"ณัฐวุฒิ"ชี้"ดีลพิสดาร" MOA ส้ม-น้ำเงิน ไปไกลเกินกว่า"มีชัย ฤชุพันธุ์"จินตนาการ สร้าง"ฝ่ายค้าน"ตั้ง"รัฐบาล"ค้ำอำนาจ"อนุรักษ์นิยม" จี้"ปชน."เร่งมัดมือ"ภท."เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน
เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2568 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) กล่าวว่า MOA ส้ม-น้ำเงิน ที่พรรคประชาชน (ปชน.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมกันก่อตั้งรัฐบาลชุดนี้เป็นการอุ้มสมเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ไปไกลเกินกว่าจินตนาการของ นายมีชัย ฤชุพันธ์ุ ประธานคณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ วางเอาไว้ เพราะเจตนารมณ์ของฝ่ายอนุรักษ์นิยมในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือต้องการอำนาจรัฐผ่านระบบรัฐสภา โดยมี สว.ที่เป็นพวกตัวเองคอยเลือกองค์กรอิสระ เพื่อให้สามารถคุมกลไกตรวจสอบถ่วงดุลทั้งหลายเอาไว้
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า แต่ MOA ส้ม-น้ำเงิน ได้ส่งผลให้อำนาจรัฐของพรรคภูมิใจไทย มีพลังของพรรคแกนนำฝ่ายค้านคอยหนุนส่งอยู่อีกทางหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างจะมั่นใจว่าตอนที่มีการยกร่างรัฐธรรมนูญ นายมีชัยและคณะก็คิดไม่ถึงว่าจะไปได้ถึงขนาดนี้
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้เมื่อพรรคภูมิใจไทยเสนอเนื้อหาของร่างฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว แม้เนื้อหาจะสามารถรับฟังได้แต่เจตนากลับส่อว่าอาจจะเป็นปัญหา เพราะการให้อำนาจรัฐสภา เลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาทั้งหมด 99 คน สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิด สสร.สีน้ำเงินขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง เพราะพรรคภูมิใจไทย ซึ่งมี สส.อยู่ 69 เสียง เมื่อรวมกับเสียงของ สว.สีน้ำเงิน ซึ่งคาดว่าอาจจะมีได้ถึง 150 เสียง ก็จะกลายเป็นกลุ่มการเมืองที่มีคะแนนสูงสุดในรัฐสภา หากรวมกับคะแนนของพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ก็จะทำให้สามารถกำหนดตัว สสร.ที่จะมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่กลายเป็น สสร.สีน้ำเงิน หมดทั้ง 99 คนเลยหรือไม่
"ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งร่วมกันตั้งรัฐบาลตามดีลพิสดาร ได้สร้างความชัดเจนให้เกิดความมั่นใจในหมู่ประชาชน โดยการจับมือกันให้ สส.ทั้ง 2 พรรค ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน โดยมีเนื้อหาสาระที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน หากจะต้องระมัดระวังเรื่องคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจนว่า ไม่ใช่เป็นการยกอำนาจหรือยก สสร.ให้กับฝ่ายการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่มีการลงนามร่วมกันของพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ในข้อตกลง MOA ส้ม-น้ำเงิน จนถึงวันที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ยังไม่เคยเห็นพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ตั้งโต๊ะพูดคุยกันในระดับผู้นำพรรค เพื่อสร้างความชัดเจนและหลักประกันให้กับประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงสมควรอย่างยิ่งที่หัวหน้าพรรคประชาชน จะนัดหมายหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อประกาศร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของทั้ง 2 พรรค ที่ได้มีการลงนามร่วมกันต่อหน้าประชาชนเหมือนลงนาม MOA 5 ข้อ และร่วมกันยื่นเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของทั้ง 2 พรรค เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของรัฐสภาต่อไป
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทั้งพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยก็ควรที่จะจับมือกันเดินไปหารือกับ สว.อย่างเปิดเผย เพื่อขอรับการสนับสนุนในการลงคะแนนผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในคราวเดียวกันด้วย เพื่อให้ดีลพิสดารในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้สามารถบรรลุเป้าหมายตาม MOA เปิดทางให้เกิดการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้อย่างแท้จริง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี