้องมีระยะเวลาที่เกิดขึ้นตามหลักเกณฑ์ จึงจะมีการพิจารณาได้ เรื่องความปลอดภัยที่นายทักษิณจะต้องเข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้ต้องขังรายอื่นนั้น เรื่องของความปลอดภัยเป็นเรื่องหลักอยู่แล้ว โดยที่ผู้ต้องขังไม่ต้องร้องขอ เป็นเรื่องที่เรือนจำและผู้บัญชาการเรือนจำจะคำนึงถึงความปลอดภัยของท่าน เนื่องจากเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี และเป็นเหมือนนักการเมือง เพราะธรรมดาบ้านเราสังคมไทยมีความเห็นต่าง ความปลอดภัยในการป้องกันเรื่องสวัสดิภาพและชีวิตของท่านจึงมีแน่นอน แต่การคุมขังของท่านไม่ได้มีความพิเศษหรือห้องแยกอะไรที่จะกันไว้สำหรับท่านเพียงผู้เดียว ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปตามระเบียบทุกอย่าง เห็นด้วยตา การเยี่ยมก็เยี่ยมตามระเบียบ เพราะในอดีตที่ตนเคยมาเยี่ยมผู้ต้องขังก็มีทั้งห้องเยี่ยมผู้ต้องขัง ห้องทนายความ ห้องพนักงานสอบสวน ก็เป็นไปตามนั้น แต่ก็ต้องเป็นการคุยผ่านกระจกไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
ไม่รู้แม้วมีตร.เป็นบอดีการ์ด
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวถึงการเตรียมปรับสถานที่พื้นที่ของสิ่งปลูกสร้างใหม่เพื่อรองรับนายทักษิณนั้น ทนายวิญญัติระบุว่า ส่วนนี้ต้องถามทางเรือนจำเอง เพราะว่าตนไม่ได้เข้าไปจนถึงเรือนนอน ตนตอบอะไรไม่ได้ แล้วตนก็ไม่เคยเห็นด้วย แต่ตนยืนยันได้ว่าในชีวิตที่ตนเป็นทนายความเคยเยี่ยมแบบไหนก็เยี่ยมแบบนั้น
ถามว่าด้านในที่ทนายทนายความได้เข้าไปเยี่ยมนายทักษิณ พบหรือไม่ว่านายทักษิณอยู่ร่วมกับผู้ต้องขังสูงวัยรายอื่น ทนายวิญญัติ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ทราบว่ามีหลายคน ก็อยู่ในกลุ่มของโซนผู้สูงวัย
เมื่อถามว่ามีการรายงานถึง การมีอดีตนายตำรวจ 2 ราย ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ต้องขังประพฤติดีคอยเป็นบัดดี้ดูแลช่วยเหลือนายทักษิณระหว่างคุมขังนั้น ทนายวิญญัติ กล่าวว่า รายงานจากไหนตนไม่ทราบเหมือนกัน และตนไม่ทราบด้วยความจริงว่าเป็นอะไร และเมื่อถามว่านายทักษิณได้เล่าให้ฟังหรือไม่ว่ามีบัดดี้คอยดูแล ทนายวิญญัติ ตอบว่า การคุยกันเราคุยแต่เรื่องงาน คุยแต่เรื่องสารทุกข์สุกดิบ แล้ววันนี้ตนก็แจ้งให้ท่านทราบว่าวันนี้มีพี่น้องคนเสื้อแดงได้มาให้กำลังใจท่านที่หน้าเรือนจำ ท่านก็บอกว่าขอบคุณมาก ท่านก็ยังถามได้ว่ามาทุกวันเลยหรอ ตนก็ตอบว่า พี่น้องเสื้อแดงให้กำลังใจทุกวัน โดยเฉพาะทราบว่าในวันเสาร์จะมีการจัดกิจกรรมทานข้าวกับท่าน ตนก็เรียนให้ท่านทราบ ท่านก็ดีใจ และฝากขอบคุณ
ขู่ฟ้องคนใส่ร้ายเทวดา
เมื่อถามว่าขณะนี้นายทักษิณต้องอยู่ในเรือนจำฯ 1 ปี เรื่องการจัดการทรัพย์สินจะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะมันมีกระแสว่ามีการยึดทรัพย์สินจากทางกัมพูชา ทนายวิญญัติ ตอบว่า ตนไม่ก้าวล่วง แต่เรื่องคนที่ไปปล่อยข่าวเรื่องยึดทรัพย์สินที่กัมพูชา ตนจะฟ้องแน่นอน มันเป็นเรื่องเท็จ ตนอยากให้ใจเย็น ไม่ต้องกลัวว่าผมจะไม่ฟ้อง มันเป็นเรื่องเท็จ และเป็นเรื่องที่นายทักษิณไม่ได้กังวลอะไร ส่วนเรื่องทรัพย์สินก็เป็นเรื่องของครอบครัวท่าน ตนไม่ก้าวล่วง
เมื่อถามว่าหากนายทักษิณได้รับโทษจำคุกจนถึงระยะเวลา 6 เดือน จะได้เข้าเกณฑ์โครงการพักการลงโทษ เรื่องนี้ทางทนายความได้คุยหารือกับนายทักษิณหรือไม่ ทนายวิญญัติ กล่าวว่า เรื่องเกณฑ์ต่าง ๆ ตนขอตอบว่า เรื่องเกณฑ์ทนายความทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ทนายทนายความต้องถือตามวันเวลาที่คุมขังและเกณฑ์ของเรือนจำเป็นผู้พิจารณา ดังนั้น เราจะไปขอก็ขอไม่ได้ถ้าเกณฑ์ไม่ถึง ฉะนั้น เรือนจำจะเป็นผู้พิจารณาเอง อย่างที่ผู้สื่อข่าวถามตน ตนขออนุญาตไม่ตอบว่าจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่ ก็ต้องดู เพราะวันนี้เพิ่งเป็นวันที่ 7 เรามาให้กำลังใจท่าน และหากมองว่าตามเกณฑ์มันต้องระยะเวลาเท่าใด ตนก็ยืนยันว่าไม่ขอตอบ พร้อมย้ำว่า ถ้าตนไม่ติดภารกิจใดตนจะพยายามมาเยี่ยมท่านทักษิณทุกวัน
ไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษ
เมื่อถามในเรื่องของความปลอดภัย ทางทนายความหรือครอบครัวได้มีการขอความร่วมมือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่องการดูแลนายทักษิณ ขณะที่ถูกต้องขังในเรือนจำหรือไม่ ทนายวิญญัติ เผยว่า เอาให้ชัดเจนเลยว่า ครอบครัวของท่านไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษ ขอใช้สิทธิ์ในการมาเยี่ยมท่านก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว และท่านก็ไม่ได้เรียกร้องขออะไรเกินกว่าผู้ต้องขังอื่นทั่วไปที่จะได้สิทธิ์ ดังนั้น ข่าวที่ออกไป ที่มีการพูดกันสารพัดล้วนแต่เป็นเรื่องของมโน ตนไม่อยากว่าคนเหล่านั้น แต่เมื่อท่านใช้ปากพูดก็พูดไปเถอะแต่ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองด้วย ตอนนี้ขออย่างเดียว เราขอให้ท่านมีสุขภาพดี และท่านได้ออกมาตามที่ท่านได้รับโทษอย่างที่ยอมรับ และพวกเราพร้อมที่จะยอมรับร่วมกัน ท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมีคุณูปการมากมาย เราขอให้ทุกท่านคิดถึงสิ่งที่ท่านทำมา ทุกท่านไม่ต้องคิดตามก็ได้แต่ตนพูดตามปกติว่าท่านเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านก็ต้องอยู่แบบที่ต้องมีความปลอดภัยแค่นั้นเอง เรื่องความปลอดภัยไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่านั้นแต่การดูแลให้ท่านมีความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ต้องดูแล
บอกทักษิณห่วงทุกเรื่อง
ทนายวิญญัติ เผยอีกว่า ในเรื่องของการเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง เรื่องนี้ทุกลมหายใจของท่าน ท่านเป็นห่วงอยู่แล้ว ท่านเป็นแบบนั้น แม้ท่านอยู่ข้างในตนเชื่อว่าท่านก็ยังถามเรื่องบ้านเมืองอยู่ ตามที่ท่านได้คุยกับครอบครัวของท่าน แต่จะคุยอะไรบ้าง ตนตอบไม่ได้ เพราะไม่ได้ฟัง และย้ำว่าการที่ท่านจะได้เป็นผู้ช่วยของเรือนจำก็ยังไม่มีอะไร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า การเยี่ยมญาตินายทักษิณ จะเกิดขึ้นสองครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะในวันพุธและวันศุกร์ ส่วนทนายความสามารถเข้าเยี่ยมได้ทุกวัน
สื่อมวลชนให้ความสนใจเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าครอบครัวชินวัตรที่ไปเยี่ยมนายทักษิณ หนนี้ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก
โดยพ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าม ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมห้องเยี่ยมญาติไว้สำหรับนายทักษิณ โดยจะเป็นห้องแยกออกมาเฉพาะ แต่มีกระจกใสกั้นใช้โทรศัพท์พูดคุยสื่อสาร และไม่ปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่นในห้องเยี่ยมญาติเพื่อความปลอดภัยระหว่างการเดินทางออกจากแดนด้านในเรือนจำมายังห้องเยี่ยมญาติ
ทั้งนี้ ภายในห้องเยี่ยมญาติจะมีเจ้าหน้าที่เรือนจำฯคอยประจำจุดเพื่อให้คำแนะนำและข้อห้ามปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการเยี่ยม การติดต่อของบุคคลภายนอกกับผู้ต้องขัง และการเข้าดูแลกิจการหรือติดต่อการงานกับเรือนจำ พ.ศ. 2561
นอกจากนี้ มีรายงานว่าสำหรับการคุมขังของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมน ตรี ซึ่งเป็นนักโทษเด็ดขาด และได้กักโรคโควิด-19 ครบ 5 วันตามระเบียบ โดยล่าสุดนายทักษิณได้มีการตัดผมตามระเบียบแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มให้ช่วยงานอะไร เพราะให้พักผ่อน คลายความเครียดก่อน ส่วนสภาพจิตใจเบื้องต้นของนายทักษิณ เท่าที่สังเกตอาการพบว่าทำใจได้แล้ว มียาโรคประจำตัวทานตลอด คอยอ่านหนังสือ และดูทีวีคลายเครียด
ด้าน นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกราช ทัณฑ์ เผยว่า การเยี่ยมผู้ต้องขังถ้าญาตมากันหลายคนและครั่งแรกก็จะอนุโลมได้ให้ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นครั้งละไม่เกิน 30 นาที และทุกอย่างก็ต้องทำตามระเรียบของเรือนจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี