ศาลรธน.ตีตก 2 คำร้อง จัดเลือก สว.ไม่สุจริต-ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

ศาลรธน.ตีตก 2 คำร้อง จัดเลือก สว.ไม่สุจริต-ไม่เป็นไปตามกฎหมาย

วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.36 น.

ศาลรธน.ตีตก 2 คำร้อง จัดเลือก สว.ไม่สุจริต-ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระบุ กกต.กำหนด"วิธีลงคะแนน"เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย หากผู้ร้องเห็นว่าละเมิดสิทธิ์ ใช้สิทธิทางศาลอื่นได้ ส่วนปมร้อง"ประธาน-เลขาฯกกต.-ผอ.กกต.ราชบุรี"เมินรับเบาะแสนั้น ศาลเคยตีตกแล้วหนึ่งครั้ง

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคดีที่ นายภิญโญ บุญเรือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า การดำเนินการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเลขาธิการกกต. ในการกำหนดวิธีการลงคงคะแนนเลือก สว.ส่งผลให้การเลือกสว.ดังกล่าวมิใช่วิธีการลงคะแนนลับ เป็นการกระทำที่ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 25 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูคำสั่งให้การเลือกสว.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และขอให้วินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยวิธีวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47(2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 213 


ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบ ปรากฏว่า การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งทั้ง 2 เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมาย หากผู้ร้องเห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ ผู้ร้องอาจใช้สิทธิทางศาลอื่นได้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรคสาม

ส่วนกรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้การเลือกสว.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ นั้น รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้กำหนดกระบวนการร้องหรือผู้มีสิทธิขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีวิธีพิจารณาของศาสรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารมา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213

สำหรับกรณีที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาสรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 213 นั้น เป็นการขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐรรมนูญ มาตรา 213 ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

วันเดียวกันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคดีที่นายวัฒนา ชมเชย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. และนายณัฏฐกร คงเดชา ผอ.สำนักงานกกต.ประจำจังหวัดราชบุรี ไม่ได้ทำหน้าที่จัดการเลือกสว. อย่างเที่ยงธรรม ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 108 ก. คุณสมบัติ (3) และมาตรา 215 วรรคสอง ด้วยการเอื้อประโยชน์ให้ใช้ แบบ ส.ว. 3 ที่มีลักษณะไม่เป็นไปตามที่กกต.กำหนดไว้ ผู้ร้องยื่นหนังสือแจ้งเบาะแสการทุจริตให้ผู้ถูกร้องทั้ง 3 ทราบ แต่ผู้ถูกร้องทั้ง 3 มีมติยกคำร้องดังดังกล่าว แสดงให้เห็นเจตนาเอื้อประโยชน์ต่อผู้สมัครรับเลือกเป็นสว. และเป็นการลิดรอนสิทธิการได้รับเงินรางวัลในการแจ้งเบาะแส

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปราย แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบ ผู้ร้องได้เคยยื่นคำร้องในลักษณะเดียวกันกันนี้ต่อศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ 77/2567 (เรื่องพิจารณาที่ ต.62/2567) ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา การยื่นคำร้องดังดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐรรมนูญ พ.ศ.ศ. 2561 มาตรา 46 วรรคสาม กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่น คำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และเมื่อมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว คำขออื่นย่อมเป็นอันตกไป
//////////
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top