วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
‘สภาฯ’มีมติรับหลักการ ร่างแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น ลดอายุ-ไม่จำกัดวาระ ผู้บริหารท้องถิ่น

‘สภาฯ’มีมติรับหลักการ ร่างแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น ลดอายุ-ไม่จำกัดวาระ ผู้บริหารท้องถิ่น

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 17.38 น.

"สภาฯ"มีมติรับหลักการ ร่างแก้ไขกฎหมายท้องถิ่น ลดอายุ-ไม่จำกัดวาระ ผู้บริหารท้องถิ่น พบลงมติเป็นไปแบบทุลักทุเล เกินองค์ประชุมแค่ 2-5 เสียง

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างกฎหมายในกลุ่มของท้องถิ่น และการแก้ไขคุณสมบัติของบุคคลผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งมี สส.ร่วมกันเสนอรวม 10 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (ฉบับที่..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชน , ร่าง พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล (ฉบับที่..) พ.ศ. ... จำนวน 3 ฉบับ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และพรรคชาติไทยพัฒนา , ร่าง พ.ร.บ.เทศบาล (ฉบับที่..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาชน และร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่..) พ.ศ. .... เสนอโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับคณะ


ทั้งนี้ ในสาระสำคัญคือการแก้ไขในประเด็นการลดอายุของผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่น ทั้ง ระดับ อบจ. , อบต.และเทศบาล จากเดิมที่กำหนดให้ต้องมีอายุ 35 ปีขึ้นไป เปลี่ยนเป็นอายุ 25 ปี นอกจากนั้นแล้วได้ตัดข้อกำหนดว่าด้วยการจำกัดวาระดำรงตำแหน่ง ที่ห้ามเป็นเกิน 2 สมัยออกไป โดยให้เหตุผลคือเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนใช้สิทธิและเสรีภาพในระบอบการปกครองอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายก่อนรับหลักการนั้นมีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้าน โดย นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า อภิปรายคัดการการแก้ไขในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากมองว่าอาจเปิดโอกาสให้เกิดการใช้อิทธิพลทางการเมือง ผูกขาดในท้องถิ่นได้ อีกทั้งคนที่อายุ 25 ปีนั้น อาจมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ไม่มั่นคงที่ไม่เหมาะต่อการทำงานที่กดดัน ขณะที่การไม่จำกัดเพดานการดำรงตำแหน่งอาจทำให้กลุ่มผู้มีอิทธิพลได้รับตำแหน่งไปจนเสียชีวิตได้

ขณะที่นายพริษฐ์ ชี้แจงช่วงหนึ่งว่า การลดอายุของผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้บริหารท้องถิ่นนั้น คือไม่ใช่การเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ไม่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ แต่หากประชาชนเห็นว่าคนที่อายุน้อยไม่เหมาะสม ไม่ต้องเลือก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ สส.อภิปรายแล้วเสร็จได้ลงมติ ผลปรากฎว่า ได้แยกลงมติทีละกลุ่มร่างกฎหมาย ซึ่งมติของสภาฯ รับหลักการด้วยเสียงเอกฉันท์ทั้งหมด และเห็นชอบให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญ จำนวน 33 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 15 วัน และให้ใช้ร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคประชาชนเป็นหลักในการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงมติรับหลักการดังกล่าวพบการลงมติที่มี สส.มาแสดงตนและลงมติ เกินจำนวนกึ่งหนึ่งของที่ประชุมมาเพียง 2 - 5 เสียงเท่านั้น ซึ่งระหว่างของการลงมตินั้น นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ย้ำต่อที่ประชุมหลายครั้งให้นายไชยา ย้ำกับ สส.ว่าให้อยู่ในที่ประชุม โหวตแล้วอย่าเดินไปไหน เพราะจะมีการลงมติติดต่อกัน

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top