เปิดรายงาน‘กมธ.กาสิโน’! ฉีกหน้า‘รัฐบาลอิ๊งค์’ ฟันเปรี้ยงขัดรธน.-กระทบหลายมิติ

เปิดรายงาน‘กมธ.กาสิโน’! ฉีกหน้า‘รัฐบาลอิ๊งค์’ ฟันเปรี้ยงขัดรธน.-กระทบหลายมิติ

วันอาทิตย์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.39 น.

‘วุฒิสภา’นัดถกรายงาน‘กมธ.กาสิโน’ 23 ก.ย.นี้ เปิดรายงานศึกษาฯค้าน‘ร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ฉบับ‘รัฐบาลแพทองธาร’ ยันชัดขัดรธน. กระทบหลายมิติ แนะหากจะเดินหน้าต้องประเมินผลกระทบรอบด้าน-ทำประชามติ

21 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณารายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์)  ที่มีนพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สว. เป็นประธานกมธ. ในวันที่ 23 ก.ย.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเนื้อหาของรายงานการศึกษาดังกล่าว มีสาระสำคัญ ซึ่งระบุถึงการศึกษารายละเอียดของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...  ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อผลักดันโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยมีกาสิโน เป็นองค์ประกอบหลักเป็นนโยบายที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความเหมาะสมในบริบทของประเทศไทย

อีกทั้งแฝงไว้ด้วยความเสียหายหลายมิติ อาทิ ทางเศรษฐกิจ ไม่มีความชัดเจนด้านความคุ้มค่าของการลงทุน เพราะเป็นกิจการที่ไม่เกิดรายได้ที่แท้จริง คือ ก่อให้เกิดการผลิตสินค้า และบริการ แต่เป็นกิจการที่โอนเงินจากผู้เล่นที่เสียไปให้ผู้เล่นที่ได้ และยิ่งไม่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาจากต้นทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและภาระของรัฐที่แบกรับ

มิติทางสังคมและสุขภาพ จะเกิดผลกระทบจากการเสพติดพนัน เกิดความรุนแรงในครอบครัว เพิ่มขึ้นของอาชญากรรมและกระทบต่อระบบสุขภาพระยะยาว

มิติกฎหมายและความมั่นคง มีความเสี่ยงเป็นแหล่งฟอกเงิน องค์กรอาชญากรรม และเชื่อมโยงกับกิจกรรมผิดกฎหมายหลายฉบับ และอาจขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง ที่กำหนดให้รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล  องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมายและหลักนิติธรรม เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม และมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ที่กำหนดให้การตรากฎหมายต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม

“กรณีรัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่การพิจารณาของสภา แม้ชื่อร่างไม่ได้ชี้ชัดว่ามุ่งเน้นให้มีกาสิโนเป็นหลัก แต่ด้วยเหตุผลที่ระบุชัดว่าเพื่อสนับสนุนให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และกำหนดให้มีประเภทธุรกิจสถานบันเทิง ตามบัญชีแนบท้ายอย่างน้อย4 ประเภท และต้องร่วมกับ กาสิโน อยู่ด้วยเสมอ ดังนั้นร่างกฎหมายจึงเปิดให้มีธุรกิจบ่อนการพนันโดยชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งย้อนแย้งต่อสำนึกในศีลธรรม และมาตรฐานศีลธรรมของประชาชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญ”

รายงานกมธ. ระบุต่อว่า ในร่างพ.ร.บ.ที่กำหนดในส่วนคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่มี นายกฯ เป็นประธานและรองนายกฯ เป็นรองประธาน และรมต.อื่นๆ 8 กระทรวง และให้อำนาจเสนอครม.สั่งการหน่วยงานปรับปรุง เพิ่มเติม ยกเลิกกฎหมายเพื่อเอื้อให้กับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร และมีอำนาจอื่นๆ ที่มีลักษณะกว้างขวางและรวมศูนย์อำนาจ โดยไม่มีการถ่วงดุลตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก ถือเป็นลักษณะให้เกิดการใช้อำนาจบริหารซ้อนฝ่ายบริหาร ไม่ต้องรับผิดชอบทางการเมือง เพราะไม่ถือเป็นการใช้อำนาจอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 3

มิติด้านศีลธรรมและวัฒนธรรม ไม่สอดคล้องกับคุณค่าและหลักศีลธรรมของสังคมไทย

มิติด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มีความเป็นไปได้ในการถูกวิพากษ์วิจารณ์จากประชาคมระหว่างประเทศเกี่ยวกับการส่งเสริมพฤติกรรมเสี่ยง ไม่พัฒนาแต่ทำลายทรัพยากรมนุษย์และเป็นการเห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า ระยะสั้นไม่ยั่งยืน

“ประเทศไทยยังมีทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโดยไม่ต้องพึ่งอุตสาหกรรมการพนัน โดยเฉพาะรูปแบบโครงการ wellness complex และสามารถพัฒนาเป็นรูปแบบสถานบริการที่ไม่ขัดต่อหลักศีลธรรม ไม่ส่งเสริมพฤติกรรมเสี่ยง และสร้างรายได้จากเงินสีขาวที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ลดเสี่ยงด้านอาชญากรรม และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศในระยะยาว” รายงานกมธ. ระบุ

กมธ.วิสามัญจึงเห็นว่าการส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศไทย ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยไม่เร่งรัดผลักดันนโยบายที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์รองรับ อีกทั้งควรเปิดโอกาสให้ประชาชนและทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการพิจารณานโยบายสาธารณะ กมธ.จึงไม่เห็นชอบด้วยกับเนื้อหา หลักการ และกระบวนการดำเนินการเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...

ท้ายรายงานการศึกษา กมธ.มีข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนโครงการตามพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ใน 3 ฉากทัศน์ คือ

1.ฉากทัศน์เชิงอุดมคติ แนวทางนี้ไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนและเห็นควรให้ส่งเสริมการพัฒนารูปแบบอื่น เช่น welless complex

2.ฉากทัศน์ทางเลือก ในกรณีที่รัฐบาลยืนยันเดินหน้าควรศึกษาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคมสุขภาพ และความมั่นคงให้รอบด้าน พร้อมเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะ และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมผ่านการทำประชามติว่าเห็นควรอนุญาตให้มีธุรกิจกาสิโนหรือไม่

3.ฉากทัศน์เชิงป้องกันความเสี่ยง กรณีที่โครงการดำเนินการได้ แต่ไม่สำเร็จตามสมมติฐานของรัฐบาล หรือไม่สามารถจัดการ ควบคุมผลกระทบทางลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบทันที ต้องชดเชยเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม เพียงพอ

“ข้อเสนอแนะต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ของวุฒิสภาเห็นว่าควรให้รัฐบาลทบทวนร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ และตรวจสอบความเหมาะสมต่อการให้อำนาจกรรมการนโยบายอย่างสมดุลหากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามข้อเสนอแนะ วุฒิสภาควรแสดงท่าทีไม่เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ. เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นทั้งด้านกฎหมาย เศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงของประเทศในอนาคต” รายงานกมธ.ฯระบุ

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top