‘สามารถ’ ฟันธง ‘อภิสิทธิ์’ ไม่เปลืองตัว ลงแข่งหัวหน้าพรรค ปชป. เปิดสูตร ‘3กลุ่มโหวตเตอร์’

‘สามารถ’ ฟันธง ‘อภิสิทธิ์’ ไม่เปลืองตัว ลงแข่งหัวหน้าพรรค ปชป. เปิดสูตร ‘3กลุ่มโหวตเตอร์’

วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568, 19.16 น.

ขั้วอำนาจเดิมยึดปชป.! ‘สามารถ’ ฟันโช๊ะ ‘มาร์ค’ ไม่คัมแบ็คกู้ ’ประชาธิปัตย์‘ เปิดสูตร ‘3กลุ่มโหวตเตอร์’ รองรับใครคุมคนนั้นชนะถ้า ‘ขั้วหนุนอภิสิทธิ์’ ได้16สส. - 13 กก.บห.พอมีลุ้น

วันที่ 16 กันยายน 2568 นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่แทนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่เพิ่งลาออกไป ว่า หลายคนถามตนว่าใครจะเป็นผู้คุมเกมตัวจริงในการชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรคคนใหม่  มีอดีตสส.หลายคนโทรศัพท์มาหาตนว่าจะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตนจึงวิเคราะห์และแยกสมการตัวเลขของฐานเสียงที่เป็นโหวตเตอร์ หรือผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้เห็นว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย  ถ้ากลุ่มอำนาจเดิมที่เป็นผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน ยังคงควบคุมเสียงของสส.ปัจจุบัน และเสียงของคณะกรรมการบริหาร(กก.บห.)พรรคชุดปัจจุบันอยู่ในมือ  ไม่มีทางที่ผู้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์จะหักด่านให้ขึ้นนั่งเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้  พูดง่ายๆ ถ้ายังมีการแข่งขันโดยกลุ่มขั้วอำนาจเดิมก็หวังจะยึดพรรคต่อ แต่ปรับพรรคให้เป็นพรรคภูมิภาคนิยมคือ ได้กลุ่มสส.ในจังหวัดสงขลา และกลุ่มสส.จังหวัดนครศรีธรรมราช สมมุติเฉลี่ยจังหวัดละ 4-5 เสียง ก็จะได้สส.แน่ๆราว 8-10 คน ก็ได้1โควตารัฐมนตรี และหวังจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลตลอดไปแบบนี้  พรรคก็จะยิ่งตกต่ำลงเรื่อยๆ    แต่หากจะสู้ได้ต้องมีเสียงสส. สนับสนุนขั้วของนายอภิสิทธิ์มากกว่า16 เสียง รวมถึงเสียงของกลุ่ม กก.บห. ปัจจุบันอีกมากกว่า13 คน ถึงจะมีโอกาสชนะ  


”ผมจึงฟันธงว่า  ถ้ายังมีการแข่งขัน นายอภิสิทธิ์ คงไม่มาให้เปลืองตัว เพราะคนขั้วอำนาจเดิมในพรรค มีเจตนาที่จะยึดพรรคต่อไป เพราะเกมตัวเลขอยู่ที่คนคุมคะแนนเสียง ตามข้อบังคับพรรคปชป.  ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนหรือโหวตเตอร์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ  (1.)สส.ปัจจุบัน มีคะแนน 40% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่ จึงเป็นฐานเสียงที่แข็งที่สุด ใครกุมเสียง สส.ได้ ก็มีโอกาสชนะ   ปัจจุบันพรรค ปชป.มีสส. 25 คน มีคะแนน 40% เท่าว่า สส. 1 คน จะมีคะแนนถึง 1.6% (40%/25)    (2.)กก.บห. มีคะแนน 20% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่ ปัจจุบัน เหลือ กก.บห.32 คนในจำนวนนี้ มีคนที่เป็น  สส.ปัจจุบัน 8 คน เหลือ กก.บห.ที่ไม่เป็น สส. รวม  24 คน มีคะแนน 20% เท่ากับว่า กก.บห. 1 คน จะมีคะแนน 0.83% (20%/24)    (3.)โหวตเตอร์อื่น เช่น อดีตหัวหน้าพรรค ,อดีตเลขาธิการพรรค, อดีต สส.,รัฐมนตรีของพรรคในปัจจุบัน ,อดีตรัฐมนตรีของพรรค ,หัวหน้าสาขาพรรค  ,ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เป็นต้น มีคะแนน 40% ของคะแนนเสียงของที่ประชุมใหญ่ ตามข้อบังคับพรรค โหวตเตอร์ทั้งหมดจะต้องมีอย่างน้อย 250 คน  ดังนั้น จำนวนโหวตเตอร์อื่นจะต้องมีไม่น้อยกว่า 201 คน (250-25-24) มีคะแนน 40%  หมายความว่า โหวตเตอร์อื่น 1 คน จะมีคะแนน 0.20% (40%/201) เท่านั้น   ถ้าในวันเลือกตั้ง ยิ่งมีโหวตเตอร์เข้าร่วมมากกว่า 250 คน จะยิ่งทำให้โหวตเตอร์อื่นมีคะแนนต่อคนลดน้อยลงอีก   สรุปง่ายๆ เสียง สส.และ กก.บห.จะชี้ขาดทุกอย่าง เพราะมีคะแนนต่อคนสูง และส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้วอำนาจเดิม ที่เป็นผู้คุมคะแนนเสียง“ นายสามารถ กล่าว

อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. กล่าวต่อว่า  ดังนั้น หากกลุ่ม สส.รวมกับกลุ่ม กก.บห. ที่มีคะแนนรวมถึง 60%   ถ้าขั้วอำนาจเดิมรวมกันได้ครบ  ขั้วกลุ่มใหม่ ที่จะเสนอชื่อใครเข้ามาชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ก็แทบจะหมดสิทธิ์ตั้งแต่ยังไม่ลงสนามแข่ง  แต่ถ้าหาก ขั้วกลุ่มใหม่ที่ประกาศตัวสนับสนุนนายอภิสิทธิ์จะสู้ได้ ก็ต้องมี สส.ในมือมากกว่า 16 คน และกก.บห.ชุดปัจจุบันอีก13 เสียงขึ้นไป และยังต้องได้คะแนนจากโหวตเตอร์อื่นอย่างน้อย 15% จากทั้งหมด 40%  หรือคิดเป็นโหวตเตอร์ 75 คนขึ้นไป (ในกรณีที่โหวตเตอร์มี 250 เสียง) ซึ่งไม่ง่ายในเวลากระชั้นชิดเช่นนี้   ส่วนตัวจึงมองว่า เป็นแค่เกมเปลี่ยนหัวเพื่อให้ขั้วอำนาจเดิมทำพรรคเป็นภูมิภาคนิยมมากกว่า ตนจึงตั้งคำถามต่อโหวตเตอร์ซึ่งเป็นคนพรรคปชป. ว่า เขาจะเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เพื่อใคร เพื่อส่วนรวม หรือเพื่ออำนาจของคนบางกลุ่มบางคนต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top