‘ภูมิธรรม’ชี้‘พินทองทา’ทำธุรกิจดีอยู่แล้ว แย้มอาจทาบ‘ณัฐพงศ์’สามีเอมนั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทยหากเสียงเชียร์เยอะ มั่นใจ สส.ไม่ไหลออก หลัง‘คุณหญิงพจมาน’เข้าพรรคให้กำลังใจ เชื่อ 10 ล้านเสียงยังหนุน ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ที่ 1 ก็ที่ 2
เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้น ในที่ประชุมได้มีพูดคุยกันอย่างไรบ้างว่า น.ส.พินทองทาท่านทำธุรกิจดีอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกระแสสังคมเชียร์ให้ทาบทามนายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายณัฐพงศ์เป็นคนสมาร์ท หล่ออยู่แล้ว ซึ่งก็ต้องถามเจ้าตัว อย่างไรก็ตาม หากกระแสสังคมเชียร์นายณัฐพงศ์เสียงดังๆ มากๆ ตนอาจจะไปเจรจาคุณแม่และภรรยาของนายณัฐพงศ์
เมื่อถามถึงกรณีที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์มารดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค ที่ได้เข้ามาที่ทำการพรรคและให้กำลังใจ สส.ในการประชุมพรรคที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า คุณหญิงพจมานเป็นคนที่ใจแข็ง เพราะผลกระทบที่มีต่อครอบครัวท่านค่อนข้างรุนแรง การที่น.ส.แพทองธารมาเป็นนายกฯ คุณหญิงพจมานก็ไม่ได้อยากให้มาเป็นนายกฯ อยู่แล้ว เพราะท่านกลัวการเมืองที่รุนแรง ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เมื่อคุณหญิงพจมานเห็นท่านใส่ชุดสีฟ้าขึ้นรถลูกกรงไป สำหรับมหาเศรษฐีที่เคยเป็นอดีตนายกฯ ที่ดีคนหนึ่งของประเทศไทย และมีเงินมากมายมหาศาลขนาดนั้น ไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เมื่อเจอนายทักษิณตัดผมสั้นเหมือนนักเรียนนายร้อย คุณหญิงพจมานท่านก็ยังแซวนายทักษิณว่าเหมือนนักเรียนนายร้อย พูดถึงความทรงจำเก่า แต่ความสะเทือนใจมันก็มี แต่ท่านเป็นผู้หญิงแข็งแกร่ง ไม่เสียน้ำตาง่ายๆ
“คุณหญิงพจมานเป็นคนที่ไม่ยุ่งการเมือง แต่สิ่งที่เป็นมรดกที่ครอบครัวเข้ามามีส่วนผลักดัน และได้เห็นมาตลอด เพราะสิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ท่านก็เข้ามาให้กำลังใจ ยิ้มและบอกว่าสู้ๆ นะคะ ขณะที่สส.ก็รู้สึกประทับใจในการวางตัวของท่านมาโดยตลอด เห็นใจในสิ่งที่พ่อและลูกถูกกระทำ ซึ่งท่านก็ทำให้ สส.ทุกคนรู้สึกดีมากๆ” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าการที่คุณหญิงพจมานมาให้กำลังใจ ทำให้สส.ที่กำลังลังเลใจอยากย้ายพรรค ยังอยากอยู่พรรคเพื่อไทยต่อหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าสส.ส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับพรรค แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีการบริหารจัดการพรรคที่บกพร่องไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง บางคนอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่หลังจากแกนนำต่างๆ กลับมา และเห็นถึงชะตากรรมที่เกิดขึ้นต่อตระกูลชินวัตร ก็ทำความเข้าใจกันได้มากขึ้น ยิ่งเห็นนายทักษิณที่เปรียบเสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่ทุกคนเคารพรักและชื่นชมก็รู้สึกเห็นใจท่าน ดังนั้นความสะเทือนใจที่เกิดขึ้นและเห็นสิ่งที่ท่านต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชน นำพวกเรามาทำสิ่งดีๆ ได้เยอะ ดังนั้นตนเชื่อว่าคนที่จะออกจากพรรคนั้นมีไม่เยอะ ส่วนคนที่กังวลใจและได้พูดคุยกันก็ดีขึ้นเยอะ รู้สึกว่าเรามีพลังเพิ่มขึ้น
“ยืนยันว่า 10 ล้านกว่าเสียงของพรรคเพื่อไทย เป็น 10 ล้านกว่าเสียงที่มั่นคง เราถูกกระทำถูกรัฐประหาร แต่ 10 ล้านเสียงนี้ไม่เคยแปรปรวน แต่จากสถานการณ์การเมืองที่ไร้เสถียรภาพและวุ่นวายขนาดนี้ ผมเชื่อว่า 10 ล้านเสียงยังคงมั่นคง และยังมีเสียงที่เคยสนับสนุนเราก็ตอบรับเรามากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยไม่เป็นที่ 1 ก็เป็นที่ 2 ถ้าจะพลาดไปบ้างก็เป็นที่ 2 แต่จะทำออกมาให้ดีที่สุด” นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายณัฐพงศ์ ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นซีอีโอ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset ธุรกิจกล่องดวงใจของตระกูลชินวัตร เรียนจบปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยฯ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านการจัดการธุรกิจที่ De Paul University สหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาทำธุรกิจส่วนตัวจนประสบความสำเร็จและได้พบรักแต่งงานกับ พินทองทา บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร และถูกจับตามาระยะหนึ่งแล้วว่า อาจเป็นตัวเลือกของตระกูล ชินวัตรที่จะผลักดันลงสู่การเมือง แต่ที่ผ่านนายณัฐพงศ์ ไม่เคยแสดงท่าทีชัดเจนใดๆ ว่าสนใจลงการเมืองหรือไม่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี