‘จตุพร’เชื่อโอกาส‘ยุบสภา’ก่อน 4 เดือนเป็นไปได้ เหตุ‘รัฐบาลอนุทิน’เจอมรสุมเสี่ยงมากมาย ส่วนความหวังประชาชนแค่ริบหรี่ จับตาชะตากรรม‘ทักษิณ’ มีคดีงอกบวกจำคุกเพิ่มหรือไม่ ส่วน‘เพื่อไทย’แค่เฝ้ารอตัดสินใจชะลอ สส.ไหลออกเป็นช่วงๆ คาดสู้ศึกเลือกตั้งลำบากยากเข็ญ
17 กันยายน 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน เมื่อ 16 ก.ย.2568 โดยประเมินสถานการณ์รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ ว่า ในช่วง 4 เดือนตามสัญญายุบสภานั้น รัฐบาลสุ่มเสี่ยงเผชิญกับปัญหามากมาย โดยประชาชนต้องรอความหวังด้วยความวังเวง
อีกทั้งเชื่อว่า นายอนุทิน จะรักษาสัญญา 4 เดือนยุบสภา เพื่อซื้ออนาคตการเมืองช่วงการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ถ้าการเมืองชุลมุนจากหลายปัจจัยโดยเฉพาะปัญหาคุณสมบัติรัฐมนตรีบางคน และความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ต้องตัดสินใจระหว่างการเปิดด่านเพื่อประคองเศรษฐกิจกับปกป้องความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ การทำโครงการแลนด์บริดจ์ต้องไม่ให้เช่าแถมที่ดิน 3 แสนไร่ รวมทั้งท่าทีจะยกเลิก MOU 43 กับ 44 หรือไม่ โดยการบริหารจัดการความสุ่มเสี่ยงเหล่านี้ ล้วนกดดันรัฐบาลช่วง 4 เดือน ดังนั้น โอกาสจะยุบสภาก่อนถึง 4 เดือนย่อมเป็นไปได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ช่วง 4 เดือนการบริหารประเทศนั้น นายอนุทิน ต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการควบคุม ครม. ให้หลุดรอดจาดความเสี่ยงทางการเมือง ซึ่งฝ่ายค้านทั้งพรรคประชาชนและเพื่อไทยจ้องตรวจสอบอย่างเข้มข้นทุกขณะ
“สิ่งสำคัญที่สุด คือ การพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีเครื่องอุปโภค สาธารณูปโภคให้เป็นจริงและสอดคล้องกับการดำรงชีวิต อีกทั้งต้องรื้อในสิ่งที่รัฐไม่ควรจ่ายซึ่งมีจำนวนมาก รัฐบาลต้องควรกระทำเพราะเป็นเงินประชาชนต้องจ่าย”
ส่วนทักษิณ ใช้ชีวิตในคุกคลองเปรมนั้น นายจตุพร กล่าวว่า การออกแบบชีวิตให้อยู่ในคุกเป็นสิ่งจำเป็น โดยกินง่าย กินน้อย นอนให้หลับ เพื่อให้ระบบภายในร่างกายดีไม่มีปัญหารบกวน ขณะที่การเลี้ยงนักโทษ ย่อมทำได้หากเรือนจำอนุญาต ซึ่งเคยมีและเกิดขึ้นเป็นปกติหรือในเทศกาลต่างๆ อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม คำวินิจฉัยของศาลฎีกานักการเมืองนั้น นอกจากให้ทักษิณ ต้องกลับมาติดคุก 1 ปีแล้วอาจจะมีคดีเพิ่มขึ้นอีก เพราะเมื่อยังไม่เคยติดคุกสักวันเดียวก็ไม่สามารถยื่นถวายฎีกาอภัยโทษได้ ดังนั้นฎีกาลดโทษอาจเป็นโมฆะได้
“อีกอย่างคำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ ระบุทักษิณ เสมือนหนึ่งเป็นตัวการนั้น ป.ป.ช.ก็ต้องดำเนินคดีร่วมกับเจ้าหน้าที่ โดยในสำนวนแรกมีเจ้าหน้าที่ 12 คนถูกสอบสวนความผิด และอาจขยายเพิ่มอีกกว่า 20 คน ซึ่งเป็นโทษและชะตากรรมที่งอกออกมาใหม่”
นายจตุพร กล่าวถึงคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภรรยาทักษิณ เข้าพรรคเพื่อไทยและบอกให้ สส.สู้ๆ ว่า โดยปกติแล้วคุณหญิงเป็นคนระมัดระวังตัวเอง แม้คนในพรรคเพื่อไทยยำเกรงมาก แต่ในสถานการณ์ทักษิณติดคุกยังเป็นเพียงจุดเริ่มการกำหนดท่าทีเท่านั้น อาจมาสกัด สส.จะออกจากพรรค ซึ่งไม่มีใครทำได้ ส่วนเวลาข้างหน้า โดยเฉพาะช่วง 4 เดือนนี้ ทักษิณ และเพื่อไทยต้องตัดสินใจกันอีกหลายรอบ
“แม้พรรคเพื่อไทยเป็นอาวุธชิ้นเดียวให้กลับมาสู่อำนาจได้ แต่ต้องพิจารณาสถานการณ์ของทักษิณถัดจากนี้ไปมาประกอบด้วย ถ้าการถวายฎีกาฯ เป็นโมฆะจะถูกติดคุกเป็น 8 ปีหรือไม่ และจะถูกคดีเพิ่มในการพัก รพ.ตรวจชั้น 14 อย่างไร ดังนั้นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าเขาคงจะคิดตัดสินใจกันทีละตอน โดยเฉพาะการตัดสินใจออกแบบสู้ในสนามเลือกตั้งและ สกัด สส.ออกจากพรรค”
นายจตุพร กล่าวถึง อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ หาเสียงในสนามเลือกตั้ง ว่า คงเหนื่อยกับปัญหาช่วงเป็นนายกฯ แม้ขณะนี้ยังเป็นหัวหน้าพรรคและลงสมัคร สส.ได้ แต่ถ้าเข้าสู่เขตเลือกตั้งหัวหน้าพรรคจะมีบทบาทสำคัญ
“สิ่งสำคัญเมื่อหัวหน้าพรรคมีปัญหาต่างๆนั้น การไปหาเสียงจะเพิ่มคะแนนหรือตัดคะแนนเสียง” นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี