‘ปธ.กมธ.พัฒนาการเมือง สว.’เข้าใจความกังวล‘ภูมิใจไทย’ กลัวที่มา‘ส.ส.ร.’ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.

‘ปธ.กมธ.พัฒนาการเมือง สว.’เข้าใจความกังวล‘ภูมิใจไทย’ กลัวที่มา‘ส.ส.ร.’ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน.

วันพุธ ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568, 14.42 น.

"ปธ.กมธ.พัฒนาการเมือง สว."เข้าใจความกังวล"ภูมิใจไทย" กลัวที่มา"ส.ส.ร."ขัดคำวินิจฉัยศาลรธน. ขออย่าเพิ่งประเมินไปเอง ลั่นรัฐสภาต้องยืนหลักการประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ รับยังมี สว.หวั่นแก้รธน.หมวด 1-2 จ่อเดินสายชงโมเดลก้าว 2 ขา บันได 2 ขั้น

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงถึงการเดินหน้าจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า กมธ.ตั้งใจที่จะศึกษาแนวทางร่างรัฐธรรมนูญของทุกพรรคการเมือง และขณะนี้ยังรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนความเห็นเพิ่มเติมที่ประชาชนไม่สามารถเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ได้โดยตรง ว่ามีเหตุผลอย่างไร ซึ่ง กมธ.เคารพคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันในหลักการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 3 ว่าประชาชนมีอำนาจอธิปไตยในการสถาปนารัฐธรรมนูญ ประชาชนควรมีสิทธิเลือก ส.ส.ร.ได้โดยตรง และคิดว่ารัฐสภาควรยืนยันสิ่งนี้แทนประชาชน


นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า กมธ.ได้ศึกษาแนวทางเรื่องที่มา ส.ส.ร.ซึ่งได้ลงพื้นที่ทุกภาค พบว่าประชาชนเกือบ 100% ยืนยันอยากเลือก ส.ส.ร.ด้วยตนเอง และต้องการ ส.ส.ร.ซึ่งเป็นตัวแทนของจังหวัด กมธ.จึงทำร่างโมเดล ส.ส.ร.แบบก้าว 2 ขา บันได 2 ขั้น แบ่งเป็นตัวแทนจากในพื้นที่ 200 คน คิดตามสัดส่วนประชากรในพื้นที่ จังหวัดที่ใหญ่ที่สุด มี ส.ส.ร.เต็มที่ได้ไม่เกิน 5 คน เพื่อไม่ให้ต่างจากจังหวัดที่มีขนาดเล็ก และแบบบัญชีรายชื่อที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ สมัครเข้ามา เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาเลือกให้เหลือ 200 คน โดยมีกฎเกณฑ์ว่าคะแนนของสมาชิกรัฐสภาไม่สามารถเลือกได้ทั้งแพค อาจมีคะแนนให้เลือกในสัดส่วนคนละ 5 - 10 คะแนน เพื่อให้เกิดการกระจาย ทำให้ ส.ส.ร.มีความหลากหลายมากที่สุด และข้อเสนอของเราได้อยากให้ ส.ส.ร.ที่ได้รับการคัดเลือก 200 คน ส่วนหนึ่งไปเป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนหนึ่งไปเป็นกรรมการรับฟังความคิดเห็น แต่อีก 200 คนที่ไม่ได้ถูกเลือก ยังมีหน้าที่ไปอยู่ในกรรมการรับฟังความคิดเห็น , กรรมการประชาสัมพันธ์ร่างรัฐธรรมนูญด้วย เพื่อให้ 400 คนที่ประชาชนได้เลือกมามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นโมเดลที่ กมธ.ร่างขึ้นมาในหลักการ ส.ส.ร.อย่างน้อยยังมีการเลือกจากประชาชนโดยตรงขั้นหนึ่ง ก่อนจะให้สมาชิกรัฐสภาเลือกต่อ โดยมีสัดส่วนคะแนนที่ไม่ถูกเลือกโดยเสียงข้างมาก กมธ.จะนำแนวคิดนี้ไปแลกเปลี่ยนในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเวทีต่างๆ และจะจัดกิจกรรมต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เวทีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและการจัดทำประชามติ

เมื่อถามว่า สว.ส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า แนวคิดนี้ยังไม่ได้นำเสนอในวุฒิสภา เป็นการศึกษาของ กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ ซึ่งตนได้นำแนวคิดนี้พูดคุยกันใน กมธ.มีทั้งเห็นด้วยและยังมีข้อกังวล เมื่อได้อธิบายหลักการและเหตุผล หลายคนมีความเข้าใจ และหากตนมีโอกาสจะเดินสายทำความเข้าใจกับวุฒิสภา พร้อมย้ำว่า แนวคิดนี้เป็นเพียงการนำเสนอตุ๊กตาเท่านั้น

เมื่อถามว่า แนวคิดนี้มีความสอดคล้องกับร่างของพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย ที่ให้ประชาชนเลือกมาลำดับแรกแต่ต่างจากของพรรคภูมิใจไทยที่อาจจะไม่ได้ให้ประชาชนร่วมเลือก เพราะกังวลจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ มองว่าจะไปต่อด้วยกันยากง่ายอย่างไร นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นของพรรคภูมิใจไทย เป็นข้อกังวลที่ทุกพรรคการเมืองก็กังวล ซึ่งอาจจะเปิดช่องให้มีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ และเข้าใจในความกังวลของพรรคภูมิใจไทยและหลักการที่สำคัญของรัฐธรรมนูญ ระบุชัดว่าประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ จึงอยากให้สมาชิกรัฐสภายืนยันหลักการนี้ อย่าเพิ่งประเมินไปเองว่าศาลจะวินิจฉัยอะไรที่ขัดกับหลักการตรงนี้

เมื่อถามว่า กมธ.มีความกังวลเรื่องการใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ที่เสี่ยงต่อการกินรวบหรือฮั้วหรือไม่ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า มีความกังวลว่าถ้าสุดท้ายเสียงที่ต้องโหวตเลือก ส.ส.ร.ต้องอาศัยเสียงในรัฐสภาเป็นเสียงส่วนใหญ่ อาจทำให้สัดส่วนของ ส.ส.ร.ถูกชักจูงไปได้ จึงเป็นที่มาของโมเดลของ กมธ.นี้

เมื่อถามว่า เงื่อนไข 1 ใน 3 ของเสียง สว.ที่จะเห็นชอบด้วย ยังเป็นข้อกังวลอยู่หรือไม่ หรือประเมินแนวโน้มว่าจะสามารถผ่านวาระแรกได้ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ยังมี สว.ที่ยังมีคำถาม รวมถึงมีข้อกังวลว่าถ้ามีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นการให้เช็กเปล่า หรือหมวด 1 หมวด 2 จะถูกแตะต้องหรือไม่ จึงต้องเดินหน้าทำความเข้าใจ ตนคิดว่า ส.ส.ร.ที่เราเลือกไปจะเห็นความสำคัญของหมวด 1 หมวด 2 เชื่อว่าต้องเดินหน้ารับฟังความคิดเห็นของประชาชน

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top